สมัยโบราณ โรคห่าลงที่ไหนมีสิทธิ์ตายกันทั้งหมู่บ้าน ต้องรีบอพยพย้ายออกจากหมู่บ้านนั้นให้ทันถึงจะรอดตายได้ แต่ห่าร้ายในปัจจุบันร้ายไปกว่านั้น ขนาดสงครามเชื้อโรค เช่น เชื้อแอนแทร็กซ์ ก็ดูน่ากลัวอยู่แล้ว แต่สงคราม
เชื้อ(เลว) ร้ายที่สามารถทำลายล้างได้ทั้งชีวิตและ จิตวิญญาณ ทำให้คนดีๆ แปรเปลี่ยนเป็นคนเลวร้าย ทั้งทำลาย ล้างสังคมและตัวเองได้ ห่าร้ายเลืองมง ในปัจจุบัน จึงน่ากลัวกว่า

ดังข่าวเริ่มศักราชใหม่ในปีนี้ที่มีการจับกุม ยาบ้าถึง ๒ ล้านเม็ด มีทั้งทหาร นักการเมือง (ส.ส.สอบตก) รวมหัวกับกลุ่ม ส.จ. และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ขนยาบ้าจากสมุนของ เหว่ย เซียะกัง มาจำหน่ายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ต่อเนื่องมาหลายปี โดยเฉพาะกำนัน ที่จับได้คาหนังคาเขา ในครั้งนี้ เคยได้รับรางวัลแหนบทองคำ ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ดีเด่นมาก่อน

ถ้าไม่มีอะไรดลใจคงไม่ทำให้ผู้ใหญ่บ้านดีๆ กลายเป็นคนที่เลวร้ายไปได้ และข่าวที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้นในช่วงวันเด็กปีนี้ เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.๕ อายุ ๑๒ ปี ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีกับผู้ชายมากหน้า หลายตา มีทั้งเสี่ยกระเป๋าหนัก มีทั้งนายตำรวจระดับ รองผู้กำกับ ที่กำลังมีอนาคต ไปได้อีกไกล แต่ต้องกลายมาเสียผู้เสียคนไปตามๆ กัน ทั้งเด็กที่กลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และตัวร้ายที่มีอะไรมาดลบันดาลใจ ทำให้กล้าทำในสิ่งวิปริตผิดเพี้ยน และก็เชื่อกันว่า เด็กที่ถูกหลอกให้ขายบริการ นับวันๆ ก็มีแต่จะแพร่ระบาด ขยายออกไปในวงกว้าง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา ทั้งฟรีเซ็กซ์ ทั้งสลับคู่ ทั้งเซ็กซ์หมู่และมีเอดส์ เป็นบริการแถมให้ด้วยครบวงจร

เด็กถูกล่อลวงให้ขายตัวเพราะเห็นแก่เงิน เป็นปัญหาที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่เงิน โดยอ้างรายได้ อ้างเศรษฐกิจ เป็นสำคัญ ศีลธรรมจะตกต่ำเลวทรามอย่างไรช่างหัวมัน อันนี้น่ากลัวกว่า เพราะน่าจะมีอะไร มาดลบันดาลใจ ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ ถึงกับเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นสิ่งชั่วเป็นสิ่งดี เห็นการทำแท้งเสรี การเปิดบ่อนเสรี ฯลฯ เป็นสิ่งที่จะสามารถแก้ปัญหาสังคม และประเทศชาติได้ ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ หลายฉบับระบุว่า ผีการพนันเข้าสิงคนไทย ให้เล่นหวยใต้ดินกันถึง ๒๓ ล้านคน เศรษฐกิจการพนันนับตั้งแต่พนันบอล บ่อนพนัน และการเล่นหวยใต้ดิน มีวงเงินรวมกันถึงปีละ ๓.๒ แสนล้าน ซึ่งถือเป็นวงเงินที่ใหญ่มาก ย่อมมีผลกระทบ ต่อรากฐาน ทางเศรษฐกิจ และวิถีชีวิต ของผู้คนในสังคม

ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา อะไรๆ ก็ขายไม่ออกนอกจากขายตัว แต่ก็น่าแปลกใจที่เหล้ายังขายได้ แถมบุหรี่กลับขายดี กีฬาการละเล่นซึ่งเป็นอบายมุขถูกยกผงาดขึ้นมาให้ยิ่งใหญ่ ถึงกับมีการตั้งกระทรวงกีฬา เพราะเชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหา ยาเสพติด ทั้งๆ ที่มีการวิจัยพบว่าเทศกาลบอลทำให้วัยรุ่นไทยใจแตก มีสถิติการเสียตัวเพิ่มขึ้นเป็น ๒ เท่า ไม่ต้องพูด ถึงการพนันขันต่อ ที่ตีคู่มากับกีฬาจนก่อให้เกิดอาชญากรรมและมั่วสุมกันล่อยาบ้าเสพยาอีในที่สุด

ในยุคของการล่าดินแดน สิ่งที่น่าแค้นใจของประเทศเมืองขึ้นทั้งหลาย จะถูกพวกล่าเมืองขึ้นเอาฝิ่นและการพนัน มามอมเมาให้คนในชาตินั้นๆ อ่อนแอ ยอมตกเป็นทาสตลอดไป แต่มันจะน่าเศร้าสักเพียงใด ที่คนในชาติด้วยกันเอง มามอมเมากันเอง แล้วก็หายนะกันเองทั้งชาติ หรือว่ามีผีห่าซาตานมารร้ายใดๆ มาดลใจ ให้คนไทย ทำลายทำร้าย มอมเมากันเอง จนเกิดเหตุอาเพศภัย ดุจห่าร้ายลงเมือง

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๓๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕)