หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

บ้านป่า นาดอย โดย...จำลอง

ความคิดมีความเร็วเหนือแสง วิเศษพิสดารกว่าแสงมาก สามารถทะลุทะลวง ได้หมด แม้กระทั่ง ภูเขาที่สูงใหญ่ เราส่งความคิดนึก ไปได้ทุกที่ ไม่มีขอบเขต ข้ามน้ำ ข้ามจักรวาลน้อยใหญ่

คุยกับคนอเมริกันก็นึกถึงเมื่อครั้งไปเรียนที่ รัฐนิวเจอร์ซี่ จอร์เจีย แคลิฟอร์เนีย เห็นทะเล ก็นึกถึง ฮาวาย ที่เคยไปอยู่ที่นั่น อยู่นาน จนเกือบจะกลาย เป็นชาวเกาะไปแล้ว

มีอะไรที่เป็นปัญหา จะนึกจะคิดซ้ำๆ อยู่เสมอเพื่อหาทางออก อยู่ที่ไหนก็คิด ไม่ว่าจะอยู่ป่า อยู่กรุง กำลังขับรถ หรือ นั่งรถ ประจำทาง คิดนึกถึงข้อความ ในจดหมาย ที่ท่านอดีตปลัด กระทรวงกลาโหม ซึ่งปัจจุบัน เป็นประธาน คณะกรรมการบริหาร บริษัทบางจาก เขียนถึงผม แล้วผมส่งให้ ท่านนายกฯ ทักษิณเมื่อสี่ห้าเดือนที่แล้ว

"บางจากเหมือนคนไข้ที่ไม่รักษาตายแน่ รักษาไม่เต็มที่ก็ตาย ถ้ารักษาเต็มที่รอดแน่ และ จะทำประโยชน์ ให้บ้านเมือง มากมาย"

หลายเดือนมาแล้ว ผมในฐานะกรรมการคนหนึ่งของ "คณะกรรมการส่งเสริมบางจากเพื่อชุมชน" ได้พาคณะเข้าพบ ท่านนายกฯ ทักษิณ หลังจากนั้น ท่านขอพบ พวกเราอีก ใช้เวลาซักถาม ขอดูเอกสาร การดำเนินงาน ของบางจาก เป็นเวลา กว่าชั่วโมง จนถึงวันนี้ รัฐบาลช่วยได้เพียงส่วนหนึ่ง คือ มีมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อประมาณ กลางเดือน พฤศจิกายน ให้หน่วยงาน ราชการ และ รัฐวิสาหกิจ สามารถซื้อน้ำมัน บางจากได้ แทนที่จะผูกขาด ให้ซื้อจาก ปตท. ซึ่งได้ปฏิบัติ กันมาช้านาน

รอมาถึงวันนี้ ผมเสนอคณะกรรมการให้พิจารณา เสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไรก็เอาตามนั้น ที่ประชุมลงมติ เป็นเอกฉันท์ ให้ผมเขียน จดหมาย ถึงประชาชน ชี้แจงเรื่องราว ความเป็นมา ให้ทราบ ก็พอดีประธานบริษัท น้ำมันต่างชาติ ในประเทศไทย ออกมา ให้สัมภาษณ์ เตือนท่าน นายกฯ ว่า อย่าช่วยบางจากเป็นอันขาด เพราะผิดกฎการค้าเสรี

ผมและกรรมการทุกคน ที่สนับสนุนบางจาก ไม่ได้โกรธกลุ่มค้าน้ำมันต่างชาติ ที่ต้องการ ให้ปิด โรงกลั่นเดียว ของคนไทย เพื่อเขา จะได้ กำไรมากขึ้น การแสวงหากำไร ให้มากขึ้นนั้น เราไปโทษ เขาไม่ได้ เมื่อได้กำไรมากแล้ว เขาโกยเงิน กลับต่างประเทศ เราก็ว่าเขาไม่ได้อีก เพราะรัฐบาลก่อน ออกกฎหมาย ให้สิทธิ์เขาไว้

ถ้าเราจะโทษก็โทษคนไทยด้วยกัน ที่ไม่รู้หนาวรู้ร้อน มีคนกลุ่มหนึ่ง ออกมาชี้สัญญาณ อันตรายแล้ว ก็ยังเฉย ไม่คิดถึงอนาคต คิดแต่ความสะดวก สบายเล็กๆ น้อยๆ ไปวันๆ เท่านั้น

ผมส่งจดหมายจำนวนไม่น้อย ถึงประชาชนเป็นอาทิตย์ๆ แล้วเพิ่งมี หนังสือพิมพ์ฝรั่ง (บางกอกโพสต์) เท่านั้น ที่เอาไป พิมพ์เผยแพร่ นอกจากนั้น เงียบกริบ ไม่เป็นไร

ในที่ประชุมผมบอกคณะกรรมการว่า หากคราวนี้ประชาชนคนไทย ไม่สนใจ ก็อย่าหวังเลย ที่จะให้ นิยมไทยอย่างแท้จริง คนไทย สมัยนี้ ทำได้อย่างมาก เพียงแค่ ดูหนังบางระจันเท่านั้น

เราคงจะเป็นทาสต่างชาติอย่างสมบูรณ์แบบ ในเวลาไม่นานเกินรอ

เพื่อเป็นการเผยแพร่จดหมายให้กระจายมากขึ้น ผมขอนำจดหมาย และตาราง การเปรียบเทียบ ระหว่าง บางจาก กับบริษัท น้ำมันต่างชาติ ลงมาพิมพ์ ดังต่อไปนี้

ต่างชาติรุกรัฐบาลไทยให้ปิดโรงกลั่นบางจาก น้ำมันไม่ขาดแคลน

๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
เรียน ประชาชนผู้รักชาติทุกท่าน

เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน นายเวย์น คลาห์ส ประธานบริษัทคาลเท็กซ์ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน ขู่รัฐบาลไทยว่า "รัฐบาลคิดจะช่วย โรงกลั่นบางจาก รัฐบาล กำลังละเมิด กฎการค้าเสรี เมื่อบางจากอยู่ไม่ได้ ก็ต้องปล่อย ให้ปิดไป ตามกลไก ตลาด รับรอง น้ำมันในไทย ไม่ขาดแคลน เพราะเกิน ความต้องการ ๓๐ เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว"

คนไทยไม่โง่ เรารู้ว่าไม่มีประเทศไหนในโลก ปล่อยให้คู่แข่งต่างชาติ เอาเปรียบ อย่างเสรี ต่างก็ต้องช่วย คนของประเทศตัว ทั้งนั้น ประธานบริษัท คาลเท็กซ์ ขู่ให้รัฐบาล อยู่เฉยๆ ปล่อยให้ โรงกลั่นบางจาก (โรงกลั่นเดียวของไทย) ตายซาก อย่างเสรี โรงกลั่นต่างชาติ ในไทยอีก ๔ แห่ง จะขายน้ำมันมากขึ้น

นายเวย์นอ้างว่า ปิดโรงกลั่นบางจากได้ก็ดี เพราะน้ำมันล้นตลาด ที่จริงโรงกลั่น บางจาก เป็นโรงกลั่น ที่สร้างมาก่อน แล้วมาต่อเติม ปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดปี ๒๕๓๖ ซึ่งน้ำมัน กำลังขายคล่อง ต่อมา บริษัท ต่างชาติ สร้างโรงกลั่น เพิ่มอีกถึง ๒ โรง สร้างเสร็จปี ๒๕๓๙ น้ำมัน ก็ล้นตลาดทันที ถ้าจะปิด ต้องปิด โรงกลั่นต่างชาติ ที่ก่อปัญหา ไม่ใช่บางจาก

นายเวย์นเตือนรัฐบาลให้พิจารณาอย่างรอบคอบถึงเรื่องความเหมาะสม และ ประสิทธิภาพ การดำเนินงาน รัฐบาลไทย ช่วยโรงกลั่นบางจาก ของรัฐบาลไทย ทำไมจะไม่เหมาะสม และ ในยุคที่ โรงกลั่นขาดทุนตามๆ กัน โรงกลั่นต่างชาติ ขาดทุนเป็น ๓ เท่าของบางจาก ใครมีประสิทธิภาพ มากกว่ากัน ๙ เดือนของปีนี้ บางจาก ทำกำไรสุทธิ ๔๖๑ ล้านบาท

คนต่างชาติกลุ่มหนึ่งจ้องฮุบบางจากให้สิ้นคู่แข่ง และยึดครองกิจการ น้ำมันของไทย ให้ได้ ทั้งหมด พวกเรา หลายคน หลายกลุ่ม คัดค้านรัฐบาลที่แล้ว เมื่อปี ๒๕๔๒ ไม่ให้ขาย หุ้นบางจาก ให้ต่างชาติ เช่น ชมรม คนรักบางจาก (โดยคุณณรงค์ โชควัฒนา) เครือข่าย พลเมืองไท (โดยกลุ่มประชาชน ๘๔ กลุ่ม และ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทั้งพระและ ฆราวาส รวม ๗๙ ท่าน เช่น พระพยอม กัลยาโณ พระไพศาล วิสาโล คุณหมอเสม พริ้งพวงแก้ว คุณหมอเฉก ธนะสิริ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นต้น) และกลุ่ม "คนกู้เมือง" ที่ออกไป ร่วมคัดค้าน หลังสุด ทำให้รัฐบาลที่แล้ว ต้องเลิกขายหุ้นบางจากให้ต่างชาติ

บริษัทบางจากมีทั้งโรงกลั่นและกิจการค้าปลีกตามปั๊มบางจากทั่วประเทศ เมื่อนักค้าน้ำมัน ต่างชาติกลุ่มนั้น ฮุบซื้อ รวมหมดไม่ได้ ก็แยกตี ตีโรงกลั่นบางจากหนักกว่าเพื่อน ด้วยการ ขู่รัฐบาล ไม่ให้ช่วย ประโคมข่าว ให้คนไทยด้วยกันเอง หลงเชื่อ คำใส่ร้าย ว่าไม่ดี เช่น น้ำมัน คุณภาพต่ำ ขาดทุนทุกปี จวนจะเจ๊งอยู่แล้ว ตีอีกอย่างหนึ่งคือ แย่งลูกค้าปั๊มต่างๆ ของบางจาก (ปั๊มต่างชาติ แย่งกันเองด้วย) ปั๊มต่างชาติบางปั๊ม ระดมทุนจาก ต่างประเทศ มายอมขาดทุน ในระยะสั้น ด้วยการเสนอ บริการเลิศลอย เกินความจำเป็น เช่น เปิดไฟ สว่างจ้า เหมือนโรงถ่ายหนัง ตลอดคืน เป็นต้น ปั๊มตราใบไม้ ของคนไทย จะเอาเงินทุน มากมาย ที่ไหน มาทุ่มแข่งกับเขา

ขณะนี้บางจาก บริษัทน้ำมันแห่งชาติของคนไทยแห่งเดียวที่มีโรงกลั่น (รัฐบาลถือหุ้น ๗๒% คนไทย ทั้งหมด ถือหุ้นรวม ๙๘%) กำลังถูกตีทั้งกิจการ โรงกลั่น และการค้าปลีก ตามปั๊มต่างๆ อาการ น่าเป็นห่วงที่สุด ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้กล่าว เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า "บริษัทบางจาก เป็นบริษัทน้ำมัน แห่งเดียว ที่คนไทย เป็นเจ้าของ คนไทยบริหาร และคนไทยใช้ ตอนนี้ บริษัทบางจาก กำลังป่วย เพราะมีเงินน้อย ถ้าเราไม่มี การเพิ่มทุน ให้กับ บริษัทบางจาก สงสัยบางจาก คงจะต้องตาย แล้วเรา ก็จะไม่มีบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย เหลืออยู่เลย... ฉะนั้น พวกเรา จึงควร ที่จะสนับสนุน บริษัทบางจาก ให้คงอยู่ และให้สามารถทำงานในหน้าที่ ที่เป็นเรื่องราว ของบริษัทน้ำมัน อันเป็นหน้าที่ โดยตรง ของบริษัทบางจาก และจะได้ทำงาน เพื่อคนที่เราเรียกเขาว่า คนชนบท"

ผมและคณะกรรมการส่งเสริมบางจากเพื่อชุมชนได้เข้าพบท่านนายกฯ ทักษิณ ๒ ครั้ง ขอให้รัฐบาลนี้ ให้ความยุติธรรมกับ บริษัทบางจาก ด้วยการเพิ่มทุน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้น ประชาชน จะระดมทุน ช่วยเพิ่มเติม ท่านนายกฯ รับปาก จะพิจารณา ถึงเวลานี้ ยังไม่ทราบผล (ตอนเศรษฐกิจฟุบปี ๒๕๔๐ บริษัทใหญ่ๆ จะอยู่รอด ต้องมีการเพิ่มทุนทั้งนั้น รัฐบาลก่อน เอาเงินคนไทย ไปเพิ่มทุน ให้โรงกลั่น ต่างชาติ ๒๘,๓๐๐ ล้านบาท โดยไม่ได้ เพิ่มทุน ให้บางจาก บริษัทของ รัฐบาลไทยเลย)

ขอความกรุณาทุกท่านที่อยากให้บริษัทบางจากอยู่รอด ช่วยกันดังนี้คือ

๑. เผยแพร่ความจริงไปยังญาติสนิทมิตรสหายว่า บางจากไม่ได้แย่ อย่างที่คนต่างชาติ กลุ่มหนึ่ง ใส่ร้าย (ตารางแนบ) พวกผมพร้อม จะไปชี้แจงทุกเวที ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และที่ต่างๆ

๒. ชักชวนกันเติมน้ำมันปั๊มบางจาก คุณภาพดี ราคาไม่แพง แม้ตัวปั๊ม จะไม่เลิศหรู เท่าปั๊มต่างชาติ

๓. ท่านและญาติสนิทมิตรสหาย กรุณานำรถแวะปั๊มบางจาก แปะแผ่นติด "เราคนไทย ใช้บางจาก" ที่กระจกรถ ให้มากคัน ที่สุด

พระมหาชนก ยังทนว่ายน้ำอยู่ได้ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง เรื่องแค่นี้ เราต้องช่วยกันได้แน่ "ถ้าไทย ไม่ช่วยไทย ก็แล้วใคร จะมาช่วยเรา"

ขอบคุณครับ

พลตรี จำลอง ศรีเมือง
ในนามคณะกรรมการส่งเสริมบางจากเพื่อชุมชน


บางจากมีผลประกอบการดีกว่าโรงกลั่นน้ำมันต่างชาติทุกรายในประเทศไทย

โรงกลั่น
กำไร+ /ขาดทุน - สุทธิ
ปี 2539 ปี 2540 ปี 2541 ปี 2542 ปี 2543 ปี 2544 รวม 6 ปี
ต่างชาติ
ถือหุ้น
เกินครึ่ง
สตาร์
(คาลเท็กซ์ 64%)
-1,466 -28,602 7,576 -815 -5,319 -3,499 -32,125
โรงกลั่น A -856 -36,491 11,270 -2,468 -8,548 -4,927 -42,020
โรงกลั่น B -1,946 -17,799 5,606 -5,892 -8,585 -1,0041/ -29,620
โรงกลั่น C 224 -9,689 -7,306 -18,909 -3,3922/ -4,3702/ -43,442
คนไทย
ถือหุ้น
98 %
บางจาก 1,024 -3,785 59 -1,783 -1,582 -2,987 -9,054

หมายเหตุ : 1/โรงกลั่น B ไม่รวมตัวเลขกำไรจากการขายทรัพย์สิน/เช่ากลับ กับบริษัทในเครือ
              2/โรงกลั่น C ไม่รวมตัวเลข กำไร จากการ ปรับโครงสร้างหนี้
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์

 

ที่ผ่านมารัฐได้ลงทุนและเพิ่มทุนในโรงกลั่นต่างชาติ
ด้วยเงินจำนวนมาก แต่ไม่ได้เพิ่มทุน ให้บางจาก

 

ต่างชาติ
ถือหุ้น
เกินครึ่ง

โรงกลั่น
สัดส่วน
ที่รัฐถือหุ้น
รัฐลงทุน
เริ่มต้น
รัฐเพิ่มทุน
รวมเงินลงทุน
ของรัฐ
สตาร์ (คาลเท็กซ์ 64%)
36%
4,630
+11,970
16,600
โรงกลั่น A
36%
6,795
+6,905
13,700
โรงกลั่น B
12%
3,700
0
3,700
โรงกลั่น C
49%
10
+9,480
9,500
คนไทย
ถือหุ้น 98%
บางจาก
72%
2,350
0
2,350


รัฐลงทุน ในบางจาก 2,350 ล้านบาท ได้รับคืนไปแล้ว 7,173 ล้านบาท (เงินปันผลและภาษีเงินได้จากผลกำไร)

(เราคิดอะไร ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑๕๐ มกราคม ๒๕๔๖ )