หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

คนบ้านนอกบอกกล่าว
- โดย...จำลอง -

การเดินทางระหว่างบ้านนอกกับเมืองกรุง ตอนนี้ ผมขับรถกระป๋องจากโรงเรียนผู้นำไปจอดซุกไว้ที่โน่นบ้างที่นี่บ้างใกล้ๆกับท่ารถประจำทาง พอถึงกรุงเทพฯก็นั่งรถแท็กซี่ต่อ ผมจอดทิ้งไว้หลายๆ วันก็เคย ไม่กลัวหาย เพราะเป็นรถเก่า อายุยี่สิบกว่าปีแล้ว เครื่องยนต์เล็กที่สุดในเมืองไทย (เสียค่าต่อทะเบียนปีละ ๑๗๕ บาท ๓๕ สตางค์)

บางครั้งมีคนแอบไปเช็ดกระจกรถให้บ่อยๆ แล้วง้างที่ปัดน้ำฝนไว้ คงสงสารที่เห็นรถมอมแมม คนขับเอาแต่ขับอย่างเดียว ในบ้านเมืองเรา คนดีก็ดีแสนดี ใจโอบอ้อมอารี ชอบช่วยคนอื่น แม้ไม่มีใครรู้เห็น คนที่แย่ก็แย่เสียจริง แย่จนไม่มีอะไรไปสู้ "คุณทองแดง" ได้เลย

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รับการติดต่อผ่านคุณวิชาญ จิรเวชบวร-กิจ ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักนับถือ ของคนหลายวงการ ให้ไปเป็นประธานปิดการแสดงงิ้ว ที่โรงภาพยนต์เฉลิมกรุง เป็นคณะงิ้ว ที่เก่าแก่ มีชื่อเสียงโด่งดัง หาดูได้ยากคือ คณะตั้งซอหุย กับคณะโผวเล้ง

สมาชิก "เราคิดอะไร" หลายท่านคงไม่ทราบว่า งิ้วที่เล่นในเมืองไทยเดี๋ยวนี้ ผู้แสดงเป็นชาวอีสาน เกือบทั้งนั้น เขียนหน้าเขียนตาแล้วก็เหมือนคนจีน พูดจีนไม่ได้แต่เล่นงิ้วได้นับว่าเก่งมาก

เที่ยวนี้ใครๆ คิดว่า คนที่จัดการแสดงงิ้ว คือเฮียเม้ง และซ้อนันทนา สวัสดิ์ธนากุล ต้องขาดทุน มากแน่ๆ ปรากฏว่าแสดงติดต่อกันหลายวัน ต้องเสริมเก้าอี้ทุกรอบ นอกจากเสียค่าตัวแพงแล้ว ยังมีรายได้ แบ่งไปช่วยการกุศลอีก

ผมเคยได้รับการต่อว่าจากสมาชิก "เราคิดอะไร" บางท่านว่า ข้อเขียนของผมไม่เห็นมีอะไร มีแต่คุยเรื่องตัวเอง จริงครับ ตั้งแต่ก่อนจะออก "เราคิดอะไร" ฉบับแรกแล้ว ผมบอกคณะผู้จัดทำว่า ผมไม่เหมาะที่จะเป็นนักเขียน เพราะตัวเองไม่มีเวลาอ่านหนังสือต่างๆ ที่ผู้รู้จำนวนมากมาย เขียนไว้ในหนังสือ เล่มนั้นเล่มนี้ คณะ "เราคิดอะไร" บอกว่า เจตนาของหนังสือ ต้องการให้ ผู้อ่านทราบ "ความคิดของเรา" มากกว่า "ความคิดของเขา"

เนื่องจากระยะนี้มีเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็กมามะรุมมะตุ้มอยู่ที่ผม ผมต้องให้สัมภาษณ์ ทางวิทยุ ทางหนังสือพิมพ์ ต้องออกรายการสดทางวิทยุหลายความถี่ ทั้งเรื่องบางจาก เรื่องการขายวัว เรื่องต่อต้านวันหยุดยาว และเรื่องคนสนิทของนายกฯ เป็นต้น จนไม่มีเวลา เขียนเองทั้งหมด หน้าหนังสือของผม ในฉบับนี้จึงหนักไปทาง "เขาคิดอะไร" แต่ก็ไม่พ้น เรื่องที่เกี่ยวกับผม หรือเรื่องที่ผมรู้

นี่ก็ใกล้หรือถึง ๔ ธันวาอีกแล้ว ทุกคนดีใจ ตั้งใจคอยวันนี้ทุกปี วันที่พ่อหลวงตรัสถึง เรื่องสำคัญๆ ของบ้านเมือง เป็นโชคดีของคนไทย แต่โชคไม่ดีที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เอาแต่ฟังไม่เอาไปทำ จนครั้งหนึ่ง ท่านต้องตรัสย้ำว่า "ได้เคยพูดในที่อย่างนี้ๆ เสมอๆ...."

อยากจะส่งความปรารถนาดี ถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่า "ฟังเท่าไรก็ไร้ค่า ถ้าไม่เอาไปทำ"

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๔๙ ธันวาคม ๒๕๔๕)