คุยนิดคิดหน่อย
- บรรณาธิการ -
เพราะโบราณว่า "ไก่งามเพราะขน
คนงามเพราะแต่ง" แท้ๆ เทียว
สาวแก่แม่หม้าย วัยรุ่นวัยดึกยุคใหม่ที่อยากงามอย่างไก่จึงแต่งแต้มกันยกใหญ่
ประดัง เครื่องสำอาง เสริมสีสันอบอวล ประทินกลิ่นอาย อีกเสื้อผ้าแพรพรรณ
เครื่องประดับ ประดา สารพัน ปานฉะนี้แล้ว ยังมิสะใจ ยังบากหน้ากล้าตายเสี่ยงภัย
ตัดแต่งต่อเติม เสริมทรง แปลงโฉม อีกต่างหาก เจ็บเนื้อเจ็บตัวไม่ว่า
ขอให้เตะตา ต้องใจใครอื่น ก็สุดปลื้มเปรม
จะทึกทักเอาว่าคนรุ่นใหม่ตีความนิยาม
"ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" เพี้ยนไป ก็มิบังอาจ แต่กังขานักไยจึงหลงทางพากันงามเข้ารกเข้าพงจนไก่ได้อายม้วน
หาฉุกคิดไม่ว่า อันไก่งาม เพราะขนนั้น ใช่เพราะไก่แส่หาขนนกขนกามาเสียบแซมก็หาไม่
ต่างเจ้ากาดำ ทำพิเรน เล่นกลลวงตาเอาขนยูงมาสอดแซม และวาระสุดท้าย
ก็ไม่พ้นอัปยศอดสู ถูกฝูงยูง รุมประชาทัณฑ์
ลองตรองดูเป็นไร
ไก่มีขนติดตัวมาอย่างไรก็งามตามขนขนานแท้อย่างนั้น จะเสริมเสน่ห์บ้าง
ก็เพียงซอนไซ้ขน ให้เรียบสะอาด มันขลับ ก็เท่านั้นเองใช่ไหมเอ่ย
คนจะเอาเยี่ยงงามแม้นไก่ก็ต้องตามรอยให้ตรงต้นตำรับซี
อย่าริอ่านอุตริ นอกคอกนอกครู ไปข้างๆ คูๆ ดูพิกล ไก่งามเพราะขนติดตัวตั้งแต่โผล่หัวออกมาจากไข่
คนก็ต้องงาม ด้วยรูปโฉม โนมพรรณ แต่กำเนิด
นั่นคืองามแท้ งามด้วยตัวเอง
งามในตัวเอง
รูปธรรมเป็นมาอย่างไรก็เป็นไปอย่างนั้น
แม้เปลี่ยนแปรได้ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ เพราะสิ่งที่ แปรเปลี่ยนไปมิใช่ของจริงแท้
ใครไม่รู้เราก็รู้อยู่แก่ใจตนเองว่านี่มันของเทียมนี่หว่า
แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปรเปลี่ยนแปลงได้
คือ นามธรรม งามใน งามด้วยคุณธรรมความดี งามด้วย คุณสมบัติ มิใช่รูปสมบัติ
คุณสมบัติ นี่แหละที่จะแต่งแต้มตนให้งามเยี่ยงไก่
งามเกินไก่ได้
นี่ไงล่ะ คนเหนือไก่ก็ตรงนี้แหละ
ไก่มีแต่งามขนงามนอก แต่คนมีทั้งงามนอกและงามใน
รู้อย่างนี้แล้ว
ใครยังดันทุรังบ้าระห่ำเอาแต่งามนอกแข่งกับไก่อยู่ต่อไปก็แล้วแต่ เกิดเป็นคน
ทั้งที ตีค่าตัวแค่ไก่ก็เป็นไก่งามแต่เปลือกไปเหอะ แม่คุณเอ๊ย
จะเป็นเพราะว่ามากไปด้วยผู้บริหารแผ่นดิน
และผู้มีอำนาจหน้าที่ สายพันธุ์ไก่ที่ดี แต่ปากงาม แต่เปลือกหรือเปล่าหนอ
จึงนำพาบ้านเมืองเราดูรุ่งเรืองดูงามแบบไก่
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๔๙ ธันวาคม ๒๕๔๕)
|