คุยนิดคิดหน่อย
- บรรณาธิการ
เราทำหนังสือ
"เราคิดอะไร" มิใช่เพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงตัว แต่ต้องการสื่อให้สังคมรู้ว่าในฐานะที่
"จากหนึ่งจึงเป็นเรา รวมเราเขาเข้าเป็นหนึ่ง" และเราไซร้ก็เป็นอณูหนึ่งในสังคม
อยากให้รู้ว่าเราเห็น เราคิด และเราทำอะไร จึงทำหนังสือแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ขายบ้างแจกบ้าง ตามกำลังแรงงาน กำลังเบี้ย ตามมีตามได้ น้ำแห้งขอดคลองเมื่อไรก็วางมือ
ไม่คาดคิดว่าจะอยู่ยืนยาวมาได้นานจนย่างเข้าปีที่ ๙
ผู้อ่านกลุ่มหนึ่งที่เราแจกและมีผู้สมทบแจกด้วย ได้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำหลายแห่งที่เคยได้อ่าน
"เราคิดอะไร" โดยเหตุบังเอิญ และอยากอ่านต่อเนื่องกัน จึงติดต่อมา
เราก็แจกจ่ายให้อ่าน ด้วยความยินดี ตลอดมา หลายปี อยากจะแจกให้ทั่วถึงทุกเรือนจำ
แต่ติดขัดเรื่องทุนรอน ค่าพิมพ์และค่าส่ง
ในฉบับที่ ๑๕๒ เราจึงประกาศเจตนารมณ์ ปันน้ำใจ "เราคิดอะไร"
สู่เพื่อนผู้ต้องขัง และในงาน "พุทธาภิเษก สุดยอดปาฏิหาริย์"
ครั้งที่ ๒๗ เมื่อ ๑๖-๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ณ พุทธสถาน ศาลีอโศก นครสวรรค์
ซึ่งเป็นงานประจุพุทธคุณลงในจิตใจคน อภิเษกคนให้เป็นพุทธ
มิใช่อวดอุตริมนุสธรรมบังอาจอภิเษกพระพุทธรูปให้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ดังที่นิยมทำกันอยู่ทั่วไป
เราประกาศย้ำยืนยันเจตนารมณ์ต่อเพื่อนร่วมแผ่นดินที่ต้องโทษทัณฑ์อยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ
บอกกล่าว เชิญชวนผู้สมัคร เป็นสมาชิกอุปถัมภ์ ให้แก่ผู้ต้องขัง และเมตตาธรรมดังสายฝนอันชื่นใจ
ก็โปรยปรายมา จนเราพอมีทุนรอน สมทบส่ง "เราคิดอะไร" ฉบับที่
๑๕๒ ให้เรือนจำทุกจังหวัดได้
นอกจากนี้ หากสำนักพิมพ์กลั่นแก่น พิมพ์หนังสืออะไรออกมาอีกก็จะพยายามเจียดปันส่งไปด้วย
เราตั้งใจ จะทำต่อไปเรื่อยๆ จนสุดกำลัง
เพื่อรังสรรค์สังคมให้โสภิณ รินธรรมให้ฉ่ำชน
ปลุกปลอบ ใจคน ให้ฟื้นคืน
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๕๓ เมษายน ๒๕๔๖)
|