หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

คิดคนละขั้ว - แรงรวม ชาวหินฟ้า -
มหันตภัยลูกใหม่ของโลก (๑)
เป็นเรื่องแปลกมากๆ หากเราจะได้ยินว่า สงครามทำให้คนตายเป็นร้อย หรืออุทกภัย ทำให้คนตาย หลายร้อยชีวิต ตัวเลขที่เกินร้อยขึ้นไป ในสงครามหรือภัยพิบัติต่างๆ ดูช่างน่าตกใจ แต่ตัวเลข หรือ ความเสียหาย ที่เกิดจากความสนุกสนาน เช่น สงกรานต์เลือดที่ผ่านมาคนตายเกือบพัน คนเจ็บ ๗-๘ หมื่น ซึ่งตายมากกว่า น้ำป่าวิปโยค หรือสงครามที่ไหนๆ อีกหลายเท่าตัว แต่ดูเหมือน จะไม่ก่อให้เกิด การสะดุ้งกลัว แต่อย่างใด มีแต่จะเล่นกันให้หนัก ให้เมามัน ยิ่งไปกว่าเก่าเท่านั้นเอง

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ไฟไหม้ หรือโรงงานถล่ม การล้มตาย ของผู้คน ย่อมก่อให้เกิดสภาพ น่าสะพรึงกลัว และ ความเสียหาย องทรัพย์สิน ก็เป็นความเดือดร้อน ที่รองลงมา แต่ดูเหมือนว่า ถ้าเป็นความสนุก ความมันส์แล้ว จะผลาญพร่า พินาศไปเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นไร

เช่น รายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยจำกัด ได้สำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯ ในช่วงมหกรรม ฟุตบอลโลก ตลอดเดือน มิถุนายน พบว่า ฟุตบอลโลก ทำให้ประสิทธิภาพ การทำงาน ของคนกรุงเทพฯ ลดลงเฉลี่ยถึง ๑๖.๗% คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ในเชิงธุรกิจ รวมกันถึง ๒๐๐-๒๕๐ ล้านบาท โดยคำนวณ จากรายได้ ของคนกรุงเทพฯ ที่ตอบแบบสอบถาม ต่างสูญเสียเวลา ในการทำงาน วันละ ๒ ชั่วโมง ซึ่งจะได้มูลค่า ความเสียหาย เฉลี่ย ๕๐๐ บาทต่อเดือน และยังโชคดี ที่คู่ชิงชนะเลิศ มีการแข่งขัน ในวันหยุด ไม่เช่นนั้น ความเสียหาย จะมากกว่านี้ (มติชน ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๕)

นี่เพียงแค่เฉพาะกทม.แห่งเดียว และเพียงแค่ลุ้นคนอื่นเท่านั้นเอง แต่ประเทศที่มีคนของเขา ลงลุยเอง เช่นที่ ประเทศอังกฤษ คุณ ซูม จาก น.ส.พ.ไทยรัฐฉบับวันที่ ๑๐ มิ.ย. ๒๕๔๕ รายงานว่า ความเสียหาย ทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจาก คนอังกฤษไม่ทำงาน คิดเป็นเงินไทย ตกประมาณ ๔๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งความเสียหายนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ที่ประเทศอังกฤษ ระบุว่า คนพากันหยุดงาน เมื่ออังกฤษ กับ อาร์เจนตินา ดวลแข้งกัน นี่เป็นเพียงรอบต้นๆ ของการแข่งขันเท่านั้น

และ ที่อาร์เจนตินานั้น เมื่อต้องพ่ายแพ้ ให้แก่อังกฤษ สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า แฟนบอลชาว อาร์เจนตินา กว่า ๑๕๐ คน ก่อจลาจล แสดงความไม่พอใจ ที่ทีมตกรอบ ด้วยการขว้างปาขวด และ ทุบกระจก อาคารใกล้เคียง บริเวณในกลางเมือง คอร์โดบา นานหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้อง ใช้กระสุนยาง จู่โจมแฟนบอลหัวรุนแรง เพื่อยุติความวุ่นวาย

เช่นเดียวกับที่รัสเซีย บรรดากองเชียร์ในมอสโก ที่ยืนเชียร์ จากทีวีจอยักษ์ แสดงความไม่พอใจ ทำลาย ข้าวของ บนท้องถนน และ ร้านรวงต่างๆ รวมทั้งสถานที่ราชการ จนได้รับความเสียหาย ทำให้มีคนตาย ๑ คนและ บาดเจ็บรวม ๕๐ คน

นอกจากนี้ น.ส.พ.มติชนฉบับวันที่ ๒๐ มิ.ย. ๒๕๔๕ ยังได้รายงาน ถึงเหตุการณ์ผิดปกติ ที่เกิดขึ้น ในช่วง ฟุตบอลโลก เอาไว้ว่า

ของทุกอย่าง เมื่อมีคุณอนันต์ ก็ย่อมมีโทษมหันต์

ผู้คนทั่วทุกมุมโลก สนุกสนานกับฟุตบอลโลก กันอย่างเต็มอิ่มก็จริง แต่บางครั้ง เรื่องไม่คาดฝัน ก็เกิดขึ้น เพราะ ความสนุกสนาน นี้แหละเป็นเหตุ

จากนี้เป็นเหตุการณ์ ๓ เรื่อง ๓ รส ที่เกิดขึ้นทั้งที่ไม่ควรเกิด ในช่วงที่อุณหภูมิบอลโลก กำลังพุ่งสูง เกือบถึงขีดสุด

เรื่องแรกออกแนวหนังแอ๊กชั่นหน่อยๆ

ช่วงการแข่งขัน เปิดฉากใหม่ๆ นักโทษชาวบราซิล เคยถือโอกาสแหกคุก ระหว่างผู้คุม มัวเชียร์บอลเย้วๆ ล่าสุด นักโทษอินโดนีเซีย เอาอย่างบ้าง อาศัยจังหวะ ตอนผู้คุม กำลังเมามันกับคู่ บราซิล-เบลเยี่ยม บุกเข้าแย่ง กุญแจ ก่อนจะเดินลอยหน้าลอยตา ออกจากคุกกันสลอน

ไม่ใช่หนีกัน แค่คนสองคน แต่นี่ "แหก" กันถึง ๔๘ คนด้วยกัน!

กรมตำรวจสั่งระดมเจ้าหน้าที่ตามล่านักโทษหนีคุกอย่างเร่งด่วน แน่นอนว่า ประกาศิต ที่สั่งการไปยัง ชุดปฏิบัติการคราวนี้ ก็คือ "ห้ามแวะดูบอลโลก อย่างเด็ดขาด"

คงไม่ต้องบอกเหตุผลหรอกมั้งว่าเพราะอะไร

เรื่องที่สองน่าเศร้าสุดสุด เหตุเกิดที่กรุง เตหะราน ประเทศอิหร่าน คนไข้ชายวัย ๕๐ปี เสียชีวิต เนื่องจาก เจ้าหน้าที่พยาบาล มัวแต่เชียร์บอลคู่ เซเนกัล-สวีเดน จนไม่ใส่ใจดูอาการ ขณะกำลังทรุดหนัก ผลก็คือ ลูกชายทั้งสอง ของคนไข้โกรธจัด บุกเข้าไปทำร้าย ร่างกายเจ้าหน้าที่ และ ทรัพย์สิน ของโรงพยาบาล ในวันรุ่งขึ้นทันที

เรื่องสุดท้ายเป็นแนวระทึกขวัญ

อวีก ทารัฟดาร์ หนุ่มอินเดียวัย 25 ปี ยืนลุ้นบอลคู่ สหรัฐ-เม็กซิโก อยู่ที่โทรทัศน์ ริมชานชาลา สถานีรถไฟ ในเมืองกัลกัตตา ด้วยความลืม ตัวหนุ่มรายนี้ เดินวนไปมา ด้วยอาการลุ้นสุดขีด แต่แล้ว สิ่งไม่คาดคิดฝัน ก็เกิดขึ้น!

เขาเสียการทรงตัว และลื่นตกไปบนรางรถไฟ ทารัฟดาร์ พยายามตะเกียกตะกาย ปีนขึ้นมา แต่ทุกอย่าง ก็สายเกินไป รถไฟมรณะ เข้าเทียบชานชาลาพอดี หนุ่มอินเดียคนนี้ จึงจบชีวิตลง อย่างสยดสยอง ท่ามกลางสายตา ประจักษ์พยาน ทั้งชานชาลา

...ถ้าเป็นเวลา "ปกติ" ๓ เหตุการณ์ที่หยิบยกมานี้ คงมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยเต็มที

และในประเทศไทย น.ส.พ.อาทิตย์ วิเคราะห์รายวัน ได้รายงานข่าวเศร้าเมื่อวันที่ ๑๖ มิ.ย.๒๕๔๕ เอาไว้ดังนี้

ข่าวเศร้า "ชาวคลั่งบอล" เป็นอุทาหรณ์ แก่สังคมตลอดกาล! โดย ๒ ประเด็นหลัก หากไม่ใช่ "หนี้ท่วมหัว" ก็ต้อง "เซ่นสังเวยด้วยชีวิต" ดั่งฟ้าลิขิต ให้เป็นเช่นนั้น ไว้ล่วงหน้า ถ้าไม่ใช้ "สมอง" ในการดูชม กรณีล่าสุด "หนุ่มโสม" เผาตัวตายในรูปแบบใช้ "คุณไสย" เพื่อช่วยให้ทีมเกาหลีใต้ ชนะทีมโปรตุเกส นับเป็นอุทาหรณ์ ของการ "หลุดโลก" ในเรื่องความเชื่อ

ขณะที่กรณีของสามีหนุ่มยิงภรรยาสาวถึงแก่ความตาย เพราะเหตุแย่งชิงกันดู รายการถ่ายทอด
ฟุตบอลโลก ส่วนอีกฝ่ายต้องการดูละคร ถือเป็นอุทาหรณ์ครั้งสำคัญ ที่ผู้คนในสังคมไทย จะต้อง "ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ" ด้วยสติ และความมีปัญญา ดังที่กวีนิรนาม ในห้องน้ำชาย สาธารณะแห่งหนึ่ง บันทึกไว้ ที่ผนังประตูว่า "โศกนาฏกรรมนั้น ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ แต่ยับยั้งได้ด้วยสติ"


"อาทิตย์ฯ" ปลุกจิต "บอลฆ่าคนได้"

"อาทิตย์วิเคราะห์" เคยนำเสนออุทาหรณ์ที่จะเกิดจากการชมฟุตบอลโลก ๒๐๐๒ โดยการจั่วหัวสกูŠป ข่าวหน้า ๑ ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ว่า "ฟุตบอลโลกฆ่าคนตาย บิณฑ์ หนู อุทาหรณ์หนี้" ซึ่งมีการนำเสนอ พิษภัยของการชม การแข่งขันฟุตบอล อย่างขาดสติ ซึ่งมีผู้เปรียบไว้ว่า ติดพนันฟุตบอล ก็เหมือนกับติดยาเสพติด จนเป็นสาเหตุของ "หนี้และความตาย"

โดยมี "บิณฑ์ บันลือฤทธิ์" ดารานักแสดงชื่อดัง เป็นผู้ออกมาเปิดเผย เพื่อเป็นอุทาหรณ์
แก่สังคม ในประเด็นของ การเป็นหนี้ ที่ต้องทุกข์ระทม ไม่เป็นอันทำกิน ซึ่งเปรียบเสมือน "ตายทั้งเป็น" รวมทั้ง ได้นำเสนอเรื่องราวของ "หนู คลองเตย (เชิญยิ้ม)" ที่ต้องเสียผู้เสียคน และเสียอนาคต ในสังคม มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะการพนันเป็นเหตุ ขณะที่ "เล็ก-ศรัณ สาครศิลป์" ดารานายแบบ ซึ่งได้กระโดดน้ำ ฆ่าตัวตาย มีเหตุผลหลักเพราะ ต้องการ "หนีหนี้" ส่วนเหตุผลรอง คือการขาด "อีคิว" หรือ ความฉลาดทางอารมณ์ ในการยับยั้งชั่งใจ


ปม "คลั่งบอล" เหตุการตายรายล่าสุด
ข่าวอาชญากรรม "การตาย" อันเนื่องมาจาก "ฟุตบอลโลก ๒๐๐๒" รายล่าสุด ปรากฏที่หน้าหนังสือพิมพ์หัวสี (๑๕ มิ.ย.) พร้อมกัน ๒ เรื่องด้วยกันคือ "หนุ่มโสมใหญ่" วัย ๓๙ ปี คลั่งฟุตบอลขนาดหนัก ถึงกับ "หลุดโลก" ด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อให้กลายเป็นวิญญาณ ไปเป็นผู้เล่นคนที่ ๑๒ ให้แก่ทีมชาติเกาหลีใต้ ในการฟาดแข้ง เอาชนะทีมชาติโปรตุเกส เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา

ขณะที่อีกเหตุการณ์สะท้านใจ คือ "นายใหญ่ เจริญสุข" สามี วัย ๒๖ ปี ยิงปืนฆ่า "น.ส.ฉัตรแก้ว แย้มเอื้อน" วัย ๑๙ ปี ผู้เป็นภรรยา เพราะช่วงที่กำลังดู การแข่งขันฟุตบอล เมื่อเย็นวันที่ ๑๓ มิ.ย.อย่างสนุกสนาน และเมามันอยู่นั้น ภรรยาก็ต้องการดูละคร "ดาวพระศุกร์" ทางช่อง ๗ สี จนเกิดการปะทะคารม และ บ่มเพาะ ความร้าวฉาน จนมาระเบิดขึ้น ในตอนเช้าวันที่ ๑๔ มิ.ย. ซึ่งก็คือ การใช้กระสุนปืน ตัดสินชี้ขาด
อ่านต่อฉบับหน้า

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๔ กรกฎาคม ๒๕๔๕)