"สมัคร" ติดเบรกเขต คลั่งวาเลนไทน์
ผู้ว่าฯ กทม.สวนกระแสนิยมวันแห่งความรักให้นโยบาย "ห้ามทุกเขตจัด งานฉลองเทศกาล "วาเลนไทน์ ยกเว้น ให้เขตบางรักเท่านั้น ย้ำไม่อยากให้วัฒนธรรมต่างชาติ มีอิทธิพลต่อ คนไทย" ชี้ควรส่งเสริม วันมาฆบูชา วันแห่งความรัก ตามพุทธศาสนามากกว่า
(กรองข่าว ไทยโพสต์ ๕ ก.พ. ๔๖)

คนชลบุรีอย่างผมอ่านข่าวนี้แล้วอดปลื้มแทนคนเมืองหลวงไม่ได้ ไม่เสียเอกลักษณ์ ปะฉะดะ ของนักการเมือง ฝีปากกล้า คารมกร้าว ลีลาห้าวหาญ ถึงขนาด กล้าสวนกระแส คลื่นบ้าคลั่ง ของสังคม ยุคไร้รากแก้ว โอนเอน สะเปะสะปะ ไปตามแรงผลักดัน แรงดึงดูด ของค่านิยม สังคม หวือหวา

อย่างนี้ซีครับ ที่น่าเรียกว่า คนมีจุดยืน มีจุดยึด รู้จักใช้อวัยวะเบื้องต่ำ ดำรงอวัยวะเบื้องสูง ไว้ในสถานะ อันชอบควร

ถ้ามีข้าราชการ เข้าท่า มีนัก การเมืองเข้าที ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นใหญ่ ไปด้วยกันได้ดี เป็นปี่เป็นขลุ่ย ลุยไหนลุยกัน ผมว่า บ้านเมืองของเรา จะมีวัฒนธรรมขยะ น้อยกว่านี้ เยอะเลย

ที่ผมชักจะชอบใจผู้ว่าฯ ยิ่งขึ้นไปอีก ก็ตรงที่ แสดงแววพุทธ ได้ชัดเจน ชี้แนะให้ยึดเอา วันมาฆบูชา เป็นวัน แห่งความรัก แบบไทยๆ ที่อยากมี ศาสนาพุทธ เป็นศาสนา ประจำชาติ กันนักหนา

วันมาฆบูชา จะไม่ใช่วันแห่งความรัก วิถีพุทธ ได้อย่างไรครับ เอาแค่สาระ บางส่วน ก็ชัดแล้ว ละ

การไม่ทำความชั่ว ทั้งปวง ๑ การบำเพ็ญแต่ความดี ๑ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑ (พจนานุกรม พุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระราชวรมุนี-ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ทำได้แค่นี้ กระแสรักแท้ ก็คร้าน จะเนืองนอง แผ่นดิน ยิ่งกว่า ขบวนการ สมรสหมู่ วิวาห์ใต้สมุทร วิวาห์เหินเวหา วิวาห์ดิ่งหน้าผา ฯลฯ ซึ่งล้วนวิตถาร สนองขบวนการ ทุนนิยม ที่ประโคมข่าว ป่าวร้องกัน เอาดัง ในเชิงเด่น เสียเงินทอง โดยใช่เหตุ แต่ไม่คิด เอาดีงามไว้ เป็นมรดก วัฒนธรรม ของสังคม

ยิ่งไปกว่านี้ก็ไม่ต้องประกาศ สงครามล้างบางยาบ้า ด้วยบัญชีดำ เอาตายบัญชีแดง ทำพิธี สาบานตัว ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เอิกเกริก ทั้งๆ ที่มิใช่วิธีแก้ปัญหาวิถีพุทธสักนิด

ทั้งปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการวงการเมือง ก็จะหายจ้อย ปานปลดทุกข์หนัก ทุกข์เบา ไปพ้นตัว นั่นแล

คนไม่ทำชั่วสารพัด ทำดีสารพัน ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส เป็นนิจได้เช่นนี้ ก็คือ คนไม่เห็น แก่ตัว รักแต่ตัวเอง หากรักผู้อื่น ด้วยเสมอกัน

สังคมสับสนวุ่นวาย หนักอยู่ ทุกวันนี้ จะอะไร เสียอีกเล่า เพราะคนเอาแต่ รักแต่ตัวเอง รักแต่พวกพ้อง ของตัวเอง เต็มอก แต่เสแสร้ง ออกลีลา รักชาวบ้าน ชาวเมือง ปานลูกในไส้

ด้วยเหตุนี้แหละครับ ถ้าผมจะขอโอกาส คารวะท่านผู้ว่าฯ สมัคร สุนทรเวช สักครา คงยังไม่สาย เกินการ นะครับ

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๒ มีนาคม ๒๕๔๖)