ใครทำสงครามช่างเขา
เราทำสันติภาพอย่างเดียว
ทุกวันนี้ดูเหมือนว่า ใครๆ ก็ดีใจที่สงคราม
จะได้ยุติแล้ว
แต่หลายๆ คนอาจจะไม่ได้คาดคิดว่าสงครามนั้นยุติเฉพาะในสมรภูมิรบเท่านั้น
แต่สงคราม ก่อการร้าย สงครามพลีชีพ สงครามล้างแค้น รวมไปถึงสงครามเศรษฐกิจ
สงครามทางวัฒนธรรม สงครามทางสังคม ก็คงยังดำเนินกันต่อไป
เพราะตราบใดที่มนุษย์ยังต่อสู้ แก่งแย่ง
แข่งขันชิงดีกัน ตราบนั้นสงครามย่อมชื่อว่า มีอยู่ ตลอดเวลา
แม้แต่การส่งเสริมให้เอาชนะคะคานกันทางด้านกีฬา
ในทางด้านจิตวิทยาแล้ว ก็ถือว่าเป็นการนำพา ก่อให้เกิด สงคราม เพราะจิตจะเอาชนะ
ซึ่งมนุษย์เราสามารถสร้างความสัมพันธ์กันได้ด้วยการให้
การเกื้อกูลกัน ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้อง สัมพันธ์ กันด้วยการเอาชนะคะคานกัน
หาเล่ห์หาเหลี่ยมเอารัดเอาเปรียบกัน เพื่อชนะ แม้จะใช้ ความสามารถก็ตาม
แต่ก็เป็น การสร้างความสามารถเพื่อข่มเพื่อเอาชนะเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อเสียสละ
หรือ เพื่อเกื้อกูลกัน แต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้ล้วน คือการสะสมเหตุปัจจัยก่อให้เกิดสงครามทั้งสิ้น
จะต่างกันแต่ว่า จะเป็นสงคราม ในสนามรบ หรือสงครามในสนาม กีฬา หรือสงคราม
ในสนามเศรษฐกิจ หรือ สงคราม ทางสังคม
แม้แต่การแก่งแย่งกันเพื่อเสพสุข
ในเรื่องกิน-กาม-เกียรติ นั่นก็คือสงครามทางสังคม
สังคมใดที่ไม่มีคนปฏิบัติตนเพื่อลดกิเลสอย่างมีสัมมาทิฐิ
นั่นก็คือสังคมสงครามปกติ อย่างไม่มีทาง หลีกเลี่ยง จึงไม่
น่าแปลกใจแต่อย่างใด ที่เสียงส่วนใหญ่ ของผู้คน ในประเทศมหาอำนาจ ต่างพากัน
สนับสนุน ความกระเหี้ยน กระหือรือของผู้นำ ที่จะนำพาประเทศชาติของตน
ก้าวเข้าสู่สงคราม
ดังนั้นในสังคมใดหากแต่ละคนต่างพากันปฏิบัติลดละกิเลสอย่างมีสัมมาทิฐิ
นั่นก็คือ การลดสงคราม ให้แก่โลกอย่าง ดีที่สุด และเป็นได้ชนิดเดียว
และมีหนทางเดียวเท่านั้น
ไม่มีทางอื่นที่แน่แท้เท่า
กิจของสันติภาพจึงเป็นทางเดียวอย่างเดียวของชาวพุทธที่ต้องขวนขวาย
(เวยยาวัจจะ) ต้องพากเพียร ซ่องเสพ (อาเสวนา) ทำให้เจริญขึ้น (ภาวนา)
และทำให้มากๆ เข้า (พหุลีกัมมัง) ส่วนกิจของสงคราม
ใครจะทำ จะส่งเสริมกัน ก็ช่างเขาเถิด
เพราะเราไม่สามารถห้ามสงครามไม่ให้เกิดขึ้นในโลกได้
เหมือนภูเขาไฟที่มันสะสมเหตุ จนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะต้อง ระเบิดออกมา
เป็นระยะๆ ตราบใดที่มนุษย์ ยังไม่หาทาง กำจัดกิเลส อันเป็นตัวต้นเหตุ
ของความชั่วร้าย ซึ่งแต่ละศาสนา ก็มีชื่อเรียก แตกต่างกันเช่น ซาตาน
หรือ มาร เป็นต้น อันอยู่ในจิตใจ ของตนๆ
นั่นเอง
การสร้างสันติภาพจึงคือการที่แต่ละคนลดต้นเหตุของความชั่วร้าย
(กิเลส) อันจะทำให้ก่อเหตุ ก่อภัย ทำให้เกิดสงคราม เมื่อแต่ละคน เริ่มลดละตัวตน
ของกิเลส ให้มากขึ้น และพยายามสร้างสรร พัฒนาสาระ ประโยชน์ ให้แก่มนุษยโลก
สันติภาพในโลกนี้ ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การเกิดเป็นมนุษย์สามารถสร้างสิ่งที่ดีที่สุด
(สันติภาพ) ให้แก่โลกนี้ก็ได้ และสามารถ สร้างสิ่ง ที่เลวร้ายที่สุด
สุดๆ (สงคราม) ให้แก่มนุษย์ ในโลกนี้ ก็ได้เช่นกัน
ศาสดาทั้งหลายย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างสันติภาพให้แผ่ขยายสันติสุขไปทั้งโลก
ในขณะเดียวกัน ซาตานหรือมารร้ายในร่างของมนุษย์ก็พยายามก็สร้างสงครามทุกรูปแบบ
ให้แผ่ขยาย ความเดือดร้อน ไปทั้งโลก เช่นเดียวกัน
ระหว่างเส้นทางไปสู่สันติภาพ
(ความพ้นทุกข์) กับเส้นทางไปสู่สงคราม (กลียุค) เราท่านทั้งหลาย สามารถ
ตัดสินใจ เลือกเดินได้ด้วยตนเอง
-
จริงจัง ตามพ่อ -
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๕๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖)
|