เราคิดอะไร.

สิ่งที่ควรคิด ๕ ประการ - สิน วิภาวสุ -


เวลาที่เรากินอาหาร ควรจะคำนึงถึงหรือคิดทบทวนถึงสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้ ๕ ประการ

๑. ให้คิดถึงอาหารที่เรากำลังกินอยู่นี้ว่าใครให้มา เมื่อเรายังเล็กน้อย พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่ ได้อาศัย พละกำลัง การงานแลกอาหารมา เรื่องนี้ไม่ควรลืม และยังมีเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งมิใช่ อาศัยพ่อแม่ และมิใช่อาศัย การทำงานของตนเอง แต่ได้ อาศัยพี่น้อง ญาติหรือคนอื่น ช่วยมา เรื่องนี้ก็ไม่ควรลืม ให้จำไว้ว่า ใครเป็นผู้เลี้ยงเรามา ใครเป็นผู้ให้ อาหารแก่เรา

๒. เสบียงอาหารของเรา ชาวนาหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน อาบเหงื่อต่างน้ำ ตากแดดตากฝน แลกเปลี่ยนมา เรื่องนี้จะลืมไม่ได้ ตนเองไม่ได้ไปไถหว่าน เหนื่อยยากมาด้วย แต่ได้รับ การเลี้ยงดู อย่างสบาย ดังนั้น จึงต้องคิดอยู่เสมอว่า ความเป็นอยู่อย่างนี้ ได้มา ไม่ง่ายนัก ดังคำเตือนใจ ของท่านผู้เฒ่า ผู้แก่ที่ว่า "ใครจะรู้บ้างไหมว่า ข้าวในจาน แต่ละมื้อ ทุกเม็ดได้มา แสนลำบาก"

๓. ควรจะรู้ไว้ด้วยว่า ตนเองนั้นไม่มีทั้งภูมิรู้และภูมิธรรม สิ่งต่างๆ ที่ได้กระทำไป มิใช่ว่า จะถูกต้อง ไปเสียหมด ตนเองไม่ ได้ไปลำบากกับเขาด้วย ทั้งไม่ได้ไปช่วย บริหารประเทศ และ ช่วยประชาชน แต่กลับได้ มาเสวยสุข อยู่ทุกวันนี้ จึงเป็นสิ่งที่ได้มา ไม่ง่ายนัก

๔. คนในโลกนี้ ที่ยากจนกว่าเรายังมีอีกมาก คนที่กินไม่อิ่ม หรือไม่ได้กินเลย มีอยู่ ทุกหน ทุกแห่ง เมื่อตนเอง ได้เสวยสุขอยู่ ก็ไม่ควรลืมคิดถึง ความจริงเหล่านี้

๕. ครั้งโบราณกาล เนื่องจากพืชผลไม้ มีเก็บเกี่ยว จึงต้องเก็บเอารากหญ้า เปลือกไม้ใบไม้ มากินเป็นอาหาร ต่อมาจึงได้มี การพัฒนาค้นพบ เรื่องกสิกรรม มีพืชพันธุ์ธัญญาหาร เก็บเกี่ยว ทั้งยังรู้จัก เอาไฟมา หุงต้ม อาหาร รู้จักทำหม้อข้าว หม้อแกง ถ้วยจานชามไว้ใช้ เดิมที กินของดิบ รสชาติ ไม่อร่อย และยังอันตราย ต่อกระเพาะอาหาร ได้ง่ายอีกด้วย แต่ปัจจุบันนี้ เราได้ กินอาหาร ที่ทำสุกแล้ว ทั้งอร่อย และน่ากิน ดังนั้น คนเรา จึงมักจะลืมตัว ลืมตนปล่อยจิต ปล่อยใจ ไปตามความอยาก ของปากท้อง ได้โดยง่าย

ขณะที่เรากินอาหารแต่ละมื้อ จึงควรคิดถึงสิ่งที่กล่าวมา แต่ละข้อๆ ไม่ควรลืม เวลาที่มี ความสุขใจ แต่ละวัน ก็ให้ ระลึกถึง สิ่งเหล่านี้ อย่าได้ลืมตัว

(เราคิดอะไร ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑๕๒ เดือน มีนาคม ๒๕๔๖)