เราคิดอะไร

คุยนิดคิดหน่อย - บรรณาธิการ -

สงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ขอเปิดอกเปิดใจบอกกันตรงๆ นะครับ จะเรียกว่า "ประเพณีสงกรานต์" ก็กระดาก ปากกระดากใจ เพราะมันเพี้ยนไป จนแทบไม่เหลือรูปรอยดีงาม จรรโลงจิตใจ คนเลยสักน้อย ไม่ต่างกับ กลองอานกะ ในพุทธกาล ที่ซ่อมแซมกัน จนไม่เหลือ ไม้กลองเก่าอยู่เลย

นี่ ไม่รวมถึง "ประเพณีสงกรานต์จัดตั้ง" ที่ทำกันในบางท้องถิ่นพอได้เห็นเป็นรูปรอย ของเก่าอยู่บ้าง แต่นั่นแหละ มันไม่ใช่ธรรมชาติธรรมดา เปรียบไปก็เหมือน สาวประเภทสอง ยังไงยังงั้น ทำกันเป็น สินค้าตลาด การท่องเที่ยวดูดเงินเข้า ท้องถิ่นเป็นเป้าหมายหลัก

แต่อย่างไรก็ตามก็นับว่ายังดีกว่าสงกรานต์สงครามที่ระบาดอยู่แทบทุกหัวระแหง

ทำไมจะไม่ใช่สงครามล่ะ เล่นสาดน้ำกันแบบบ้าเลือด ไม่รู้เรารู้เขา ไม่รู้ว่าเราเป็นใคร เขาเป็นใคร เขาจะร่วม สงคราม สาดน้ำ ปล้ำละเลงแป้งกับเราด้วยหรือเปล่า ไม่สำคัญ ขอให้ได้โผล่หน้ามาเถอะ จะไปไหน มาไหน ไปทำธุระปะปัง อะไร หรือแม้แต่กำลังพาคนป่วยใกล้ม้วย ไปโรงพยาบาล ก็ไม่ฟังอีร้า ค่าอีรม สะใจ ที่ได้สาดน้ำใส่โครมๆ เดินดินหรือ นั่งรถยนต์ก็พอทำเนา ไม่เป็นอันตรายนัก

แต่รถจักรยานยนต์นี่ซี คนขับถูกสาดน้ำใส่หน้า อะไรจะเกิดขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้เกิดอุบัติเหตุได้ ในพริบตา

รัฐบาลสำแดงลีลาเฉียบขาดในเรื่องอื่นๆ มาหลายเรื่องแล้ว ปีหน้าลองเคลื่อนกายย้ายจุด ประกาศ สงคราม กับพวกบ้าเลือด สักหน่อยเป็นไร เอากันแค่เบาะๆ พอรู้ว่า ประเพณีสงกรานต์นั้น มันเป็น วัฒนธรรมดีงาม จรรโลงจิตใจคน

มิใช่ขบวนการป่าเถื่อนนะจะบอกให้

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖)