บทเรียนก่อนทำงาน
อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่หากได้รู้ล่วงหน้าซะบ้าง
ก็คงผ่อนคลายอักโข คลี่คลายความเครียด อีกเป็นพะเรอ
อยู่ตรงนี้ แต่รู้อนาคต ก็คงหายตื่นเต้น
หายหวาดกลัว เพราะทำใจได้
คนเล่นหวย หลังวันที่ ๑ กับ ๑๖ แม้ถูกกินรวบ
ก็ไม่เห็นใครจะร้องห่มร้องไห้ตีโพยตีพาย!
ลุ้นก็จริง แต่เตรียมใจเผื่อผิดหวังไว้อีก
๑ ห้องหัวใจ
อย่าให้เหมือนนักการเมืองบางคน ทุ่มเทช่วยประชาชนเต็มที่
แต่พอเขาไม่เลือกเรา กลับโวยวาย นี่หรือ "รางวัลแห่งความดี ความเสียสละ?"
ยิ่งโพนทะนาก็ยิ่งอายเขา
ทำงานไม่ใช่ตั้งใจแล้วจะลุล่วง ยังมีด่าน
๑๘ อรหันต์ให้ฟันฝ่า ด่านหมาขี้เรื้อนอีก ๑๒ ตัว ให้ต่อสู้!
"ไอคิว"
ไม่พอเลี้ยงชีวิต "อีคิว"
ต้องเป็นกองหลังอันเหนียวแน่น มี "เอ็มคิว"
อีกตัวจะได้ไม่พยาบาทอาฆาตใคร "มึงจำไว้!" คำหยาบพรรค์นี้ทิ้งไปได้เลย
ไม่เคยคิด
คิดถึงนักเรียนปีที่หนึ่ง เขายังจับมาปฐมนิเทศซักซ้อมความเข้าใจ
ทำข้อตกลงกันให้ชัดเจน
วันแรกแห่งการทำงาน เจ้านายอาจเรียกมาคุยสภาพงานที่จะเจอ
ต้องขยันนะ ต้องมีน้ำใจนะ ต้องทนนะ
คนจะแต่งงาน เมืองไทยก็น่าจะจับมานั่งฟังปฐมนิเทศ
ชีวิตไม่ใช่กลีบกุหลาบนะสหาย ต่างมีพันธะ สัญญา ต่อกัน เหนื่อยยากเลยนะ
เวลาเลี้ยงลูก
พูดให้ลำบากไว้ก่อน จะได้เตรียมใจแต่เนิ่นๆ
ยังไม่สายถ้าคิดจะถอนตัว!
"การทำงาน"
รางวัลมีสองก็นคือ "คำชม"
กับ "คำติ" "ก้อนอิฐ"
กับ "ดอกไม้" ใครจะทำงาน ต้องเตรียมพร้อม
แอ่นอกรับ
ดอกไม้ทำให้ลอย อาจจะสุขแต่อ่อนแอ
ก็นอิฐทำให้จม อาจจะทุกข์แต่แข็งแกร่ง นี่แหละ รสชาติของชีวิต
ใครอยากฟังแต่คำชม คำสรรเสริญ ก็เหมือนคนบ้ายอ
ภูมิต้านทานต่ำ เม็ดเลือดขาวน้อย!
งานดี งานเจริญก้าวหน้า ต้องมีคนชี้แนะ
ขัดเกลา ขัดขา จับผิด!
อยากจะบวชพระ ก็ต้องอดข้าวเย็น อยากจะเลี้ยงลูก
ก็ต้องอดนอนกันบ้าง ยอมกลับบ้านเร็วขึ้น
อยากจะทำงาน ก็ต้องพร้อมรับสถานการณ์
ต่อคมหอกคมดาบ ต่อปากกาปากไก่ ปากหมาปากแมว!
ทนต่อการย่างสด บูชายัญ! องค์กรใดขาดคนวิจารณ์
ก็มีแต่จะตกต่ำ เสื่อมโทรม
บุคคลใด ไม่มีใครวิจารณ์ ก็มีแต่จะเป็นไม้บอนไซ
ชาตินี้อย่าหวังเจริญเติบโต!
พระภิกษุสงฆ์ ชาวบ้านเขากลัวบาป
เขาจึงไม่กล้าพูด
กุ๊กทำกับข้าวตามโรงแรมใหญ่ๆ คนไทยกินไม่อร่อย
แต่เขาก็ไม่บ่นกัน อาจจะคิดว่าไปครั้งเดียว !
ครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัย สอนไม่ดี
นักศึกษาเขาก็ไม่บ่นกัน
สอนในโรงเรียน แบบซังกะตาย นักเรียนเขาก็ไม่ว่า
ไม่มาก็ดี เราจะได้เล่นกันต่อ ...
เมื่อหมดการพาดพิง
หมดคำวิจารณ์ ฝีมือก็เริ่มตก จะกลายเป็นความล้าหลัง!
เมื่อเริ่มทำงาน ก็เหมือนการโยนก็นหินลงบ่อน้ำ
จะมีเสียงดัง จะมีคลื่นพลิ้วเป็นระลอก
เรื่องสนุกของมนุษย์ จะมีอะไรอร่อยไปกว่าการวิพากษ์วิจารณ์
จุดดีพูดไปก็ไม่สนุก จุดบกพร่องนี่แหละคุยกันได้ตลอดคืนยันรุ่ง
มนุษย์เรา ถ้าไม่พูดถึงศีลข้อ ๑
ปาณาติบาตแล้วละก็ ที่ผิดบ่อยกว่าเพื่อนก็คือศีลข้อ ๔ ไม่โกหก ก็ลามก
ก็หยาบคาย ก็ไร้สาระ ก็ติเรือทั้งโกลน
สุภาษิต "การทำงานคือการปฏิบัติธรรม"
ก็ด้วยเหตุนี้ เพราะยิ่งทำงาน น้ำในบ่อจะยิ่งกระเพื่อมสูง เราจะเห็น
กิเลส เราจะมีโอกาสจัดการกับกิเลส
"บัณฑิตพึงตั้งตนในคุณอันสมควรก่อน
ค่อยพร่ำสอนผู้อื่นภายหลัง" เป็นพุทธภาษิตสุดซาบซึ้ง เป็นโลกุตร
ภาษิต
แต่โลกโลกียะไม่สนใจ ติได้เป็นติ
ด่าได้เป็นด่า ไม่ต้องดูกะลาหัวของตัวเอง
ยิ่งยืนผงาดทำงานให้สังคม เชื่อได้เลย
หอกปากเป็นแสน พุ่งทะยานราวห่าฝน
เป็นธรรมเนียม เป็นวัฒนธรรม เป็นความปกติของโลกมนุษย์!
ใครที่กลัวเขาว่า กลัวคำวิจารณ์
น่าจะไปเป็นมนุษย์ต่างดาว!
โลกเราก็เป็นเช่นนี้เอง บางคนติเก่ง
หาเรื่องเก่ง แต่บางคนทำเก่ง
ใครถนัดด้านไหน ก็ทำกันต่อไป
พรรคการเมือง เขาจึงต้องมี ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน
เหมือนหยินกับหยาง เหมือนกับกลางวันกับกลางคืน
เอาไว้ถ่วงดุล
เอาไว้ขับเคลื่อนให้ตื่นตัว
ทำงานไม่มีใครจับผิดก็อาจเฉื่อยชา หมดสมรรถภาพ
ทำงานต้องให้ไฟลนก้น งานจึงจะขยับ
แต่โปรดระลึกไว้เสมอว่า ต่อให้งานดีเลิศขนาดไหน
ก็มิอาจรอดพ้นการวิจารณ์ในแง่ลบได้ เพราะเป็นหน้าที่ ของคนวิจารณ์!
เกณฑ์มาตรฐานในทุกเรื่อง กำหนดได้
แต่ภาคปฏิบัติทำได้แค่ไหนเป็นเรื่องหนึ่ง นี่ไง ดับเบิ้ลแสตนดาร์ด
ของฝ่ายทำ กับฝ่ายยืนดู
เชื่อเถอะ ลองกำหนดสเป็คศรีภรรยาที่ดีขึ้นมาสักชุด
รับรองจะต้องมีคนสอนมวย มากมาย มหาศาล ทั้งๆ ที่ คนสอนมวย ชาตินี้ก็ยังหาสเป็คถูกใจไม่ได้
ได้มาแล้วต่ำกว่าเกณฑ์ ก็เป็นเสียส่วนใหญ่!
วันนี้เขาว่าคุณภาพของมนุษย์ ตกต่ำลงอย่างมาก
เนื่องจากเชื้อชีวิตของผู้ชาย ๕๐๐ ล้านกว่าตัว ลดลงไป เหลือแค่ ๒-๓๐๐
ล้าน ในการวิ่งแข่ง เข้าสู่รังไข่ของผู้หญิง
กรมสุขภาพจิต เขาก็เพิ่งแถลง สถิติการหย่าร้าง
มากที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เด็กจะมีปัญหา ขาดการอบรม ขาดความอบอุ่น
เมื่อเป็นผู้ใหญ่ ก็ต้องมี ปัญหา แน่ๆ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทั้งหมดทั้งมวลทั้งปวงทั้งสิ้นหากจะมีใครวิจารณ์ผิดๆ
ถูกๆ ซื่อบื้อบ้าง ก็อย่าได้ถือสา กันเลย... นะจะบอกให้
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๕)
|