หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

คาบข่าวมาขับขาน ‘ พิราบไท
ความคิดสาว มหา'ลัย พลีกายหักหนี้"ฟุตบอล"


แต่ก่อนเห็นมีแต่เหล่าสุภาพบุรุษ ที่เพลิดเพลินเจริญใจ ในการดูฟุตบอล เผลอไม่เท่าไหร่ กลายเป็น
ว่า สุภาพสตรี ก็ชื่นชอบลูกหนังกลมๆ นี่ด้วย นี่แหละนะ เขาถึงว่า กิเลสมันถ่ายทอดถึงกัน ดุจโรคติดต่อ และมิใช่เพียง ชอบดูลีลาการเตะ ของดารา นักบอลเท่านั้น หากแต่สาว เจ้ายังนิยมชมชอบ การพนันบอล เป็นชีวิตจิตใจ อีกด้วย

เธอชื่อนุชเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เธอคุ้นเคยกับการพนันด‰วยการค่อยๆ ซึมซับจากเพื่อนชาย ในที่สุดเธอก็หลงเสน่ห์ การพนันบอล ตามเพื่อนชายไปด้วย เธอและเพื่อนชาย ตกเป็นลูกหนี้โต๊ะบอล ในวงเงิน ๑ แสนบาท เพื่อนชายหาเงินใช้หนี้ไม่ได้ จึงหนีออกจากพื้นที่ และทิ้งสถานภาพ การเป็นนักศึกษา เจ้าหนี้บอกนุชว่า ร่วมก่อหนี้ ต้องร่วมชดใช้ (ถ้าไม่ใช้.... คุณรู้จักมาเฟียแล้วใช่ไหม?) เจ้าหนี้เสนอ มีเซ็กซ์ ผ่อนชำระหนี้ ครั้งละ ๑,๕๐๐ บาท นุชตอบตกลง โดยไม่ต้อง ตัดสินใจยาก เพราะกำลังอกหัก และต้องการ คนปลอบใจ อีกทั้งเจ้าหนี้ ก็หน้าตาดี ไม่น่าเกลียดอะไร และ ที่สำคัญ นุชบอกว่า..ไม่มีอะไร จะเสียอีกแล้ว

ต่อมาเจ้าหนี้หรือ"พี่เขา" ตามสรรพนาม ที่นุชเรียก ก็บอกว่า ต้องเพิ่มปริมาณ เพราะพี่เขา จะยุ่งเองไม่ไหว ปีแรก หักหนี้ได้ ประมาณ ๔ หมื่นกว่าบาท ด้วยความที่อยากให้หมดไวๆ และคิดเหมือน นักพนันทั่วไปคิด คือ "เมื่อเสีย เพราะการพนัน ก็ต้องได้คืนเพราะการพนัน" จึงคลุกคลี กับการฟุตบอล ต่อไป ไปๆ มาๆ แทนที่ หนี้จะหมด ก็กลับเพิ่มขึ้นไปอีก

วันนี้ของนุช จึงยังคงพลีร่าง หักหนี้ต่อไป จนกว่าจะหมดหนี้ (ข่าวอาทิตย์วิเคราะห์รายวัน)

อยู่ในยุคนี้อะไร ที่ไม่คิดว่าจะเป็น ก็เป็นไปได้ ก็เห็นใจเธอนะ เห็นใจสาว วัยยี่สิบกว่า ของยุคนี้ แม้จะร่ำเรียน ระดับมหาวิทยาลัย ก็ตามเถอะ แต่มหาวิทยาลัย ก็ไม่สามารถจะปลูกฝัง สัมมาทิฐิ ให้แก่นักศึกษา ได้สักเท่าใดนัก เริ่มตั้งแต่การคบเพื่อนชาย มหาวิทยาลัยสอนแต่วิชาการ ไม่ได้อบรม แนะนำ เรื่องการ คบเพื่อนนี่นา พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในมงคล ข้อแรกคือ ไม่คบคนพาล ข้อ ๒ คบบัณฑิต พระพุทธเจ้า ท่านเอาการ ไม่คบคนพาล ไว้ข้อแรกทีเดียวเชียว คืออยู่ห่างไว้ ปลอดภัยกว่า เมื่อเธอไม่เข้มแข็ง ไปคบ เพื่อนชาย คลั่งไคล้อบายมุข แม่เหล็กแห่งพาล มีแรงดึงดูด มากกว่า ก็ลากเธอไปวน ในหุบเหว แห่งอบายมุขด้วย

เมื่อขายบริการ เธอก็คิดว่า ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าคิดอย่างนี้ เมื่อไหร่จะกลับใจได้ หากคิดใหม่ ทำใหม่ว่า เสีย ๑๐ ครั้ง ก็ยังดีกว่าเสีย ๑๐๐ ครั้ง การสั่งสมความคุ้นเคย ชาชินย่อมต่างกัน ความสกปรก ที่ติดหนา เกรอะกรัง หลายชั้น ล้างยากกว่าความสกปรก ที่ติดชั้นเดียวบางๆ ฉันใด เสียน้อยครั้ง ก็ดีกว่า เสียมากครั้ง มากคนฉันนั้น

และทิฐิ ที่น่าตื่นตะลึง ก็คือ "เมื่อเสียเพราะการพนัน ก็ต้องได้คืน เพราะการพนัน" คิดอย่างนี้ ได้อย่างไรนะ นักศึกษา! ถ้านักเล่น ได้คืนเพราะการพนัน ไม่มีใครในโลก ยอมเป็นเจ้ามือ หรอกหนูเอ๋ย!

การศึกษาใด ที่ไม่ทำให้คน เกิดสัมมาทิฐิ ไม่สามารถนำคน ให้พ้นวังวนแห่งทุกข์ได้ ตามลำดับขั้น การศึกษานั้นล้มเหลวแน่นอน

เชื่อใครๆ มาก็มากแล้ว ไม่เห็นว่า บ้านเมืองจะพัฒนา ไปได้สักกี่น้ำ หันมาพิจารณา ทฤษฎีพระสัมมา สัมพุทธเจ้า กันให้ลึกซึ้ง ดูทีหรือ ไม่เจ๋งจริง ไม่อยู่ยืนยาวมากว่า ๒,๕๐๐ ปี หรอกน่า

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๔ กรกฎาคม ๒๕๔๕)