หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

คิดคนละขั้ว - แรงรวม ชาวหินฟ้า -
มหันตภัยลูกใหม่ของโลก (๒)

แม้ฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลหยุดโลกจะจบไปแล้ว แต่ควันหลงและควันร้าย ยังคงแผ่ตัวขยายผล ครอบคลุม ไปยัง ส่วนต่างๆ ของโลก ภาพเด็กชั้นประถมตามบ้านนอกบ้านนา แม้จะอยู่ห่างไกล ความเจริญแค่ไหน ก็สามารถ เลียนแบบ ดาราฟุตบอลได้หมด ได้เห็นเด็ก ๒ คนแย่งฟุตบอลกัน คนหนึ่ง ทำท่ายึกยัก สับเท้าไป สับเท้ามา ระหว่างฟุตบอล เพื่อล่อหลอกเด็กน้อยที่ยืนตรงกันข้าม นับว่าเป็น การเลี้ยงลูก ชนิดเลียนแบบ ดารา แต่ปรากฏว่า ท่าที่สวยงามนั้น ไม่ได้ผล เพราะอีกฝ่าย ใช้วิธีวิ่งเข้ามาชนกระแทก จนผงะหงาย แล้วแย่งเอาลูกบอลไปดื้อๆ อันนี้เด็กๆ ก็เลียนแบบขี้โกง จากดาราฟุตบอลเช่นกัน

เมื่อเกมกีฬาถูกแปรเปลี่ยนไป เป็นเรื่องที่จะต้องเอาชนะคะคานกันให้ได้ เพราะมีเงินรางวัลแ ละชื่อเสียง เกียรติยศอีกมากมายที่จะได้มา นักกีฬาจึงพยายามใช้กลโกงและเล่ห์เหลี่ยมทุกวิถีทาง ที่จะต้องเอาชนะ ฝ่ายตรงกันข้ามให้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ "กีฬา" จึงไม่ต่างอะไรกับ "กาลี" ที่มีแต่กูต้องชนะ และล้างแค้นมัน เท่านั้นเอง ส่วนที่ว่า "รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย" นั้น หมดยุคหมดสมัยไปแล้ว คงมีแต่ "คลั่ง" เมื่อชนะ กับ "ครวญ" ต้องเศร้าโศก เสียใจเมื่อแพ้ ก็แค่นั้น

ควันหลงฟุตบอลโลกในวงการฟุตบอลไทย ไม่แน่ใจว่าจะมากกว่าเกาหลีหรือบราซิลหรือเปล่า? มีการเสนอ ให้ทำแผนยุทธศาสตร์ เพื่อสามารถลุ้นฟุตบอลไทยให้สามารถเข้ารอบสุดท้ายได้ โดยถือว่า ต้องทำเป็น โครงการใหญ่ เสมือนหนึ่ง "วาระแห่งชาติ" พอๆ กับการกอบกู้ชาติกันเลยทีเดียว และมีการนำเสนอ งบประมาณเบื้องต้น เพื่อขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เป็นเงินถึง ๓๕๐ ล้านบาท เพื่อใช้คัดเลือกนักฟุตบอล จากทั่วประเทศ ๘๐๐ คน เอามาเตรียมตัวฟิตซ้อมกันไว้ ซึ่งใน น.ส.พ.มติชน ฉบับ ๑๖ กันยายน ๒๕๔๕ คอลัมน์กีฬาพาที ได้เสนอประเด็น "ฟุตบอลไทย ฟุตบอลโลก ฝันกลางวัน?" เอาไว้ว่า

ควันหลงของฟุตบอลโลกในวงการฟุตบอลไทยยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ...ระดับเป็นข่าวคึกคักมากเอาการ สำหรับโครงการ แห่งความฝันอันสูงสุดคือ การลุ้นทีมฟุตบอลไทย ไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ในอนาคต...
ตั้งแต่ฟุตบอลโลก ครั้งที่ ๑๘ หรือ "เวิร์ลด์คัพ ๒๐๐๖" ในอีก ๔ ปีข้างหน้าเป็นต้นไป

ความฝันอันสูงสุด ของการลุ้นให้ทีมฟุตบอลไทย ไปสู่เป้าหมายสุดยอดระดับโลก โดยเฉพาะ ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริงๆ เหมือนกัน

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องเป็นบ่อเกิดแห่งการเคลื่อนไหว เพื่อความเปลี่ยนแปลง ต่อโครงการใหญ่ ระดับโครงการในฝันอย่างโครงการนี้ แบบมืออาชีพอย่างแท้จริง แบบไม่กลัว ต่อความผิดหวัง และไม่ยี่หระ กับความล้มเหลว โดยเด็ดขาด

....นี่คือการสร้างบ้านแปงเมืองครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬาฟุตบอลในเมืองไทย...

หากต้องการทำกันให้เกิดขึ้นมาจริงๆ !!

การเดินทางไกลทุกระยะ ล้วนแต่ต้องมีก้าวแรกด้วยกันทั้งนั้น
การเริ่มต้น ไม่เคยมีจุดจบ สำหรับผู้มีความเพียรเสมอ!!
...กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว
ไม่ใช่หรือ??

ไหนๆ ก็ฝันกลางวันกันแล้ว ความจริงก็ฝันกันใหัสุดๆ ไปเลยก็ได้ ต่อให้ประเทศไทย ได้เป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก กับเขาด้วย แล้วไทยจะได้อะไร? ปีที่แล้วฝรั่งเศส ได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก แล้วปีนี้ได้อะไร? อาร์เจนตินา ก็เคยเป็นแชมป์ ฟุตบอลโลก แล้วอาร์เจนตินาได้อะไร? นอกจากประเทศ กำลังจะล้มละลาย แม้แต่เงิน จะจ่ายให้ค่าโค้ช ก็ยังไม่มี (แถมโค้ชก็ไม่คิด ที่จะช่วยประเทศชาติของตนอีกต่างหาก) หรือ แม้แต่บราซิล ที่ได้เป็นแชมป์ปีนี้ก็ตาม ก็เริ่มมีบทวิเคราะห์ออกมาแล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศบราซิล กำลังจะล่มสลาย ตามอาร์เจนตินาไปหรือไม่? มันจะคุ้มไหม กับการได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ท่ามกลาง การสมเพชเวทนา ของคนทั่วโลก เพราะประเทศแชมป์ฟุตบอลโลกนั้นๆ เต็มไปด้วยปัญหา เด็กๆ ติดยา พากันขายตัว ประชาชน ยากจนดักดาน รัฐบาลสร้างหนี้สิน เอาไว้ท่วมท้น จนใช้อีก ๑๐๐ ปีก็ไม่เสร็จ ฯลฯ

นอกจากควันหลงแล้ว สิ่งที่เป็นควันร้ายปกคลุมไปทั่วโลกนั่นก็คือ การพนัน จากน.ส.พ.ไทยรัฐ วันที่ ๙ ก.ค. ๔๕ ได้รายงานว่า

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึง โครงการวิจัย เรื่องเศรษฐกิจ การพนันว่า จากผลการวิจัย พบว่าการพนันฟุตบอล มีผลกระทบอย่างมาก ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และสังคม ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ผลกระทบทางสังคม ที่ค่อนข้างมาก ยอดคนเล่น เพิ่มจำนวนขึ้น อย่างรวดเร็ว ยอดเงินหมุนเวียน ในการพนันบอล ที่สำรวจพบว่า พุ่งขึ้นจากเดิม ๑ หมื่นกว่าล้าน กลายเป็น ๕ หมื่นล้าน ซึ่งคาดได้ว่า ช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา จำนวนคนเล่นมากขึ้น จำนวนเงิน ต้องเพิ่มขึ้นอีก หลายหมื่นล้าน เงินที่ไหลเวียน อยู่ในธุรกิจการพนัน ล้วนแล้วแต่เป็น การเอาเงิน ของอนาคต มาใช้ทั้งสิ้น

นายสังศิตกล่าวอีกว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นทางสังคมในขณะที่เยาวชน เป็นกลุ่มหลัก ของการพนันบอลก็คือ การไม่สนใจการเรียน ซึ่งจะเป็นการทำลายชาติ ในระยะยาว ที่สำคัญ ได้เร่งให้ธุรกิจเพศพาณิชย์ ขยายตัว มากขึ้น คนเหล่านี้ มีประสบการณ์ ในการพนันน้อย จึงเพลี่ยงพล้ำได้ง่าย ขณะเดียวกัน ยังไม่มีรายได้ นักศึกษาผู้หญิง จำนวนมาก จึงเข้าสู่กระบวนการ ค้าประเวณี จากการสัมภาษณ์ในหลายจังหวัด พบนักเรียน ตกเป็นทาส การพนันบอล อย่างรุนแรง เป็นเรื่องปวดหัว ของครูอาจารย์ อยากให้สังคม มองเห็นว่า เป็นปัญหาที่ใหญ่โต ร้ายแรง สำหรับสังคมไทย ข้อมูลสัมภาษณ์บุคคล ในชุมชนหลายจังหวัด พบว่า ในส่วนภูมิภาค มีการตั้งโต๊ะบอล บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ขยายกลายเป็น แหล่งมั่วสุม สถานเริงรมย์ เด็กนักศึกษาเหล่านี้ นอกจาก จะมั่วสุม เล่นการพนัน เที่ยว สุดท้าย ก็มาจบลงที่การขายตัว บ้างก็เป็น เมียน้อยมาเฟีย คนรวยๆ ในท้องถิ่น

ด้าน นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หนึ่งในทีมงาน โครงการวิจัย เรื่องเศรษฐกิจการพนัน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสัมภาษณ์ ทั้งนักศึกษา ที่ขายบริการทางเพศ ใช้หนี้พนันบอล และคนเดินโพยโต๊ะบอล นักศึกษารายหนึ่งเล่าว่า เป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาพักอยู่ที่หอพัก ในกรุงเทพฯ แรกๆ เล่นพนันบอลสนุกๆ ตามเพื่อน เมื่อเล่นได้ ก็ทุ่มเงินเล่นมากขึ้น จนวงเงินเขยิบ กลายเป็นหมื่น ใช้เวลาเล่นไม่นาน เพียง ๒ เดือนก็เข้าตาจน ไม่สามารถใช้หนี้พนันได้ ก็มีคนแนะนำ ให้หาเงิน ด้วยการขาย บริการทางเพศ ส่วนคนเดินโพย ก็ยอมรับว่า บางกรณีที่ลูกค้า หรือลูกหนี้สาว ที่ไม่มีเงินใช้หนี้ ก็จะได้รับการติดต่อ จากเจ้ามือโต๊ะบอล ให้เคลียร์หนี้ ด้วยการให้บริการทางเพศ

ขณะที่ นายเสรี วงษ์มณฑา ก็กล่าวถึงปัญหาการพนันฟุตบอลโลกว่า สาเหตุของปัญหา มาจากที่คนมองว่า เป็นแฟชั่น คลั่งแฟชั่นพนันบอลโลก หากใครไม่เล่น จะถูกมองว่าไม่เท่ ไม่เก๋ ไม่ทันสมัย คนที่ไม่เคยเล่นก็เล่น เยาวชนเข้าไปเล่น ด้วยความสนุก จนกระทั่งติดหนี้ โดยไม่รู้ตัว คราวนี้ก็หาทางออก โดยการขโมยเงินพ่อแม่ จากนั้น ออกขโมยเงิน ข้างนอกบ้าน ค้ายาบ้า เด็กผู้หญิงบางคน ก็ไปขายตัว การคลั่งไคล้ ในกระแส พนันบอล ที่เกิดขึ้น กลายเป็นปัญหาสังคม โดยเฉพาะ เมื่อผู้เล่นเป็นเยาวชน การหาทางออก จากหนี้ พนันบอล ทำให้เยาวชนของชาติ ต้องไปข้องเกี่ยว กับอาชญากรรม ยาเสพติด และการค้าประเวณี มองว่า การพนันบอล เป็นมะเร็งร้ายต่อสังคม

นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ กองทุนส่งเสริมคนกล้าทำดีเพื่อสังคม จัดเสวนา เรื่อง "ปุจฉา-วิสัชนา หลังฟุตบอลโลก สังคมไทยได้อะไร" มีนายวีระ สมความคิด เป็นผู้นำการเสวนา มีผู้ให้ความสนใจ เข้าฟังราว ๖๐ คน ซึ่งเนื้อหาการเสวนาฯ ส่วนใหญ่ โจมตีกระแสความนิยม ในการชม การแข่งขัน ฟุตบอลโลก ว่าเป็นการครอบงำ ของโลกทุนนิยม ตามก้นฝรั่ง ทำลายเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ความเป็นไทย

นอกจากนี้ นายปกรณ์ เชิญพิมาย นายกสโมสรมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในช่วงหนึ่ง ของการเสวนาด้วยว่า ในช่วงการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ทั้งนักศึกษา คณาจารย์ล้วนขาดสมาธิ ในการเรียนการสอน มีเพื่อนนักศึกษา เล่นพนันบอล เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง จะทุ่มเงินเล่น มากกว่าผู้ชาย ยอดเงินพนันสูงถึง รายละกว่า หนึ่งแสนบาท

และจากรายงานของ นายสมประสงค์ พระสุจันทร์ทิพย์ นักวิชาการอิสระได้เปิดเผยว่า จากการศึกษา สภาพปัญหา ความเปลี่ยนแปลง ของการขายบริการทางเพศ ในช่วงระยะเวลา เทศกาลฟุตบอลโลก พบว่า ตัวเลขของการขายบริการ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้รูปแบบการขายบริการ มีการเปลี่ยนรูปแบบ กล่าวคือ มีนักศึกษาหญิง ทำงานตามสถานบันเทิง มากกว่าปกติ โดยให้บริการ ปลอบใจคลายเหงา เช่น ในผับ คาราโอเกะ และสถานบริการ ธุรกิจกลางคืน มีการฟื้นตัวกันถ้วนหน้า

นายสมประสงค์ กล่าวอีกว่า ในช่วงระยะตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. จนสิ้นเดือน ส.ค. คาดว่าจะมีนักเรียน นักศึกษา ออกมาเสนอ ขายบริการทางเพศมากขึ้น โดยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ ๑,๕๐๐ - ๒,๐๐๐ บาท และคาดว่า ที่ต้องพากัน ออกมาขายบริการ ส่วนหนึ่งเป็นหนี้พนันบอล และเกิดจากค่านิยม ที่ใช้ชีวิต อย่างฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย

ควันหลงและควันร้ายจากฟุตบอลโลก นอกจากจะมีผลกระทบโดยตรงต่อเยาวชน และอนาคต ของชาติแล้ว ปัญหาอาชญากรรม ก็เพิ่มตามขึ้นมาอีกด้วย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เปรียบเทียบสถิติ จากฟุตบอลโลก ที่ฝรั่งเศส ปี ๑๙๙๘ ปรากฏว่า คดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ถึงร้อยละ ๑๕.๙ รวมแล้วกว่า ๕ แสนคดี นอกจากนี้ ก็ยังมีควันหลง ที่เป็นความหลงจริงๆ ของแฟนๆ ฟุตบอลที่คลั่งไคล้ ความหล่อ ของดาราอังกฤษ ถึงขนาด แย่งกันขอจองห้องนอน ของสุดหล่อ เพื่อจะได้เข้าไปสูดดม กลิ่นอายของ ดาราฟุตบอลคนโปรด

การแข่งขันฟุตบอลในปัจจุบัน จึงเป็นการผนวกอบายมุขหลาย อย่างผสมผสานกันเข้ามา นอกจากจะเป็น การดวลวัด ความแข็งแกร่ง แห่งฝีเท้า เพื่อเอาชนะคะคานกันแล้ว ก็ยังรวมเอาเรื่องของกาม ความสุดหล่อ ทรงผมสุดเท่ เข้ามาด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีการตลาด มีผลิตสินค้า ออกมาแข่งขันกัน แย่งชิงกันเป็น สปอนเซ่อร์ แล้วยังแถมเอาเรื่องของ "ชาติ" เข้ามาผนวกอีกต่างหาก และสุดท้าย ก็มาจบ มาตายอยู่ที่ การพนัน ซึ่งเป็นอบายมุข (ทางไปสู่ความฉิบหาย) กีฬาจึงเป็นมหันตภัยที่ยิ่งใหญ่ ของโลกดังนี้แล

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๕ สิงหาคม ๒๕๔๕)