คนบ้านนอก บอกกล่าว
โดย... จำลอง
ประเทศเรามุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจมานานแล้ว
ไม่ใช่เพิ่งจะมาเอาจริงเอาจังกันในสมัยนี้ แต่ยิ่งแก้เท่าไร คนส่วนใหญ่
ก็ยิ่งจนลง เท่านั้น
ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงเกษตรท่านหนึ่ง
พูดในโอกาสเกษียณอายุราชการ แม้จะเป็น ข้อความสั้น ๆแต่น่าคิด
"ผมช่วยชาวไร่ชาวนาตั้งแต่เขามีอะไรๆ พัฒนา จนกระทั่ง หมดเนื้อ
หมดตัว"
ในชั้นเรียนของโรงเรียนผู้นำ ผมพูดให้นักเรียน
(อายุ ๒๕ ถึง ๕๕ ปี) ฟังเสมอๆ ว่าผมเรียนวิชา ทำลายล้าง ถ้าฆ่าข้าศึกได้มากเท่าไร
นับเป็นผลสำเร็จ ในวิชาชีพ ที่ร่ำเรียนมา มากเท่านั้น ต่อมา สำนึกได้ว่า
ถ้าชาวไร่ ชาวนา เอาตัวรอดไม่ได้ ผมและเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่เป็นทหาร
ก็ไม่รอดเหมือนกัน
จบเป็นนายทหารใหม่ๆ ผมชวนเพื่อนกลุ่มหนึ่ง
ไปช่วยพัฒนาชาวนา ที่ตำบล คลองถนน ชายเขตบางเขน กรุงเทพฯ ทำอยู่ได้ปีเศษๆ
ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะมุ่งแก้ แต่เรื่องเศรษฐกิจ อย่างเดียว ลืมเรื่องจิต
เรื่องคุณธรรม
สามสิบปีให้หลังผมแก้ตัวใหม่ ทำโครงการ
"เกษตรกรอยู่รอด" ที่อำเภอ หนองปรือ และ อำเภอเมือง
กาญจนบุรี เน้นเรื่องจิต เรื่องคุณธรรมเป็นสำคัญ ใครไม่อยู่ในกรอบ
"ถือศีลห้า เลิกอบายมุข" ก็ต้องถูก
คัดออกไป ปรากฏว่า เกษตรกรอยู่รอด สมชื่อโครงการ
เรามีการประชุมกันเนืองนิตย์ ย้ำอยู่เสมอว่า
เป็นสมาชิกโครงการ ไม่ใช่เพื่อหาเลี้ยงชีพ อย่างเดียว ชีวิตต้อง พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ตามพุทธพจน์ที่ว่า "ยังมีอะไรดีๆ กว่านี้อีกมาก
ที่เรายังไม่ได้ทำ"
เมื่อสบโอกาส ผมมักจะพูดกับท่านนายกฯ
ทักษิณในทำนองว่า จะพัฒนาเศรษฐกิจ จำเป็นต้อง พัฒนา คุณธรรม ควบคู่กันไป
ผมเห็นใจ คนรอบข้าง อีกจำนวนมาก ยังคิดเก่า ทำเก่า อยู่ มุ่งแก้เศรษฐกิจอย่างเดียว
บูรณาการเศรษฐกิจ
แต่ลืมจิต คุณธรรม ยังคงกร่ำโลกีย์โลกไปไม่รอด
หนังสือพิมพ์
เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๗ ตุลาคม ๒๕๔๕
|