หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

ไอ้คำผลาญ เรื่องสั้น..ธารธรรม


การบวชนานไม่ได้สร้างนิสัยคนให้เจริญขึ้นเสมอไป ถ้าผู้นั้น ไม่มีจิตใจใฝ่ในธรรม แต่กลับทำให้มัวเมา อยู่แต่อภิชฌา ความโลภหลง ในวัตถุต่างๆ จนกลายเป็นคนงมงาย พกพาเอาแต่ความเขลา ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ออกมาใช้ กับชีวิตการครองเรือน บางคนยังไม่ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของผู้อื่น โดยถือตัวว่าบวชมากเรียนมาก จนเป็นที่เคารพ นับถือของผู้คน อาจารย์คำ หรือมหาคำ ที่ชาวบ้านเรียกนั้น ก็ไม่ได้บวชเรียนถึงขั้นเป็นมหาหรอกแค่บวชนาน และ ได้แต่ชักพาให้ผู้อื่นงมงาย พอสึกออกมาจึงกลับงมงายเสียเอง มหาคำเบื่อฟังคำซุบซิบครหาของชาวบ้าน อันเนื่อง มาจากบัวคลี่ หญิงม่ายข้างวัด เกิดศรัทธาในตัวเอง ออกหน้าออกตา จนมีความผูกพันกันมากขึ้น และที่สุด มหาคำ ก็ตัดสินใจ เลิกครองผ้าเหลืองออกมาครองเรือนกับบัวคลี่

ถึงแม้จะสึกหาลาเพศออกมาครองเรือนอย่างฆราวาสแล้วแต่ชาวบ้านยังเรียกขานนามมหาคำอยู่เช่นเดิม เรื่องความรัก ระหว่างสีกากับบรรพชิตนั้น เมื่อสึกออกมาอยู่กินตามประสาโลกแล้ว ชาวบ้านก็ไม่เคยถือสา เมื่อสึก ออกมาใหม่ๆ ก็สงบเสงี่ยม กลิ่นอายของผ้าเหลือง ยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว ชาวบ้านยังให้ความนับถือ ขอคำแนะนำ ในเรื่องต่างๆ อยู่เป็นนิจ แต่พอนานวันเข้า มหาคำก็กลายเป็นนักดื่มตัวฉกาจ จนชาวบ้าน ขนานนาม ให้ว่ามหาคำคอทองแดง มหาแบบนี้มีมากมาย จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา ในที่สุดบ้านมหาคำ ก็กลายเป็น สถานที่ สรวลเสเฮฮา ของเหล่าคอสุราทั้งหลาย

แม้ว่ามหาคำจะตั้งวงกินเหล้าทุกเย็นแต่ตื่นเช้ามาแกก็ไม่เคยอ่อนเพลีย ยังแบกจอบไล่ควายลงทุ่ง ได้ตามปกติ บัวคลี่ก็ไม่เคยว่ากล่าวอะไร เพราะมหาคำแกไม่เคยเสียงาน เมื่อมีเพื่อนกินเหล้า ก็ต้องมีเพื่อนสนิท และรู้ใจ เป็นธรรมดา เช้าวันนั้นหลังจากที่มหาคำไล่ต้อนควายลงไปเลี้ยงที่กลางทุ่ง ทิดหมีคอสุราเพื่อนซี้ ก็เดินเข้ามา ทักทาย แบบกันเอง

"เฮ้ย มหา... เลี้ยงควายแต่เช้าเลยนะวันนี้ ?"

"เออ สายมาแดดร้อนน้ำค้างแห้งหญ้าก็ตายตามไปด้วย ว่าแต่แกไปไหนมาแต่เช้าวะ?"

"มีข่าวดีมาบอกโว‰ย..."

"ข่าวดีอะไรหนอ...? มหารู้สึกงง

"เราจะรวยกันแล้ว...." ทิดหมีกล่าวเบาๆ

"พูดเป็นเล่น อยู่ดีๆ จะรวยได้อย่างไรวะ?" มหาทำท่าสงสัย

"เออน่า ข้าได้ข่าวมาว่าที่ภูถ้ำทองมีเลขเด็ด" ทิดหมีกล่าวตื่นเต้น

"จริงหรือ? พอได้ยินคำว่าเลขเด็ดมหาถึงกับหูผึ่ง รีบเอาเชือกควายที่ถืออยู่ในมือ ไปผูกกับหลักแล้วเดินรี่ มาหาทิดหมี

"แกไปได้ยินมาจากไหนวะหมี?" มหาคำถาม

"ทิดเนยมันบอก คราวที่แล้วมันไปเอากับพระที่นั่นถูกสองร้อย"

"อืมม์...คงเป็นพระกรรมฐานนั่งทางในได้เก่งบอกเลขคนถูก" มหาคำพึมพำ

"ใช่ใช่ น่าจะเป็นแบบนั้น" ทิดหมีสนับสนุน ทันที

"แล้วภูเขาทองที่แกว่ามันอยู่ที่ไหน?

"อยู่ใกล้ๆ รอยต่อชายแดนเขมร"

"ตายห่... ไกลเป็นร้อยกิโล จะไปเอาได้ยังไง หนทางเข้าไปคงลำบากมิใช่น้อย"

"นั่นซี ถ้าเรามีรถนั่งไปเองก็คงไม่ยาก" ทิดหมีแสดงความวิตก

"แกมีเงินไปหาซื้อมอเตอร์ไซค์มาไว้ใช้สักคันซีวะ จะได้ไม่ต้องลำบาก" มหาคำออกความคิดเห็น

"บ้า แค่ค่าเหล้าสองร้อย ข้ายังต้องค้างอีเมี้ยนอยู่เลย แล้วเงินซื้อมอเตอร์ไซค์ ราคาเป็นหมื่นๆ จะให้ข้าไปเอาที่ไหนวะ"

"แล้วเราจะไปเอาตัวเด็ดๆ ที่นั่นกันอย่างไรดี" มหาคำเริ่มคิดหาหนทาง

"เฮ้ย ข้าคิดได้แล้ว" เสียงทิดหมีทำลายความเงียบ

"แกคิดอะไรได้...?"

"ทิดมั่นมันอยากได้ควายไว้ไถนา แต่ว่ามันไม่มีเงินซื้อ"

"อ้าว แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องของเราเล่า?"

"เกี่ยวซี ทิดมั่นมันอยากได้ควายไว้ทำนา เงินไม่มี แต่ว่ามันมีมอเตอร์ไซค์อยู่คันหนึ่ง

มันบอกกับข้าว่า ถ้าใครอยากได้มอเตอร์ไซค์ ก็ให้เอาควายไปแลกกับมัน ถ้าราคาได้กันก็ตกลงเลย"

"หมายความว่า แกจะเอาควายไปแลกกับรถของมัน?"

"เฮ้ย ข้ามีควายที่ไหนกันเล่า ก็เอาควายตัวที่แกเลี้ยงอยู่นี่แหละ ไปแลกกับมัน ข้าว่าราคาจะต้องได้กันอย่างแน่ๆ"

"ได้เรอะ เมียข้าเขาจะเอาขวานจามหน้าผาก เอานะซิ..."

"แกก็หาเหตุผลมาอ้างซี จะยากอะไร รวยแล้วซื้ออีกสักกี่ตัวก็ได้ ถ้าแกไม่ขี้คร้านจะเลี้ยง"

"อืมม์...เอางั้นก็เอาว่ะ แต่ว่าเลขที่ถ้ำที่แกว่านี้เด็ดแน่นะ?

"เออน่า...รีบจัดการเร็วๆ เข้าจะได้ไปกัน"

ว่าแล้วมหาคำกับทิดหมีก็จูงควายไปหาทิดมั่น เพื่อตกลงกันเรื่องเอารถแลกควาย เมื่อราคาได้กันก็เป็นอันว่า มหาคำ ได้รถมาขี่ ทิดมั่นก็ได้ควายไว้ทำนา พอตกเย็น ที่บ้านของมหาคำ ก็ได้ยินเสียงบัวคลี่โวยลั่น

"จะบ้าเรอะ แล้วแกจะเอาอะไรไปไถนาหา มีอย่างที่ไหนเอาควายไปแลกรถมอเตอร์ไซค์เก่าๆ ไอ้มั่นมันบอก ขายอยู่สองพัน ยังไม่มีคนจะซื้อ แล้วแกไปหลงคารมมันได้อย่างไร ถึงได้เอาควาย ไปแลกกับมันล่ะหา"

"นี่แม่คลี่..." มหาคำเดินไปโอบไหล่อย่างอารมณ์ดี

"เคยได้ยินแม่คลี่บ่นว่าอยากได้มอเตอร์ไซค์ ไว้ขี่สักคัน ข้าเองก็สงสารเจ้า เห็นว่าอยู่กับข้ามาก็นาน จะเก็บเงินไว้ซื้อรถ ก็ยังไม่ได้สักที ข้าคิดแล้ว คิดอีกเมื่อเห็นหน้าเจ้าทีไร ก็อดสงสารไม่ได้ เหตุที่ เป็นอย่างนี้ ก็เพราะรัก และสงสาร แม่บัวคลี่นี่แหละ"

มหาคำป้อนคำหวานๆ เข้าไปจนบัวคลี่ใจอ่อน

"จริงเหรอ...ทำเพื่อเค้าจริงๆ นะ"

"โธ่แม่คลี่...ข้าจะโกหกทำไม แม่คลี่ก็รู้ๆ อยู่ว่าข้ารักแม่คลี่มากแค่ไหน"

"อือม์ ก็แล้วแต่พี่ก็แล้วกัน"

เมื่อมหาคำมีรถขี่ก็ตระเวนไปตามวัด ตามถ้ำ และตามภูเขาต่างๆ เพื่อหาเลขเด็ด พอมาถึงบ้าน ก็จะมีเพื่อนฝูง มาห้อมล้อม ถามข่าว และตั้งวงกินเหล้ากันอย่างครึกครื้น มหาคำใจกว้างไม่เคยปิดบัง

"งวดที่แล้วก็มีคนถูกหลายคน แต่งวดนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรลองซื้อดู..." มหาคำกล่าว่อืมม์...ถ้างวดนี้รวย รถมอเตอร์ไซค์ คันใหม่ ข้าจะซื้อให้เองว่ะ"

"เฮ่ย... เรื่องแค่นี้เกรงใจอะไรกัน เอ้าดื่มดีกว่า...."

แล้วเสียงสรวลเสเฮฮาครื้นเครงก็ดำเนินต่อไป บางคนก็พูดเรื่องหวย เลขตัวเด็ดๆ ของหลวงพ่อที่นั่นที่นี่ แต่บางคน พูดเรื่องหมัดมวย

"แหม...บ้านมหาถ้ามีโทรทัศน์ไว้ดูมวยสักเครื่องก็น่าจะดีนะ แกว่ามั้ย?

"นั่นซี พวกเราจะได้ไม่ต้องไปดูที่อื่น และยังดูการจับฉลากออกรางวัลได้อีกกำไรสองต่อ"

"เออ เข้าที เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยโว้ย..." เสียงทิดหมีสนับสนุน

มหาคำนอกจากจะชอบดื่มเหล้า ซื้อหวยซึ่งก็ไม่เคยถูกแล้ว แกยังชอบดูมวยไทยเป็นชีวิตจิตใจ วันไหนได้ดื่มเหล้า ได้คุยเรื่อง เลขเด็ดและได้วิจารณ์มวย แกจะมีความสุขมากที่สุด วันหนึ่งแกออกจากบ้าน ตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับบ้าน ก็เกือบจะพลบค่ำ แกเดินแบกทีวีขาวดำเก่าๆ มาจนเหงื่อชุ่ม แต่ใบหน้าบ่งบอกว่า กำลังมีความสุข

"แม่คลี่ แม่คลี่ ...ออกมาดูอะไรนี่?"

บัวคลี่กำลังทำกับข้าวอยู่ที่ครัว พอได้ยินเสียงมหาเรียกก็รีบออกมาดู

"นี่ไงข้าเอาหนังมาให้ดู" แกกล่าวอย่างภูมิใจ

"อ้าว พี่กลับเข้ามาเมื่อไหร่ไม่ได้ยินเสียงรถ แล้วนั่นเอาโทรทัศน์เก่าๆ ของใครมา?" บัวคลี่ถามด้วยความสงสัย

"โทรทัศน์ทิดอ่ำจ๊ะแม่คลี่ ไอ้อ่ำมันซื้อทีวีสีแล้ว ขาวดำเครื่องนี้มันก็เลยให้ข้าเอามาไว้ดู"

"เขาให้พี่มาดูเฉย ๆ เรอะ?"

"ไม่หรอก มันจะกลายเป็นหนี้บุญคุณกันเปล่าๆ ข้าก็เลยเอารถมอเตอร์ไซค์แลกกับมัน"

"แลกอีกแล้ว เอารถแลกโทรทัศน์เก่าๆ" บัวคลี่บ่นพึมพำ

"สงสารแม่คลี่น"ะ ยามว่างอยากดูหนังดูละครกับเขาบ้างก็ไม่มีโทรทัศน์จะดู ค่ำมืดก็ต้องวิ่งไปดูบ้านคนอื่น นานๆ ครั้งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้า บ่อยครั้งก็เกรงใจเขา พี่ก็เลยตัดสินใจ เอารถแลกโทรทัศน์ไอ้อ่ำ ถึงว่ามันจะเก่าไปหน่อย แต่ภาพ มันก็ยังดี ต่อไปแม่คลี่ก็ดูอยู่บ้านเรา ไม่ต้องไปนั่งดูบ้านคนอื่นไงจ๊ะ"

บัวคลี่ไม่กล่าวตอบอะไร ดีเหมือนกันเพราะมีรถมอเตอร์ไซค์ ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีดีอะไร เช้ามาก็เห็นแต่เพื่อนขี้เหล้า มาชวนไปนั่นมานี่ หาเลขหมดคืนหมดวัน ได้เลขมาซื้อหวยก็ไม่ถูก มีโทรทัศน์ก็ดี มหาคำจะได้อยู่บ้าน อยู่ช่องบ้าง เธอเองก็ชอบหนัง ชอบละคร คิดดูแล้วก็จริง อย่างมหาแกว่า ค่ำมาก็นั่งดูหนังดูข่าว อยู่บ้านเรา เวลาผ่านไป สองเดือนเศษ มหาคำก็ชักเซ็งๆ ซื้อหวยก็ไม่เคยถูก ลงมวยก็แพ้ ค่ำมาก๊งเหล้าเช้ามาก็เพลีย เมียแกก็ชักจะเป็นคน ขี้บ่นขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อทนความรำคาญไม่ได้ แกก็ลงจากบ้านไปเดินเตร่ๆ อยู่แถวบ่อนไก่ชน และที่บ่อนไก่ ก็มีคนที่รู้จัก มักคุ้น บางคนเคยเป็นลูกศิษย์ลูกหา เมื่อสมัยบวช เพื่อนกินเหล้า เพื่อนซื้อเลขซื้อหวย เพื่อนเชียร์มวย เต็มไปหมด

"เฮ้ยมหา...วันนี้เข้าบ่อนเลยหรือวะ?"

"เออ นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บ้าน! เบื่อว่ะ" แกตอบ

บ่อนไก่เป็นที่ชุมนุมของเซียนพนันทั้งหลาย มหามาบ่อยเข้าก็เริ่มติด มาใหม่ๆ ก็เชียร์ไก่ชาวบ้าน หลายครั้งเข้า ก็อยากมีไก่ เป็นของตัวเองบ้าง

"จุ๊ จุ๊ จุ๊ ไก่ตัวนี้งามจริงๆ" มหาคำเข้าไปลูบคลำเป็นการใหญ่

"ไงมหา ชอบเรอะ?" เจ้าของไก่ร้องถาม่อื่มม์ สวยจริงๆว่ะ"

"พ่อของมันชนะหลายไก่ ตัวนี้ลูกของมันก็คงเก่งเหมือนพ่อแหละวะ มีเซียนไก่หลายคนมาขอซื้อ แต่ข้าไม่ขาย"

เจ้าของไก่สาธยายถึงความเก่งและความฉลาด ในการต่อกรกับคู่ต่อสู้ ให้มหาฟังอย่างยืดยาว จนมหาคำ รู้สึก ประทับใจ ในลีลาบรรพบุรุษของไก่ตัวนี้

"ทำยังไงข้าถึงจะได้...?" มหาพึมพำ

"มหาอยากได้เรอะ?"

"อื่อ อยากได้"

"แหม ข้าก็มีอยู่ตัวเดียว ถ้าเอาให้มหาก็จะไม่มีไก่เลี้ยง แต่ดูเหมือนมหาจะชอบมากๆ"

"อือ ชอบ...."

"เอาสิ ข้าจะขายให้..." เจ้าของไก่เสนอ

"แกจะขายเท่าไหร่?"

"อื่มม์ ความจริงข้าก็ไม่อยากจะขายหรอกนะ แต่เห็นว่ามหาอยากจะได้ข้าก็เลยเห็นใจ และเห็นว่าบ้านมหา กับบ้านข้า ก็ไม่ไกลกันนัก เกิดวันข้างหน้าไก่มหาได้ลงบ่อน ข้าก็จะได้พลอยอาศัยเดิมพันด้วย"

"เออน่า เรากันเองอยู่แล้วเรื่องนั้น ว่ามาเถิดแกจะขายเท่าไหร่ ข้าอยากรู้?"

"ข้าขอมหาแค่ห้าร้อย กันเอง"

มหานิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง "ข้าไม่มีเงินค้างกระเป๋าเลยว่ะ" มหาอ้อมแอ้มเบาๆ

"เฮ้ย ห้าร้อยไม่แพงหรอกเท่ากับข้าให้ไก่มหาฟรีๆ นั่นแหละ รับรองถ้าไก่ตัวนี้ได้ลงบ่อนวันไหน วันนั้นแกรวย อย่างแน่นอน

"แกอยากได้โทรทัศน์ไหม ถ้าอยากได้ข้าจะแลก...." มหาเสนอ

"เฮ้ย พูดเป็นเล่นไปได้..."

"ไม่ได้พูดเล่นนะ ข้าพูดจริงๆ ถ้าแกตกลงข้าจะไปแบกโทรทัศน์มาให้"

"อื่มม์ แลกโทรทัศน์เรอะ?"

"ฮื่อ"

"เอาซิ ถ้ามหาต้องการอย่างนั้นก็เอา ลูกข้ามันก็อยากได้โทรทัศน์อยู่เหมือนกัน"

เมื่อเจ้าของไก่ตกลง มหารีบกลับไปบ้าน เป็นโอกาสดีที่บัวคลี่ออกไปทำธุระข้างนอก แกรีบแบกทีวี มาแลกไก่ชน โดยไม่รีรอ

ตะวันบ่ายคล้อยบัวคลี่กลับมาจากทำธุระข้างนอก ก็เห็นมหาคำ กำลังสาละวน อยู่กับไก่ตัวโปรด โดยไม่สนใจอะไร แม้แต่เธอ ที่เดินเข้ามา

"อ้าว พี่...ไปได้ไก่ที่ไหนมาลูบๆ คลำๆ อยู่เล่า?" เธอถามอย่างสงสัย

"ได้มาจากบ่อน" มหาคำกล่าวตอบโดย ไม่หันมามอง

บัวคลี่ดูเหมือนกับว่าจะนึกอะไรได้จึงรีบเดินขึ้นบ้าน เพียงไม่ถึงครึ่งนาที เสียงโวยวาย ก็ดังก้องบ้าน

"แกต้องบ้าแน่ๆ ไอ้มหา มีอย่างที่ไหนเอาทีวีแลกไก่ชน แกบ้าแน่ๆ"

มหาค่อยๆ หันกลับมาทางเสียงเกรี้ยวกราด ของบัวคลี่อย่างใจเย็น โดยไม่สะทกสะท้านกับเสียงด่า

"นี่แม่คลี่ไม่รู้อะไร ไก่ตัวนี้มันเก่งข้าคิดว่าโชคของเรามาถึงแล้ว หากได้ลงบ่อนเมื่อไหร่ มันต้องชนะ และเราก็ได้เงิน เพราะมันเป็นไก่ ที่มีลักษณะดี"

"ดีเดออะไรกัน อ๋อ..นี่แกหวังจะเอาดีทางตีไก่อีกหรือเนี้ย... กินเหล้า ซื้อหวย ลงมวย ยังฉิบหายไม่พออีกเรอะ?"

"เบา ๆ น่าแม่คลี่อายคนอื่นเค้า.."

"กูไม่อายแล้วโว้ย ไอ้คนจังไรไอ้คนไร้สมอง บวชเรียนเสียข้าวสุกชาวบ้าน สึกออกมางานการ ก็ไม่เป็น วันวัน เอาแต่มั่ว อบายมุข ศาสนาไม่เคยสอนอะไรดีๆ ให้แกบ้างเลยเรอะหา... ไอ้มหาเจริญลง มีอย่างที่ไหน ควายทั้งตัว เหลือแค่ ไก่น้อย ตัวเดียว เวรจริงๆ"

มหาทนเสียงด่าไม่ไหว ก็อุ้มไก่เดินหนีจากบ้านไปโดยไม่แยแส ทุกวันหลังจากแกลูบน้ำทาขมิ้นให้ไก่ และรอจน ขนแห้ง แกก็จะอุ้มไก่งามของแก ไปอวดเพื่อนบ้าน คนนั้นคนนี้อยู่เป็นประจำ

เช้าวันหนึ่งแกอุ้มไก่ออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด กว่าแกจะกลับเข้าบ้านใกล้ค่ำ แกเดินกำโพยกระดาษชิ้นเล็กๆ มาอ้างเมีย อย่างตื่นเต้น

"แม่คลี่ แม่คลี่ พรุ่งนี้เรารวยแล้ว" พร้อมกับโชว์บิลหวยให้เมียดู "นี่พระธุดงค์ให้โชคแก่เรา ท่านบอกว่า งวดนี้ออก แน่นอน"

"เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก อ้าว..แล้วไก่ล่ะ นี่แสดงว่าแกขายไก่ซื้อหวย โอ๊ยจะบ้าตาย หมดแล้ว หมดไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

ฮือ..ฮือ..ฮือ.. เวรกรรมอะไรของข้า ถึงมาได้ผัวจัญไรแบบนี้..ฮือ ฮือ ฮือ..???"

บัวคลี่ทั้งด่าทั้งบ่นทั้งร้องไห้ระคนกัน "โหมด.....หมด...หมด...หมด กูหมดตัวเพราะไอ้มหาฉิบหายนี่หละ ฮือ ฮือ ..."

บัวคลี่ขบกรามแน่นแล้ววิ่งเข้าครัว คว้าเอาอีโต้ได้ ก็เดินรี่เข้าใส่สามีอย่างแค้นเคือง

"วันนี้ถ้ากูฆ่าผัวไม่ได้ก็อย่าเรียกอีบัวคลี่..

แก ไอ้มหาคำ..ไอ้คำผลาญ แกอยู่ไปก็รกโลก รกแผ่นดิน ฮื่มม์..มึงตายยยยย...." ว่าแล้ว บัวคลี่กระโดดผึง เข้าใส่

มหาเห็นเมียเอาจริงเช่นนั้น ก็รีบกระโดดหลบ โกยอ้าวอย่างไม่คิดชีวิต เสียงด่าของบัวคลี่ ยังไล่หลังมาติดๆ
"ไป ไป เลย ไอ้ผัวเวร...ไอ้ผัวเฮงซวย..... ไอ้ผัวฉิบหาย..ไปตายทางไหนได้ก็ไปเถอะ แล้วอย่ากลับมา ให้กูเห็นหน้าอีก แกมาเมื่อไหร่ แกตายเมื่อนั้นฮึ่ม..ฮือ ฮือ อ......"

มีคำกล่าวว่าการเลือกคู่ชีวิต ก็คล้ายๆ กับการซื้อหวย เพราะเสี่ยงมาก ยากนักจะถูกรางวัล ส่วนใหญ่จะถูกกิน จนแทบ หมดเนื้อ หมดตัวทีเดียว ครั้งนี้บัวคลี่พลาดถลำ จะจดจำเข็ดหลาบ ไม่ต้องแต่งงานมีคู่อีกเลย ได้ตลอดชีวิต ไหมหนอ...

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๒ พฤษภาคม ๒๕๔๕)