คนบ้านนอกบอกกล่าว
โดย... จำลอง
เวลาเดินทางระหว่างเมืองกาญจน์กับเมืองกรุง
ผมต้องหันไปมองที่ดิน ฝั่งตรงข้าม โรงพยาบาล พหลทุกที เมื่อเห็นเหมือนเดิม
ไม่มีการก่อสร้างอะไร ก็โล่งใจไปทีหนึ่ง
ผมพยากรณ์ใน "เราคิดอะไร"
ฉบับที่แล้วว่า ในที่สุด คนไทยก็ต้านการค้าปลีก ของห้างยักษ์ต่างชาติไม่ได้
เพราะคนไทยส่วนใหญ่ ไม่มี "ชาตินิยม"
อยู่ในหัวใจ ถือความสะดวก สบาย ไปวันๆ ไม่นึกถึงอนาคต
วันหนึ่งในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
ผมเห็นห้างเทสโก้-โลตัส กำลังเร่งตอกเสาเข็ม บนพื้นที่ ๓๕ ไร่ เป็นไปอย่าง
ที่ผมคาด หลังจากชาวเมืองกาญจน์ กลุ่มหนึ่ง ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่
มาเป็นเวลาหลายเดือน ก็แพ้ไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่แพ้เฉพาะ
ที่เมืองกาญจน์ แต่แพ้ไปทั้งประเทศ
"อยุธยาแตกไป เพราะไทยระย่อ ไม่คิดต้าน ต่อสู้ มุดรูหนี"
เพลงนี้ น่าจะนำมาเปิด ให้ฟังกันบ่อยๆ
ข่าวไม่ดียังมีอีกมากมาย
เช่น ส.ส. และ ส.ว.เริ่มเดินทาง ออกนอกประเทศ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน
เดินทาง ไปดูงาน ผลาญเงินแผ่นดิน ๑๒๐ ล้านบาท ขณะที่บ้านเมืองกำลังย่ำแย่
มีการคำนวณกันว่า "ท่านผู้ทรงเกียรติ"
ไปต่างประเทศ คนหนึ่งๆ จ่ายเงินเท่ากับ รายได้ชาวไร่ไทย ตาดำๆ ปลูกมัน
๑,๐๐๐ ไร่
โรงเรียนผู้นำ อยู่กลางดงกลางป่า
ยังถูกฟุตบอลโลกแผลงฤทธิ์ สถาบันราชภัฏ ที่มีชื่อแห่งหนึ่ง ขอให้จัด
หลักสูตรพิเศษ ฝึกอบรม นักศึกษาใหม่ ที่เพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
จำนวน ๓๐๐ คน ต้องเตรียมงาน กันโกลาหล แต่พอถึงวันนัด ถูกฟุตบอลดูดไป
๒๔๐ คน ที่เหลือ ๖๐ คนนั้น เป็นใบ้เสีย ๔๐ คน
ถ้าไม่เป็นใบ้ คงไม่รอด อีกเหมือนกัน
ทั้งๆ ที่ไทยไม่มีโอกาส
เข้าไปแข่งกับเขาเลย ทั้งรัฐบาล และ ภาคเอกชน ยังพร้อมใจกัน สนับสนุน
ให้คนไทย คลั่งไคล้ เป็นการใหญ่ หาใส่ใจไม่ว่า "ส่งเสริมอบายมุข
แม้จะสุขก็เสื่อม" เพลงกราวกีฬา ที่ฟังติดต่อกันมา หลายสิบปี
"กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน"
ฟุตบอลโลก ไม่ใช่ยาวิเศษ มีแต่ เพิ่มกองกิเลส
เป็นอบายมุข
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๔๔ กรกฎาคม ๒๕๔๕) |