หน้าแรก >[09] การสื่อสาร > การเผยแพร่ธรรมะ >เราคิดอะไร

ชีวิตไร้สารพิษ -ล้อเกวียน -
ซักผ้าให้สะอาด

ทุกวันนี้การซักผ้าไม่ว่าจะซักด้วยมือ หรือซักด้วยเครื่อง สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ผงซักฟอก" ซึ่งก็เป็น ที่รับรู้ กันโดยทั่วไป แล้วว่า ส่วนประกอบ สำคัญในผงซักฟอก ก็คือ สารซักฟอก กับสารลด ความกระด้าง ของน้ำ ซึ่งถึงแม้จะมีผลกระทบ ต่อสุขภาพของ ผู้ที่ซักผ้าหรือ ผู้ที่สวมใส่ เสื้อผ้า ที่ซักด้วย ผงซักฟอก ไม่เด่นชัด เท่ากับ ผลกระทบ ทางด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสารซักฟอก และ สารลดความกระด้าง ของน้ำ เป็นสารเคมี สังเคราะห์ ที่ไม่ย่อยสลาย หรือย่อยสลายยาก จึงเป็นสาเหตุ ให้น้ำใน แหล่งน้ำธรรมชาติ แม่น้ำ ลำคลองเน่าเสีย

จึงเป็น เรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย ที่จะมีทางเลือกด้วยวิธีทางธรรมชาติอื่นๆ ในการซักผ้าให้สะอาดได้ โดยไม่ต้อง ใช้ผงซักฟอก ซึ่งจะช่วยเรา ประหยัดเงิน อีกทั้งเป็นทางเลือก ที่ปลอดภัย ต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

"ผงซักฟอก" เป็นสิ่งจำเป็นในการซักผ้าในปัจจุบัน ที่มีอยู่ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะซักด้วยมือ หรือ ซักด้วยเครื่อง นอกจากผงซักฟอกแล้ว ยังมีน้ำยาขจัดคราบสกปรก ที่ต้องใช้ทาถู บริเวณรอยเปื้อน ก่อนที่จะซัก และในน้ำสุดท้าย หลังจากซักด้วย ผงซักฟอกแล้ว ก็ยังมีน้ำยา ปรับผ้านุ่ม ที่ต้องใส่ลงไป เพื่อช่วยถนอมเนื้อผ้า

ย้อนกลับไปแต่เก่าก่อนคนโบราณก็ใช้น้ำด่างจากขี้เถ้าในการซักผ้า และแม้ก่อนสงครามโลก ครั้งที่สอง คนเกือบ ทั่วทั้ง โลกยังคง ใช้สบู่ ู่ก้อนสำหรับซักผ้า แต่ระหว่างเกิด สงครามโลก เกิดขาดแคลนสบู่ เนื่องมาจาก ขาดแคลนไขมัน ทั้งจาก สัตว์และพืช ที่จะใช้ผลิตสบู่ นักวิทยาศาสตร์ จึงได้คิดค้น "สารซักฟอก" (detergent) ขึ้นเพื่อนำมาใช้แทนสบู่ สารซัก ฟอกนี้เป็น สารเคมีสังเคราะห์ ที่สังเคราะห์ มาจาก ผลิตภัณฑ์ ปิโตรเลียม สารซักฟอกนี้ ทำหน้าที่ชำระ ล้างสิ่ง สกปรก ซึ่งมีประสิทธิภาพ ดีกว่าสบู่ มีราคาถูก จึงเป็นที่นิยมใช้กัน อย่างแพร่หลาย จนแทบไม่มีใคร ใช้สบู่ซักผ้ากัน แล้ว ในปัจจุบัน

ความจริงแล้วสารซักฟอก ก็คือ สารลดแรงตึงผิว (surfactant) เช่นเดียวกับสบู่ มันทำหน้าที่ ขจัดสิ่งสกปรก ออกจาก เสื้อผ้าได้โดย มันจะช่วยลดแรงตึงผิว ของน้ำลง ช่วยละลายไขมัน และทำให้ สิ่งสกปรกต่างๆ กลายเป็นอนุภาคที่เล็ก ลง หลุดออกจากเสื้อผ้าได้ง่าย และหลุดออก ไปได้มากขึ้น เมื่อมีการ ขยี้ด้วยมือ หรือปั่นด้วยเครื่อง สิ่งสกปรกเมื่อหลุดออก จากเสื้อผ้า ก็จะไม่กลับไป ติดเสื้อผ้าอีก

ปัจจุบันในท้องตลาดมีการผลิตผงซักฟอกออกมามากมายหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ หลายสูตร แต่แท้ที่จริงแล้ว ส่วนประกอบหลัก ในผงซักฟอก แทบจะไม่แตกต่างกัน คือมีส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้

๑.สารลดแรงตึงผิว ทำหน้าที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้เสื้อผ้าเปียกน้ำได้เร็ว ช่วยละลายไขมัน และสิ่งสกปรก ต่างๆ ให้หลุดออกจากเสื้อผ้าได้ง่าย แต่เดิมสารลดแรงตึงผิว ที่นิยมใช้ ในผงซักฟอก คือ อัลคิลเบนซินซัลโฟเนต หรือ เอบีเอส (ABS : Alkyl Benzene Sulfonate) แต่เนื่องจาก เป็นสารเคมี ที่ย่อยสลายยาก จึงเป็นปัญหา ต่อแหล่งน้ำ และ สิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน จึงเปลี่ยนมาใช้ ลีเนีย อัลคิล เบนซิน ซัลโฟเนต หรือ แอล เอ เอส (LAS : Linear Alkyl Sulfonate) ซึ่งเป็นสารเคมี ที่ย่อยสลาย ได้ง่ายกว่า

๒.สารลดความกระด้างของน้ำ สารนี้ช่วยลดความกระด้างของน้ำทำให้น้ำมีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งจะช่วยทำให้ ผงซักฟอก ทำความสะอาดได้ดีขึ้น และช่วยทำให้สิ่งสกปรก ไม่ย้อนกลับ ไปติดเสื้อผ้าได้อีก แต่เดิม สารลด ความกระด้างของน้ำ ที่นิยมใช้ในผงซักฟอก คือ ฟอสเฟต แต่ฟอสเฟตในผงซักฟอกนี้ ได้ก่อปัญหา ทำให้แหล่งน้ำ แม่น้ำลำคลองเน่าเสีย จึงเลิกใช้ หรือลดปริมาณการใช้ลง หันมาใช้สาร ซีโอไลท์แทน

๓.สารป้องกันการตกตะกอน สารนี้ทำให้ผงซักฟอกละลายน้ำได้ดีไม่ตกตะกอน สารนี้ได้แก่ โซเดียม คาร์บอกซีเมททิล เซลลูโลส(Sodium Carboxymethyl Cellulose)

๔.สารเพิ่มความสดใส แต่เดิมเราใช้ครามเพื่อให้ผ้าดูขาวสดใส ไม่หมองคล้ำ แต่ปัจจุบัน ที่นิยมใช้กันมาก ก็คือ ทิโนปอล ดีเอ็มเอส (Tinopal DMS) ซึ่งที่จริงสารนี้ ไม่ได้ช่วยทำให้ผ้าขาวขึ้น แต่มันจะดูด รังสี อัลตร้าไวโอเลต จากแสงอาทิตย์ ทำให้ผ้าเกิดการสะท้อน หรือเรืองแสง จึงทำให้ดูเหมือน ผ้าขาวขึ้น สดใสขึ้น

นอกจากองค์ประกอบหลักๆ เหล่านี้ ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น สารเพิ่มฟอง (N70 = ซึ่งมาจาก กากเดน ของน้ำมัน ปิโตรเลี่ยม) สี น้ำหอม สารฟอกขาว สารเพิ่มปริมาณ เป็นต้น ซึ่งแต่ละยี่ห้อ ก็จะใช้สาร ที่เหมือนกัน หรือแตกต่างกัน ไป

ผลเสียของผงซักฟอก
ดูเหมือนว่า ผลเสียของผงซักฟอกต่อผู้ใช้ซักผ้า หรือต่อผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้า ที่ซักด้วยผงซักฟอก จะมีไม่มาก หรือ รุนแรงมาก เมื่อเทียบกับผลเสีย ทางด้านสิ่งแวดล้อม มีผู้ที่ใช้จำนวนมาก ที่ใช้ผงซักฟอก ซักผ้าด้วยมือ มีอาการแพ้ เพราะผงซักฟอก มีฤทธิ์ในการทำลายผิวหนัง และ ระคายเคืองต่อผิวหนัง

อย่างไรก็ตามสารเคมีที่เป็นส่วนผสมในผงซักฟอก จะล้างออกไปไม่หมด หลังการซักผ้า จะยังคงหลงเหลือ ติดอยู่บนเนื้อผ้า ยิ่งไปกว่านั้น สารบางตัว ยังถูกคิดค้น ให้มีประสิทธิภาพ ติดทนนาน บนเสื้อผ้า เช่น สารเพิ่มความสดใส กลิ่น สารปรับผ้านุ่ม สารเคมีเหล่านี้ สามารถทำความระคายเคือง ต่อผิวหนัง ของผู้สวมใส่เสื้อผ้า หรือสัมผัสกับผ้า ที่ซักด้วย ผงซักฟอก บางคน ก็จะมีอาการแพ้ เป็นผื่นคัน อย่างรุนแรง ดังนั้น เสื้อผ้าของคน ที่มีผิวบอบบาง หรือ แพ้ง่าย โดยเฉพาะ เด็กทารก ไม่ควรซักด้วย ผงซักฟอก

อ่านต่อฉบับหน้า

(ข้อมูลจากวารสารเกษตรธรรมชาติ)

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๔ พฤษภาคม ๒๕๔๖)