คุยนิดคิดหน่อย...
บรรณาธิการ
ผ่านพ้นไปตามกาลอีกปีหนึ่ง
สงกรานต์ตามประเพณีนิยมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแท้แต่โบราณ กับสงกรานต์
จัดตั้ง ขายรูปแบบ ประเพณีวัฒนธรรม เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว ต่างชุ่มโชกไปตามๆ
กัน พวกหนึ่ง ชุ่มเย็นถึงใจ อีกพวกหนึ่ง ชุ่มโชก แต่ร้อนรุมด้วยกิเลส
ที่ใจใฝ่แต่จะตักตวง เอาประโยชน์จากผู้อื่น แต่ไม่คิดว่า มีกากเดนอะไร
เหลือไว้เป็นขยะ สังคมบ้าง ไม่ต่างกับสงกรานต์การเมือง ที่ซัดสาดน้ำคำใส่กัน
น้ำดีบ้างน้ำเสียบ้าง เปียกปอนเปรอะไปด้วยกัน เป็นโอกาสดี ที่เราจะได้รู้เช่นเห็นชาติ
นักการเมืองว่า ใครนักการเมืองน้ำดีน้ำเน่า
"...การสอนคนให้เก่งนี้ ถ้าดูเฉพาะบางแง่มุม
อาจเห็นว่าดีว่า สอดคล้องกับสมัย เร่งรัดพัฒนา แต่ถ้ามองให้ถี่ถ้วน
รอบด้านแล้ว จะเห็นว่า การมุ่งสอนคนให้เก่งเป็นเกณฑ์ อาจทำให้เกิดจุดบกพร่องต่างๆ
ขึ้นในตัวบุคคลได้ไม่น้อย ที่สำคัญมี
ข้อหนึ่ง บกพร่องในความคิดพิจารณาที่รอบคอบและกว้างไกล
เพราะใจร้อนเร่งจะทำการให้เสร็จโดยเร็ว เป็นเหตุให้ การงานผิดพลาด
ขัดข้อง และล้มเหลว
ข้อสอง บกพร่องในความนับถือ และเกรงใจผู้อื่น
เพราะถือว่าตนเป็นเลิศ เป็นเหตุให้เย่อหยิ่ง มองข้าม ความสำคัญ ของบุคคล
อื่น และมักก่อความขัดแย้งทำลายไมตรีจิตมิตรภาพ ตลอดจนความสามัคคีระหว่างกัน
ข้อสาม บกพร่องในความมัธยัสถ์พอเหมาะพอดีในการกระทำทั้งปวง
เพราะมุ่งหน้าแต่จะทำตัวให้เด่น ให้ก้าวหน้า เป็นเหตุให้เห็นแก่ตัว
เอารัดเอาเปรียบ
ข้อสี่ บกพร่องในจริยธรรมและความรู้จักผิดชอบชั่วดี
เพราะมุ่งแต่จะแสวงหาประโยชน์เฉพาะตัว ให้เพิ่มพูนขึ้น เป็นเหตุให้
ทำความผิด และความชั่วทุจริตได้ โดยไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือน
ผู้ที่มีจุดบกพร่องดังกล่าวนี้ เห็นกันอยู่ว่ามักจับเหตุจับผล
จับหลักการไม่ถูก ส่วนใหญ่ จึงประสบปัญหา และ ความผิดพลาด ไม่อาจสร้างความเจริญก้าวหน้าที่มั่นคง
ให้แก่ตนแก่บ้านเมือง ได้ตามเป้าหมาย
ดังนั้น นอกจากจะสอนคนให้เก่งแล้ว
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอบรมให้ดีพร้อมกันไปด้วย ประเทศของเรา จึงจะได้คน
ที่มีคุณภาพพร้อม คือ ทั้งเก่งทั้งดีมาเป็นกำลังของบ้านเมือง กล่าวคือ
ให้ความเก่งเป็นปัจจัย และพลัง สำหรับ การสร้างสรรค์
ให้ความดีเป็นปัจจัยและพลังประคับประคอง หนุนนำความเก่ง ให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร
ที่อำนวยผล เป็นประโยชน์ อันพึงประสงค์แต่ฝ่ายเดียว"
นี้คือ พระราชดำรัส
เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๓๒ ล่วงมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ยังทันสมัย
ทันเหตุการณ์ บ้านเมืองเรา
เป็นน้ำอีกขันหนึ่งที่นักเล่นสงกรานต์การเมืองน่าจะตักตวงเอาไปสาดใส่กัน
เหอะน่า สักขันก็ยังดี
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๔๒ พฤษภาคม ๒๕๔๕)
|