ประสาร มฤคพิทักษ์
การพนันแห่งชาติ : เอาชั่วมาล้างชั่ว

ผลการวิจัยของสมาคมรัฐศาสตร์แห่งประเทศไทย นายพรศักดิ์ ผ่องแผ้ว ที่ระบุว่าคนไทย ๕๕.๒% เห็นด้วยกับ การเปิดบ่อนพนันถูกกฎหมาย คงทำให้กองเชียร์ ดีอกดีใจกันยกใหญ่

ความจริงข้อเสนอให้เปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายไม่ใช่เรื่องใหม่ อดีตวุฒิสมาชิกคนหนึ่ง เคยเสนอเรื่องนี้ มาเมื่อกว่า ๓๐ ปีล่วงมาแล้ว ต่อมา นายสะอาด ปิยวรรณ อดีตผู้บริหาร พรรคชาติไทย ก็เคยเสนอ เมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจ จากสาธารณะมากนัก

เสียงที่เห็นด้วย ๕๕.๒% และเสียงที่ไม่เห็นด้วย ๔๔.๘% สะท้อนให้เห็นว่า ความเห็น ของสังคม ส่วนหนึ่งเปลี่ยนแปลง ในทางต้อนรับกาสิโน

* กลุ่มตัวอย่างที่เห็นด้วย เห็นว่า
(๑) ๗๘.๑% ทำให้การควบคุมดูแลการพนันเป็นระบบ
(๒) ๖๙.๔% ทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น
(๓) ๗๕.๙% ช่วยป้องกันเงินรั่วไหลออกนอกประเทศได้
(๔) ๖๘.๓% เป็นการแก้ปัญหาการพนันชายแดน
(๕) ๖๐.๑% ช่วยลดบทบาทเจ้าพ่อและผู้มีอิทธิพล
(๖) ๖๖.๙% ตำรวจลดภาระการจับพนันเถื่อน
(๗) ๕๗.๙% ส่งเสริมการท่องเที่ยว
(๘) ๗๓% ได้เงินจากต่างประเทศ

* มิติทางเศรษฐกิจ
๑. ในแง่มุมที่เห็นด้วย ข้อ ๒,๓ และ ๘ วางน้ำหนักไปที่ตัวเงิน ว่ารัฐจะมีรายได้ ป้องกันเงิน ไหลออก และได้เงินตราต่างประเทศ นายพรศักดิ์ชี้ว่า เงินไหลออกนอกประเทศ ของบ่อน ชายแดน ประมาณ ๓๐ แห่ง คิดเป็นเงินปีละ ๒๐๐,๐๐๐ - ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท

แต่ปรากฏว่าตารางการลงทุนและผลตอบแทนกาสิโน ๗ แห่งใหญ่ตามชายแดนไทย ชี้ให้เห็นว่า มี ๕ แห่ง คือ อันดามันคลับ (ฝั่งพม่าที่เกาะลูน ตรงข้าม จ.ระนอง) เกาะกง รีสอร์ท (กัมพูชา ตรงชายแดน จ.ตราด) แกรนด์ ไดมอนด์ซิตี้ (ปอยเปต กัมพูชา) ไอร์เสม็ด รีสอร์ท (กัมพูชา ตรง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์) เรจินา (พม่า ตรงสามเหลี่ยมทองคำ) ทั้ง ๕ แห่งนี้เป็นคนไทยถือหุ้น ๑๐๐% ขณะที่โกลเด้นคราวน์ (ปอยเปต จ.สระแก้ว) คนไทยถือหุ้น ๕๐% และสตาร์เวกัส (ปอยเปต) เป็นหุ้นคนไทย ๘๐% โดยมีนักการเมืองไทยชื่อดัง ๒ คน ถือหุ้นอยู่ด้วย (จากมติชน ๑๕ ก.ย. ๔๕)

แปลว่าบ่อนใหญ่และดัง เจ็ดอันดับแรก ล้วนแล้วแต่เป็นของคนไทย แสดงว่าเงินรายได้ จากกาสิโนชายแดน ด้านหลักยังอยู่กับ นักการเมืองชื่อดัง และคนไทย เจ้าของบ่อนใช่หรือไม่

นั่นหมายถึงพรมแดนไม่ได้เป็นอุปสรรคที่มีผลสำคัญต่อเงินไทย ว่าจะไหลเวียน อยู่ในประเทศ หรือ จะไหลออกไป นอกประเทศ

๒. ถ้าเกิดมีบ่อนกาสิโนในไทยขึ้นมาจริงๆ ใครจะยืนยันได้ว่า นักเล่นพนันทั้งหลาย จะพากันเลิกเล่น บ่อนชายแดน แล้วหันมาเล่นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ พัทยา ภูเก็ต หรือที่อื่นใด ในประเทศไทย ที่สร้างขึ้น แล้วใครจะไปสั่งปิด ๓๐ บ่อนชายแดนได้ นักพนันย่อมมีแหล่งเลือก ที่สะดวก หรือเคยชิน หรือถูกอัธยาศัย ของเขาเอง

ทั้งๆ ที่ขับรถมาจากกรุงเทพฯ ไปปอยเปตประมาณ ๓ ชั่วโมง แต่ก็มีคนบินไปถึงครึ่งโลก เพื่อเล่นกาสิโน ที่ลาสเวกัส นายรักเกียรติ สุขธนะ ระหว่างเป็นรัฐมนตรี ยังบินไปเล่น ที่ออสเตรเลีย ตั้งหลายครั้ง

ดังนั้น การมีบ่อนในประเทศ ไม่ได้สรุปว่าเงินพนัน จะไหลเวียนอยู่เฉพาะในประเทศ เพราะการพนันเป็นเสรี เสรีแปลว่า ผู้เล่นมีสิทธิจะเลือก ตรงกันข้าม ในทางจิตวิทยา คนเล่นการพนัน จำนวนหนึ่ง ไม่ต้องการ เปิดเผยตัว เพราะอับอายว่า ลูกเมียคงเสียใจ ถ้ารู้ว่าผัว เป็นนักพนัน ยกเว้นใจรักพนันกัน ทั้งครอบครัว คนจำนวนไม่น้อย จึงลักลอบเล่น ฉะนั้น การไปเล่นต่างประเทศ ที่ไกลหูไกลตาครอบครัว ย่อมปลอดภัย ในชีวิตครอบครัว มากกว่า

๓. การพนันเป็นการกระจายรายได้ที่ไม่เป็นธรรม บ่อนกาสิโนที่ลาสเวกัส ที่มาเก๊า ที่เกนติ้งไอร์แลนด์ ที่ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ อยู่ยงคงกระพัน มานานปี เพราะเป็นธุรกิจ ที่เจ้ามือ มีกำไรมหาศาล ลูกค้าคือเหยื่อ เหมือนแมลงเม่า บินเข้ากองไฟ ศ.ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร เคยวิจัยพบว่า บ่อนที่ ออสเตรเลียนั้น ลูกค้า ๓ ใน ๒๐ คน เท่านั้นที่เล่นแล้วได้ แต่ ๑๗ คนเล่นเสีย นั่นหมายถึงว่า เจ้ามือรวย ลูกมือเจ๊ง เป็นกฎเกณฑ์ ของการพนันทั่วโลก ดูใกล้ตัวนี่ก็ได้ นายบ่อนในเมืองไทย มีใครบ้างที่จน บางคน ยังนั่งอยู่ ในรัฐสภาเลย เพิ่งเห็นอัศจรรย์ อยู่คนเดียวคือ อดีต รมว.สาธารณสุข ที่คุยว่ารวยจากบ่อนเกือบ ๒๐๐ ล้าน แต่ในที่สุด ก็บอกว่า ที่ได้มานั้น เสียพนันไปหมดแล้วอีกเหมือนกัน

การกระจายรายได้นั้น ต้องให้คนในสังคมส่วนรวมได้รับการแบ่งปัน ในสัดส่วนที่เหมาะสม แต่การพนัน เป็นการพร้อมใจกัน ของเหยื่อ เอาเงินไปกองรวมไว้กับเจ้ามือ ก็คนจนนั่นเอง ที่หมดเนื้อหมดตัว คนรวย มีแต่ได้กับได้

๔. การพนัน เป็นการเล่นกับเงินที่ไม่เกิดผลผลิตใดๆ เลย ตำราเศรษฐศาสตร์เล่มไหนๆ ก็ไม่เคยชี้ไว้ว่า เล่นการพนัน อย่างองอาจ แล้วชาติเจริญ มีแต่ส่งเสริมให้ทำการผลิต จะผลิตด้วยมือ หรือด้วยเครื่องจักร ออกมาเป็นสินค้า เรียกว่าอุตสาหกรรม จะซื้อมาขายไป ก็เป็นพาณิชยกรรม จะอำนวยความสะดวก ก็เป็นการบริการ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ ต้องมีน้ำเหงื่อ และน้ำแรงของผู้ผลิต ผู้ค้า หรือ ผู้ให้บริการทั้งนั้น จึงเกิดผลตอบแทน เป็นรายได้

การเอาเหรียญหยอดตู้แล้วดึงคันโยก การเอาเงินแลกชิปแล้วเอามาวาง มาแทงในเครื่องเล่น หวังว่าเงิน จำนวนมาก กว่าจะไหลมาใส่มือคนเล่น แม้จะได้ออกแรงโยก ก็หาใช่การผลิต ตามความหมาย ทางเศรษฐศาสตร์ไม่ มันเป็นการเล่นกับความเสี่ยง ฝากอนาคตไว้กับโชค ที่ไม่ส่งผลใดๆ เลยต่อผลิตภัณฑ์ มวลรวมประชาชาติ ควรหรือไม่ ที่รัฐบาลจะส่งเสริม พฤติกรรมไม่ผลิต แล้วได้หรือเสียเงิน ให้เป็นเรื่องสำคัญ ระดับชาติ แทนที่จะหนุนเนื่องคน ให้ทำงาน อันเป็นหน้าที่สำคัญที่สุด ของมนุษย์

'มิติทางด้านการจัดระเบียบสังคม
นายพรศักดิ์ ผ่องแผ้ว บอกว่า "ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา เนื่องจากเราไม่สามารถ ไปแก้ไข ในประเทศ รอบบ้านกว่า ๓๐ แห่งนี้ได้ ดังนั้น ต้องหันมาจัดระเบียบ ในประเทศจะดีที่สุด"

นี่เท่ากับยอมรับความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคนไทยไปเล่นพนันชายแดน แต่กลับบอกว่า จะมาจัดระเบียบ ภายในประเทศ

ขอถามว่า เรามีล็อตเตอรี่ถูกกฎหมาย แต่เรามีหวยใต้ดินผิดกฎหมาย เล่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เล่นกันอยู่ ในทุกกระทรวง ทบวงกรม เล่นกันแม้บน สถานีตำรวจ ใช่หรือไม่

ขอถามว่า ยาบ้านั้นจับกันทุกวัน แต่ก็ขายกันทุกเวลา ยิ่งจับยิ่งค้า ที่ยาบ้าระบาดไป ทุกขุมขน ทั่วประเทศ ก็เพราะจัดระเบียบ ไม่ได้ใช่หรือไม่

ขอถามว่า โสเภณีนั้นผิดกฎหมาย แต่มีจังหวัดไหนปลอดโสเภณีบ้าง

ขอถามว่า ที่ผิดกฎจราจร ที่มีเทปผีซีดีเถื่อน แล้วที่สำนักตรวจเงินแผ่นดินชี้ว่า ราชการทั้งหลาย โกงกัน มโหฬาร ในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งมีมาชั่วนาตาปี ใครสามารถ จัดระบบได้บ้าง

การพนันแห่งชาติ เป็นความคิดที่สารภาพถึงการยอมจำนนต่อปัญหาการพนันชายแดน ที่แก้ไขไม่ได้ เป็นทัศนคติที่เน้นไปสู่ตัวเงิน โดยมองข้ามผลพวงอุบาทว์ทางสังคม ที่จะตามมา เช่น เป็นแหล่งฟูมฟัก อาชญากรรม ดังผลการศึกษาที่ แอตแลนติกซิตี้ และ ลาสเวกัส (บทความวสิษฐ เดชกุญชร มติชน ๓ ก.ย. ๔๕) เป็นสถานฟอกเงิน ของนักการเมือง เป็นการขยาย อาณาจักรมาเฟีย ผิดกฎหมายทั้งหลาย เป็นการเอา คนยากคนจน มาเป็นเหยื่อ แห่งการ มอมเมา เป็นการเอาชั่ว มาล้างชั่ว ที่ขยายความชั่ว ให้เติบใหญ่ ต่อไปไม่สิ้นสุด

ที่ชั่วด้วยยาบ้า ที่หนักหนาด้วยทุจริต ที่วิปริตด้วยการทำลายป่า ดิน น้ำ ยังชอกช้ำไม่พอ หรือไม่อย่างไร จึงเสนอให้มี การพนันแห่งชาติ ขึ้นมาซ้ำเติม
(มติชนรายวัน ศุกร์ที่ ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๕)

(เราคิดอะไร ฉบัรบที่ ๑๔๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๕)