>เราคิดอะไร

ชีวิตไร้สารพิษ - ล้อเกวียน
น้ำสกัดชีวภาพคืออะไร (๑)


ที่เราเรียกน้ำสกัดชีวภาพ เราเรียกกันตามสภาพของการหมักเหมือนการทำผักดอง (เกมจิของเกาหลี) ที่เอาผักมาหมัก โดยทั่วไป อินทรียสาร อย่างพวกซากพืช ซากสัตว์ มูลสัตว์ หรือขยะทั้งหลาย ถ้าเราปล่อย ให้ย่อยสลาย ตามธรรมชาติ โดยไม่ไปแตะต้องเลย ให้เป็นไปตามปกติ เมื่อทิ้งไว้ จะเกิดการเน่าเปื่อย เส้นทางจะเกิดไปทาง การเกิดก๊าซมีเทน ที่เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ เป็นพลังงานได้ เช่น การหุงต้ม

แต่ถ้าเราเติมแหล่งคาร์บอนที่เป็นประโยชน์ อย่างพวกน้ำตาลหรือกากน้ำตาลเข้าไป สายทางจะเกิด ไปในทางการหมัก พวกจุลินทรีย์ ที่ไปกินน้ำตาล จะเกิดแอลกอฮอล์ แล้วจะมีสายทางต่อเนื่องไปเกิด "กรด"

 

ซากพืช-สัตว์
- ปล่อยตามธรรมชาติ เกิดการเน่าเปื่อย เกิดก๊าซมีเทนเป็นเชื้อเพลิง
- ติมน้ำตาลเข้าไป เกิดการหมัก ได้น้ำสกัดชีวภาพ (ฮอร์โมน, เอนไซม์, กรดอะมิโน)

อย่างเช่นน้ำผักดอง ถ้าเอาไปรดต้นไม้ก็จะให้ผลดีเหมือนกัน หรือพวกที่หมักเหล้า แล้วน้ำจาก การกลั่นเหล้า คือ พวกส่าเหล้า ถ้าเอาไปรดต้นไม้ จะทำให้ต้นไม้ เจริญเติบโตงอกงามได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น น้ำสกัด ชีวภาพ จึงช่วยบำรุงต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ เติบโต งอกงามได้ดี เพราะที่จริง น้ำสกัดชีวภาพนั้น เป็นของ ธรรมชาติ แต่ก็ควรระวัง ถ้าใช้เข้มข้นมาก จะเป็นพิษกับต้นไม้ได้

พวกที่ทำเกษตรพอเอาไปรดต้นไม้งามก็เรียกว่า "ปุ๋ย" หรือ "ปุ๋ยน้ำ" แต่ความจริงแล้ว เป็นมุมมองเฉพาะ ทางเกษตรเท่านั้น จริงๆแล้ว ประโยชน์ ไม่ใช่มีเพียง การทำเกษตร เพียงอย่างเดียว ยังสามารถ เอาไปใช้ ในการซักล้าง ดับกลิ่น ห้องน้ำ ห้องส้วม ปรับสภาพ น้ำเน่าเสียได้ มีประโยชน์ไปในทางด้าน สิ่งแวดล้อม ได้อีกมาก การเกษตรเป็นเพียงส่วนย่อย ของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น เพราะฉะนั้น จะไปเรียกว่าปุ๋ยก็ได้ เพราะเขา ไม่รู้ประโยชน์ ที่มีมากกว่านั้น แต่ในทางวิทยาศาสตร์ เขาไม่เรียกปุ๋ย แต่จะเรียกว่า "น้ำสกัดชีวภาพ" ใช้ภาษา อังกฤษว่า "Bio Extract"

การหมักจุลินทรีย์อย่าง :-
-เกษตรธรรมชาติคิวเซของญี่ปุ่นเรียกว่า E.M.(Effective Micro Oroanism)

-เกษตรธรรมชาติเกาหลีเรียก IMO. คือน้ำหมักจากพืชและผลไม้ เน้นจุลินทรีย์ท้องถิ่น ซึ่งจะมีพวกแบคทีเรีย ที่ทำงาน และเน้น ความหลากหลาย ของจุลินทรีย์ท้องถิ่น ทั้งยังแนะนำ ให้เอาใบไม้ ที่มีราขาวๆ มาผสมกับ น้ำหมัก หรือเอายอดใบไม้อ่อนๆ จะทำให้ฮอร์โมนมากขึ้น

-เกษตรธรรมชาติของไทยเราจะหมักได้หมด จากพืชผักผลไม้สด เศษอาหารที่เป็นธรรมชาติ จึงเรียกว่า "น้ำสกัดชีวภาพ"

ในน้ำสกัดชีวภาพจึงมีทั้งฮอร์โมน แบคทีเรีย กรดอะมิโน หรือมีสารที่เป็นผลผลิตขึ้นต้น เช่น อย่าง คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน กรดอะมิโน แล้วผลผลิตขั้นที่สอง จะเปลี่ยนไปอีกขั้นหนึ่ง ไปเป็นพวก ฮอร์โมน น้ำมันหอมระเหย และสารต่างๆ ที่เรานำมาทำยา ซึ่งมีพวกเอนไซม์ และ Ionic Plasma

เพราะฉะนั้น เวลาที่เราเอาไปหมักย่อยสลายสารพวกนี้ก็จะออกมา

น้ำสกัดชีวภาพส่วนใหญ่จะเป็นจุลินทรีย์รวม พวกที่ทำงานจะเป็นแบคทีเรีย ซึ่งจะเริ่มจากยีสต์ และ มีแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดกรด

มีจุลินทรีย์หลายชนิดที่จะเปลี่ยนเป็นระยะๆ เริ่มแรกอาจจะมีพวกยีสต์ (ฝ้าเม็ดขาวๆ) มากหน่อย พอต่อๆ มาก็จะมีพวก ค็อกคัส เป็นกลุ่มเป็นคู่ หรือแบบเดี่ยวๆ ก็มี เริ่มจากแบคทีเรีย พวกที่กินน้ำตาลก่อน มันจะสร้างสาร ที่เป็นตัวเสริม การทำงานของสิ่งมีชีวิต ที่ได้จาก การหมักสุดท้าย จะได้กรดแลคติก ซึ่งจะทำให้ จุลินทรีย์อื่นๆ ไม่สามารถอยู่ได้ จะอยู่ได้ก็เฉพาะ จุลินทรีย์บางชนิด ที่มีประโยชน์ เช่นเดียวกับ การหมักนมเปรี้ยว (โยเกิร์ต) หรือการทำเนย ที่จะได้จุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส

ประโยชนŒของน้ำสกัดชีวภาพ มีมากมาย เพราะมนุษย์เราใช้การดองอาหาร มากว่าพันปีแล้ว ทุกวันนี้ ก็ยังใช้กันอยู่ น้ำสกัดชีวภาพ ก็เหมือนกับเราเอาน้ำตาลมาผสม แล้วสารที่ได้ออกมา ก็มาจากเซลล์ของพืช ซึ่งเป็นผลผลิต ที่มีพวกฮอร์โมน เอนไซม์ กรดอะมิโนซึ่งมีอยู่มาก

เอนไซม์ที่เราใส่ลงไปในดินจะไปเพิ่มเอนไซม์ในดินด้วย แล้วจุลินทรีย์ในดิน จะเปลี่ยนสภาพเศษพืช ซากสัตว์ต่างๆ ให้เป็นปุ๋ย มันจะย่อยสลาย ให้สารต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์กับต้นไม้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตามธรรมชาติอยู่แล้ว อย่างเศษพืช ที่เราเอาไปกองทิ้งไว้ ก็จะเกิดกรดฮิวมิค ที่เราเรียกว่า "ฮิวมัส" ซึ่งสำคัญมาก มันจะเปลี่ยนรูปเป็นปุ๋ย ที่ทำให้ต้นไม้ ดูดไปใช้เป็นอาหาร ถ้ายิ่งมีอินทรียวัตถุ ในดินมาก ก็จะยิ่งเปลี่ยนเป็นปุ๋ย ให้ต้นไม้ กินได้นาน ทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตเร็ว

อย่างเช่นกรดอะมิโนซึ่งเป็นองค์ประกอบของโปรตีน พอได้กรดอะมิโน จากน้ำสกัดชีวภาพ ต้นไม้ ก็สามารถ นำไป เปลี่ยนเป็นโปรตีน ไปใช้ได้เลย

ส่วนฮอร์โมนถ้าเราไปทดสอบกับพืช มันจะไปทำให้ต้นไม้ที่มีการฟักตัวแตกตาออกมา แล้วใบ จะมีขนาดใหญ่ งอกงาม แข็งแรง เพราะฮอร์โมน เป็นสารที่ไปเร่ง และกระตุ้น การเจริญเติบโต มีสารที่กระตุ้น ให้เกิด การแบ่งเซลล์ เมื่อเราฉีดพ่นไปที่ต้นไม้ จะทำให้ต้นไม้ ผลิใบแตกตาได้ ใบจะขยาย ขนาดของใบจะโต สีสด สมบูรณ์แข็งแรง น้ำสกัดชีวภาพ จึงคือตัวที่ไปช่วยส่งเสริม ให้ยีนส์ทำงาน อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ต้นไม้ เติบโตเต็มที่

เราสามารถทดลองใช้กับต้นไม้ว่าอัตราเท่าไหร่มันจะเติบโต ดูง่ายๆ ว่าถ้าเข้มข้นมาก จะทำให้ต้นไม้ ชะงัก การเจริญเติบโต สำหรับกรณีอื่น เราสามารถทดลองใช้ได้ โดยตรงเลย เช่น ใช้ในการตอนกิ่ง ว่าออกรากดีไหม มันจะมีสูตรกลางๆ อยู่ที่อัตราส่วน ๑ : ๑,๐๐๐ เป็นเกณฑ์ไว้ก่อน เพื่อให้ต้นไม้ไม่ตาย ฉีดพ่นได้บ่อยครั้ง แต่ถ้าต้นไม้งามมาก ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันมาก อาจจะปล่อยไว้ฉีดสัก ๕-๗ วันต่อครั้ง ดูให้เป็นธรรมชาติ เพราะน้ำ สกัดชีวภาพนี้ เมื่อใช้แล้ว จะทำให้สภาพแวดล้อมดี ของบูดเน่าไม่มี แมลงไม่มารบกวน สัตว์ และต้นไม้ ก็จะแข็งแรง

สำหรับประโยชน์ในด้านอื่นๆ ของน้ำสกัดชีวภาพ เช่นการแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียนั้น เพราะในน้ำเสีย จะมีแก๊ส บูดเน่า อย่างแก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟต์) หรือกำมะถัน มีเทน ซึ่งจุลินทรีย์ ที่มีอยู่ในน้ำสกัดชีวภาพ จะเป็นจุลินทรีย์ พวกสังเคราะห์แสง ที่ได้มาจาก กระบวนการหมัก ในสภาพที่ไร้อากาศ จึงสามารถทำงานได้ ในสภาพที่ไร้อากาศ โดยมันจะไปปรับ สภาพน้ำเสีย เพราะจุลินทรีย์พวกนี้ ชอบกินของเสีย และ ปล่อยก๊าซ อ๊อกซิเจนออกมา พร้อมทั้งโอโซน เพราะมันจะมีเอนไซม์ ที่ช่วยทำให้เกิดการย่อยสลาย ทางชีวภาพ จึงใช้ปรับสภาพ น้ำเสียได้ เมื่อปรับสภาพน้ำได้แล้ว จะนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เป็นการแก้ไข ระบบนิเวศน์ เพราะน้ำเป็นหัวใจ ของสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต้องอาศัยน้ำ

หลักการเดียวกันนี้ ยังสามารถปรับไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ไปแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น ในห้องน้ำ คอกสัตว์ บ่อเลี้ยงปลาเลี้ยงกุ้ง ฯลฯ

ในด้านการซักล้าง ควรเพิ่มน้ำด่างจากขี้เถ้าไม่ลงไปด้วยจะทำให้การซักล้างสะอาดยิ่งขึ้น

การสกัด เพื่อเอากลิ่น จากดอกไม้ ผิวผลไม้ ซึ่งจะได้น้ำมันหอมระเหย น้ำหอม ใช้ในการทำเครื่องสำอาง

การสกัดเพื่อเอาสีจากเปลือกไม้ ใบไม้ เพื่อใช้ในการย้อมสีผ้า หรือแต่งสี เครื่องสำอาง
อ่านต่อฉบับหน้า

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๖ กันยายน ๒๕๔๕)