ปิดท้าย
พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ เรืองฤทธิ์
ดูนั่นซี
ทารกแรกเกิดนอนแบเบาะร้องจ้า
สองมือเปล่ากำไขว่คว้าอยู่หยอยๆ
สองเท้ายันฟ้าอยู่เร่าๆ
เรียกร้องอะไรแต่ยังไม่ลืมตาเชียวหรือ
ดูนั่นซี
ร่ำรวยเงินทองทรัพย์สินล้นเหลือ
บ้างโดยสัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
บ้างโดยมิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ
แต่ยังไม่หยุดหย่อนกอบโกยกักตุน
วังวนชีวิตคิดเห็นกว้างไกลไม่พ้นตัวเอง
ไม่เคยทอดสายตาดูเพื่อนด้อยโอกาส
ที่ยังมั่นคงอยู่ในครรลองธรรมน่าชื่นชม
ทั้งที่อดอยากยากจนพ้นประมาณ
มิหนำซ้ำ กลับดูถูกแคลนว่าโง่บัดซบ
ไม่รู้จักฉกฉวยโอกาสทอง
ดูนั่นซี
นอนแน่นิ่งอยู่ในเครื่องแต่งกายอัครฐาน
แบมือรับน้ำใสเจือน้ำอบไทยหอมเย็น
หลั่งรดแล้วรดเล่าจากมากหน้าหลายตา
มีสักหยาดหยดไหมค้างคาอยู่ในมือ
มีสักหยาดหยดไหมซึมซับสู่สายเลือด
ดูนั่นซี
ที่หน้าเตาเมรุหรูวิจิตร
ในโลงทองบรรดาศักดิ์
ร่างไร้วิญญาณนอนหงายสงบนิ่ง
สองมือประณมประคองดอกไม้ธูปเทียน
สำแดงกายกรรมคารวะพระธรรม
แต่มิอาจสำแดงมโนกรรมน้อมนำ
ลวงโลกยามอยู่ ลวงตายามตาย
ไม่มีดียังจะอวดโอ่ดีว่ามีใจใฝ่ธรรม
เนื้อแท้มิเคยใฝ่จริงถึงใจสักน้อย
จะมีอะไรติดมือติดตัวไปได้เล่า
เว้นแต่กุศลอกุศลกรรมที่ก่อไว้
ทรัพย์แท้ที่มิอาจโอนกรรมสิทธิ์ได้
กรรมใครกรรมมัน ทั้งบาปและบุญ
ตนนั่นแหละต้องรับเอาไปเต็มเต็ม
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๔๒ พฤษภาคม ๒๕๔๕)
|