เอาแต่เข่นโค่นกัน
นี่หรือคืองานบริหาร
คงไม่มีใครจะเปรียบเทียบสภาพของสังคมไทยในปัจจุบันได้ดีเท่ากับ คุณหมอประเวศ
วะสี ที่เปรียบเทียบ ชีวิตคนไทยเหมือนไก่ที่ถูกจับให้มารวมกันอยู่ในเข่ง
เพื่อรอวันเอาไปเชือด ในระหว่างที่รอความตาย ไก่ก็จิกตีกัน อยู่ตลอดเวลา
เข่ง คือ กรอบอำนาจที่กักขังไก่เอาไว้
เปรียบได้กับคนไทย ต่างติดอยู่ในกรอบโครงสร้างอำนาจ ที่แก้ปัญหาใหม่ๆ
ซึ่งซับซ้อนและยากๆ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดๆ ในอดีต ปัจจุบัน
หรืออนาคต ถ้ายังแก้ปัญหาอยู่ใน "เข่ง" หรือในกรอบอำนาจเดิมๆ
นอกจากแก้ไขปัญหาไม่ได้แล้ว คนไทยก็จะจิกตีกัน จนกว่าจะพากันถูกเชือดทั้งหมด
คุณหมอประเวศ วะสี
ได้ชี้ให้เห็นปัญหาและความล้มเหลวในการใช้อำนาจรัฐว่า การใช้อำนาจรัฐนั้น
ก็ต้องใช้ระบบราชการเป็นเครื่องมือ แต่ระบบราชการเป็นระบบที่ใช้อำนาจควบคุมบังคับบัญชา
ใช้ได้กับปัญหาโบราณที่เป็นปัญหาชั้นเดียวตรงไปตรงมา แต่ในปัญหาปัจจุบันที่ซับซ้อน
การใช้อำนาจ แก้ปัญหาไม่ได้ เช่น จะใช้อำนาจแก้ความยากจน หรือแก้ความอยุติธรรมในสังคมได้อย่างไร?
นอกจากนี้ ในสังคมไม่ได้มีอำนาจรัฐอย่างเดียว
ยังมีอำนาจอื่นๆ ทั้งอำนาจของต่างชาติ (ซึ่งมีอำนาจ ครอบงำมาก ทั้งการเงิน
การสื่อสาร วิชาการ ฯลฯ ถ้าเราไม่ยอมอยู่ในอาณัติ เขามีอำนาจมหาศาล
ที่จะทำร้ายเรา) นอกจากนี้ก็ยังมีอำนาจที่มองไม่เห็นพร้อมที่จะเข้ามาเล่นงาน
ถ้ารัฐบาลใดทำตัวเป็น"เด็กดี" อำนาจต่างๆ ก็จะยอมให้อยู่
แต่แก้ไขปัญหาไม่ได้ ถ้ารัฐบาลใด "แข็ง" ขึ้นมา อำนาจต่างๆ
ก็สวนกลับ ถูกรุมตีและล้มได้ไม่ยาก
กรณีปัญหาภาคใต้น่าจะเป็นตัวอย่างของความล้มเหลว
ในการใช้อำนาจรัฐได้เป็นอย่างดี ดูเหมือนว่าทุกๆ ฝ่าย ทั้งกรรมาธิการทหาร
ทั้งผบ.ตร.และนายกรัฐมนตรีที่ลงไปดูพื้นที่ด้วยตัวเองมา ต่างมีความเห็น
สอดคล้องกันว่า ไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อชาติ ศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์
เป็นหลัก เมื่อรัฐบาลจะใช้อำนาจรัฐเข้าไปจัดการอำนาจที่มองไม่เห็น
และไม่มีใครกล้าพูดออกมาได้ ก็พร้อมที่จะ ระเบิดตูมตาม สวนกลับอำนาจรัฐทันที
คุณหมอประเวศ วะสี
เปรียบเทียบโครงสร้างของสังคมไทยในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรกับโครงสร้างมรณะ
เพราะเป็นโครงสร้างของสังคมที่ไร้ภูมิต้านทาน(สังคมเอดส์) ศาสนานั้นสำคัญยิ่ง
แต่เราไม่สามารถ เอาศาสนามาสร้างภูมิต้านทานให้แก่สังคมได้ เพราะโครงสร้างทางศาสนา
ก็เป็นโครงสร้างทางอำนาจ เช่นเดียวกับระบบราชการ ยิ่งการศึกษาสรุปว่า
ล้มเหลวโดยไม่ได้สร้างภูมิต้านทานใดๆ เลย เพราะ
การศึกษาของเราทั้งระบบเป็นระบบที่อยู่นอกสังคม ไม่สัมพันธ์อยู่กับความเป็นจริง
ของชีวิต และสังคม ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ร่วมสุขร่วมทุกข์แก้ปัญหากับสังคม
นอกจากนี้การครอบงำของต่างชาติ ก็มีความรุนแรงยิ่งนัก ทำให้เราหมดอิสระที่จะกำหนดชะตาชีวิตและอนาคตของตนได้
สรุปแล้ว การจะคิดแก้ปัญหาใดๆ
ภายในกรอบ "เข่ง" หรือโครงสร้างมรณะนี้ ย่อมแก้ปัญหาไม่ได้
เมื่อรัฐไม่สามารถใช้อำนาจในโครงสร้างมรณะนี้ได้ รัฐควรกระจายอำนาจให้ไก่แต่ละตัวเข้มแข็งขึ้นมา
จนกว่าจะบินออกจากเข่งได้ เช่น พี่น้องมุสลิมทางภาคใต้ รัฐควรได้กำหนดทิศทางเป้าหมาย
ของการพัฒนา ให้สอดคล้องกับหลักการ ความเชื่อความศรัทธาในศาสนาของเขา
เพราะที่ผ่านมา แผนพัฒนาของรัฐ ที่ก้าวเดินตามตะวันตก ทำให้ชาติและคนในชาติอ่อนแอ
และเป็นหนี้สินไปตามๆ กัน
ดังนั้นรัฐควรกระจายอำนาจให้แก่ชุมชนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว
สามารถจัดการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาในท้องถิ่น ของเขาได้ ให้มีการสื่อสารเป็นของชุมชน
เช่น วิทยุชุมชน เพื่อส่งเสริมกิจกรรม และความสามัคคี ในชุมชนนั้นๆ
ให้เข้มแข็งขึ้นมา ถ้าชุมชนเข้มแข็ง ประเทศชาติย่อมมั่นคง
เป็นการบริหารที่ไม่ต้องบริหาร เพราะในโครงสร้างมรณะนี้ ยิ่งบริหารมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งจะมีแต่เข่นโค่นฆ่ากันมากเท่านั้น
-
จริงจัง ตามพ่อ -
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๔๕ สิงหาคม ๒๕๔๕)
|