>เราคิดอะไร


อภิมหาอำนาจทำลายวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน
ณ ชุมชนราชธานีอโศก ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๖ ต่อจากฉบับที่ ๑๕๔


ถาม - การเปลี่ยนแปลงรัฐวิสาหกิจ หากไม่เปลี่ยนจะทำอย่างไรบ้าง ปีหน้า ปี ๔๖ ทุกมหาวิทยาลัยของรัฐ ต้องออกจากความช่วยเหลือ ของรัฐแล้ว ต้องเป็นไปตามแผนของการครอบครองสถาบันการศึกษา ของต่างชาติ เราจะมีทางออกอย่างไร และชะลอการยึดเอาภูมิปัญญาของคนไทยไปสู่ต่างชาติได้อย่างไร การปฏิรูปการศึกษาจะมีผลอย่างไรต่อวัฒนธรรมไทยต่อไปในอนาคต ช่วยเล่าเรื่องห้างสรรพสินค้าไทย และห้างสรรพสินค้าต่างชาติที่เข้ามาในไทยและโกยเงินไปมากมาย ปั๊มน้ำมันก็เป็นของต่างชาติมากมาย ช่วยบอกได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมจึงให้ต่างชาติมาลงทุน ผมสงสัย อเมริกาขอตรวจสอบอาวุธ ในประเทศอื่น แต่ประเทศอื่น จะตรวจสอบอาวุธ ในอเมริกาบ้างไม่ได้หรือ? ธ.ก.ส.ทั่วจังหวัดเชียงใหม่ มีมากมาย ทุกเขตทุกท้องที่ มีธนาคารของท่านอยู่ ให้ความสนับสนุน ในโครงการอบรมหรือไม่ เพราะดิฉัน เคยสอบถาม ชาวบ้านชาวสวน เขาก็ไม่ทราบ และไม่รู้เรื่องข้อมูลนี้เลยค่ะ อยากให้ทางผู้ใหญ่ สอบถาม ด้วยค่ะ จริงหรือไม่ว่า บริษัทเครื่องสำอางใหญ่ๆ สนับสนุนให้ทำแท้งเสรี เพื่อจะซื้อซากเด็ก ไปสกัดเป็นน้ำมัน ม้อยซ์เจอไรเซอร์ ซึ่งตลาดซากเด็กสำคัญ อยู่ที่อินเดีย และ ประเทศทำแท้งเสรี ขอเรียนถามว่า นายกฯ ทักษิณ มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลอเมริกาอย่างไร และนายกฯ ทักษิณ จะทำให้ ประเทศไทย เดือดร้อน หรือไม่ รัฐบาลทักษิณ มีอำนาจ ที่จะต่อรองอำนาจ กับประเทศ มหาอำนาจอย่างไร และ มุมมองของ คุณนิติภูมิ รัฐบาลมีแนวโน้ม รับใช้อเมริกา มากน้อยเพียงไร

ตอบ - เรื่องมันยาวเหลือเกิน ในแต่ละเรื่องที่ท่านถามมา ถ้าจะคุยกันจริงๆ จังๆ ต้องใช้เวลาเรื่องหนึ่ง สองถึงสามชั่วโมง เวลาไปพูดที่ไหน ถ้าเรื่องไม่เป็นเรื่องเดียว ส่วนมากผู้ฟังจะไม่ได้ประโยชน์ เหมือนกับว่า มาคุยกัน และสื่อสารกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง เวลาผมไปพูด กำหนดมาเรื่องเดียว ในเรื่องนั้น กำหนดมา สามชั่วโมง ในเรื่องที่พูด ในชั่วโมงแรก เป็นการปูพื้นก่อน ให้ท่านรู้ แต่ละท่าน ก็มาจากพื้นฐานที่ต่างกัน พอมาถึง ชั่วโมงที่สอง จะลงในรายละเอียด พอถึงชั่วโมงที่สาม ก็ลงลึกหน่อย ปล่อยให้ถามได้ ในครึ่งชั่วโมง แต่ต้องเป็น เรื่องเดียวเท่านั้น เรื่องน้ำมันก็น้ำมันเลย ถ้าเป็นเรื่องสะเปะสะปะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ

แต่ว่าลักษณะ การมาอย่างนี้ มันเป็นการมา ด้วยจิตวิญญาณ มารวมกัน มาบอกว่า นี่นะเรา มีแนวความคิด เหมือนกัน เราจึงมาอยู่ต่อหน้ากัน ท่านมีแนวความคิด ท่านส่งมาที่เรา ผมมีความคิด ผมส่งไปที่ท่าน แล้ว เราก็มาร่วมมือกัน ในวันหน้า ถ้าท่านจะโยกไปทางซ้าย ทางขวา ข้างหน้า และข้างหลัง ท่านบอก ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าจะร่วมกับท่าน การมาอยู่อย่างนี้ เป็นการบอกอย่างนั้น มันเป็นการสื่อกัน เป็นการส่ง สัญญาณ อย่างหนึ่ง อย่างท่านทั้งหลายที่นั่งอยู่ ท่านเป็นการส่งสัญญาณบอกว่า เราเป็นเหมือนกับ ไม้อยู่ในกำเดียวกัน

ดังนั้นเรื่องราวที่ถามมา ผมตอบไปก็ไม่ได้รายละเอียด แล้วก็ตอบแบบไม่หมด ผมจะนำไป แล้วก็นำ ไปเขียน บางเรื่องที่พอเขียนได้ ก็จะเขียนลงไป ก็เพียงแต่ท่าน อาจจะเสียสตางค์หน่อยนะครับ วันละแปดบาท คือรวมกันแปดคน ก็ซื้อฉบับหนึ่ง อ่านกันก็คนละหนึ่งบาท เท่านั้นเอง อย่างที่บอกนะครับว่า ผมมานั่ง มาส่งสัญญาณ ถึงท่าน และถือโอกาสว่า ผมไม่ค่อยได้มีโอกาส มานมัสการพ่อท่าน ผมถือว่าเป็น สิริมงคล ของผม ก่อนจะสิ้นปี มากราบแล้วก็ชื่นใจ กลับไปก็ทำงานได้อีก

ถาม - อยากให้แนะนำชาวอโศก จะทำอย่างไรที่ชาวอโศกยังสนับสนุนสินค้า ตามห้างสรรพสินค้าต่างชาติ ด้วยเหตุผลว่าราคาถูกกว่า

ตอบ - ที่ถูกนั้นจะถูกแต่ในตอนแรกเท่านั้น ถูกเฉพาะปีแรกๆ รับประกันได้ ถ้าผม ไม่เคยเดินทาง ไปดู ที่ไหนเลย หรือเดินทางไปกับบริษัททัวร์ แล้วก็ไปแต่ช็อปปิ้ง ไปซื้อของแล้วก็กลับมา ไปปัสสาวะ ไปอุจจาระ แล้วก็กลับมา ไม่พูดอย่างนี้หรอกครับ

ผมอยากจะบอกว่า เวลาที่พวกนี้ เข้าไปที่ไหน เขาจะต้องฆ่า อยู่ สองสามอย่าง ฆ่าประการแรก ก็คือฆ่าตลาดสดก่อน ฆ่าประการที่สอง ก็คือฆ่าธุรกิจธุรกรรมท้องถิ่นก่อน ไม่ให้มีอะไร มาแข่งกับเขา ฆ่าอย่างไรครับ เขาฆ่าง่ายๆ ด้วยการขายสินค้าราคาถูกก่อน พวกนี้ลึกๆ แล้ว รัฐบาลของเขา มีเงินอุดหนุน จะยอมขาดทุน ในตอนปีแรกๆ เขาขายกันในราคา ๑๐ บาท พื้นเมือง เขาขาย ๑๐ บาท พวกนี้จะขาย แปดบาท คนก็หันไปซื้อของพวกนี้ พวกสิบบาทขายไม่ได้ ขายต่ำกว่าสิบบาท ก็ไม่ได้ เพราะต้นทุนจริงๆ ๙.๕๐ บาท ดังนั้น ก็ต้องตายไป เมื่อไม่มีห้าง ไม่มีตลาดสด ของชาวพื้นเมืองอยู่ เขาจะขึ้นราคาได้ ตามใจชอบ

นึกถึงปั๊มอยู่สองปั๊ม ที่ผมเคยเล่าให้ฟัง เรื่องปั๊มบางจากกับปั๊ม ป.ต.ท. มีเรื่องที่น่าเสียดายอยู่ว่า ป.ต.ท.นั้น แปรรูป ในช่วงผมกับคุณอัมรินทร์นั้น ได้ไปอยู่ในประเทศ อาร์เจนตินา จริงๆ แล้วไม่น่าแปรรูปเลย ผมเรียนหลายครั้งว่า การกระดิกพลิกตัว ของคนในประเทศเรานี่ มันอยู่ที่น้ำมัน ท่านมาที่นี่ได้วันนี้ ก็เพราะน้ำมัน โรงงานผลิตสินค้าได้ ก็เพราะน้ำมัน น้ำมันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเหลือเกิน สำหรับชีวิตมนุษย์ ในแต่ละประเทศ จำเป็นต้องมีบริษัทน้ำมัน ของตัวเอง แต่ปรากฏว่า ตอนแรกๆ พยายาม จะขายบางจาก เราก็ต่อต้าน การขายบางจาก ทางราชธานีอโศก จัดต่อต้านเลยครับ ผมยังจำได้ว่า ได้รับ ชักชวน ไปพูดที่ราชธานีอโศก บอกว่าอย่าเลยทีเดียวนะ บริษัทบางจากนี่ ตอนนั้นจะขายให้ใครครับ ก็จะขาย ให้บริษัทต่างชาติด้วย ตอนหลังขยับค่อยๆ มาขายให้ประชาชน

อยากจะถามว่า ทำไมถึงอยาก จะซื้อนัก น้ำมันบางจากนี่ จริงๆ แล้วธุรกิจธุรกรรมของบางจาก มันเล็กนิดเดียว ถ้าเปรียบเทียบ กับเชลล์ และ คาลเท็กซ์ มันเล็กเหลือเกิน เขาจะซื้อบางจากไปทำไม เขาจะซื้อไป แล้วเอาไปทำสองอย่าง อย่างหนึ่ง จะเอาไป แช่ตู้เย็นไว้ ให้ธุรกิจธุรกรรมมันแย่ไป ไม่ให้มันเกิดขึ้น อีกอย่างหนึ่ง ทำให้มันเจ๊งไปเลย เหลือ ป.ต.ท. อย่างเดียว ก็จะค่อยๆ ไล่ซื้อ ป.ต.ท.ไป แล้วถ้าหมดบางจาก หมด ป.ต.ท. ทีนี้ก็เหลือแต่ น้ำมันของเอกชน เหลือแต่น้ำมัน ของต่างชาติ เขาจะขึ้นราคาเท่าไหร่ก็ได้ ดังนั้น การควบคุมราคาน้ำมัน คือการควบคุมประเทศ มันยิ่งกว่าเอาทหาร ร้อยกอง มานั่งในประเทศอีกครับ เพราะคนที่เจอเรื่องนี้มาแล้ว ก็คือ ซูฮาร์โต ซูฮาร์โต นี่บาปกรรม ให้บริษัท น้ำมันต่างประเทศ เข้ามาสัมปทานน้ำมันในประเทศ ตลอดเวลา แล้วทั้งๆ ที่อินโดนีเซีย มีน้ำมัน บานเบอะไปหมด แต่บริษัทน้ำมัน เป็นของสเปน อเมริกา ฝรั่งเศส ไม่มีบริษัทของ อินโดนีเซียเลยครับ วันดีคืนดี ซูฮาร์โตไม่พอใจอเมริกา กระทบกระทั่งอเมริกา หน่อยเดียวเท่านั้น อเมริกา ขึ้นน้ำมันพรวดๆๆ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ คนก็ก่นด่าพ่อ ล่อแม่ซูฮาร์โต และก็ประท้วง วุ่นวายไปหมด สุดท้าย ซูฮาร์โตก็ต้องลง

เมื่อสองสามปีก่อน เรามีวิกฤติน้ำมันเล็กๆ น้ำมันขึ้นมา แค่วิกฤติเล็กๆ บริษัทคาลเท็กซ์ ขึ้นไปบาทกว่าๆ บริษัทเชลล์ขึ้น ไอ้นั่นขึ้น ไอ้นี่ขึ้นครับ มีอยู่สองปั๊มที่ไม่ขึ้น เพราะรัฐบาลคุณชวนไปขอร้องไว้ สองบริษัท
นั้นก็คือ บางจาก และ ป.ต.ท. กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ ป.ต.ท.ในสมัยนั้น น่ารักมากครับ ท่านออกมา ให้สัมภาษณ์ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับว่า เมื่อปีที่แล้ว ป.ต.ท. มีกำไรอยู่พันกว่าล้านบาท ดังนั้น ป.ต.ท. ขอเอาส่วนที่ได้กำไรนั้น เอาออกมาชดเชยก่อน พอพูดไปเท่านี้เอง รุ่งขึ้นคุณชวนหลีกภัย ก็มีแขกไปเยี่ยม ทำเนียบรัฐบาลครับ ท่านนึกออกไหมครับ ว่าใครไปเยี่ยมคุณชวน แล้วถึงออกประกาศหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์ ทุกฉบับ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไม่นานนี้เอง เมื่อสองสามปีนี้เองครับ ไปบอกกับคุณชวนว่า การทำ แบบนี้ มันผิดหลักขององค์การ การค้าโลก องค์การการค้าโลก ต้องปล่อยให้ดีมานด์ ซัพพลาย ต้องปล่อย ให้อุปสงค์ อุปทานมันขึ้นไป บัดนี้ราคาน้ำมันทั่วโลกขึ้นกัน ก็ต้องปล่อย ให้น้ำมันขึ้น มาช่วยเหลือ อยู่ได้อย่างไร จะให้รัฐบาลไปสั่งป.ต.ท. และบางจาก ว่าอย่าไปเอาเงินกำไร ปีที่แล้ว มาช่วย ก็บางจาก ก็เป็นคนไทย ป.ต.ท.ก็เป็นคนไทย คนที่บริโภคน้ำมัน ก็เป็นคนไทย มันเรื่องคนไทยทั้งนั้น มันไปหนักอะไร ของคนอเมริกัน แต่ปรากฏว่า คนที่เจ้ากี้เจ้าการที่สุด คือ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา นี่ขนาดปั๊มน้ำมัน ยังไม่เป็นของเขานะ และถ้าบริษัทน้ำมัน เป็นของเขาแล้ว ไม่ต้องไปถึง ทำเนียบรัฐบาลหรอก แค่ยกหู โทรศัพท์ ไปที่วอร์ชิงตัน ท่านประธานาธิบดีครับ นายกรัฐมนตรีไทยตอนนี้ มันแข็งข้อ รัฐมนตรีคนนี้ ฉลาดไป ต้องปลดด่วน จะปลดอย่างไร ก็ด้วยท่านช่วยสั่งคาลเท็กซ์ ช่วยสั่งเชลล์หน่อยสิครับ ให้ขึ้นน้ำมัน เป็นทั้งหมด ๕ ขยัก ขยักหนึ่งขึ้นเป็นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ สามสิบเปอร์เซ็นต์ รวมทั้งหมด เอาให้ได้ ประมาณ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทีเดียว ท่านทั้งหลายครับ น้ำมันขึ้นไป แพงขนาดนั้น ต้นทุนการผลิต ก็แพงขึ้น โรงงาน ก็แพงขึ้น อะไร ก็แพงขึ้น สินค้าก็ราคาแพงขึ้นหมด พอสินค้าราคาแพง ไปขายต่างประเทศ คนก็ไม่ซื้อกัน เงินก็ไม่เข้า ประเทศ มันก็เป็นลูกโซ่อย่างนี้แหละ ป.ต.ท. นี่เป็นเรื่องแยบยลมากครับ เป็นเรื่องของ ความละโมบ กับความชั่ว จริงๆ แล้ว ถ้าจะแปรรูป คือไม่ต้องการจะแปรรูป ต้องแปรให้เป็นของเอกชน ต้องแปรให้เป็น ของประชาชน

อยากจะถามสักคำหนึ่งว่า ที่มันเป็นของรัฐบาลน่ะ ไม่ได้เป็นของประชาชนหรอกหรือ เป็นของ ประชาชน ทุกคน ด้วยซ้ำ ผมก็เป็นเจ้าของ ป.ต.ท. ใครก็เป็น ท่านก็เป็น ทุกคนเป็นเจ้าของ ป.ต.ท. หมด แต่เขาบอก เขาต้องการ จะแปรรูป เพื่อจะให้ประชาชนเป็นเจ้าของ แล้วประชาชนแมวที่ไหนล่ะ! ประกาศแปรรูปเท่าไหร่ ประกาศขายหุ้นเท่าไหร่ครับ ให้ประชาชนเตรียมซื้อ แต่ขายจริงๆ นั้น แค่เพียงหนึ่งนาทีกับเจ็ดวินาทีเท่านั้น ขายอย่างไร แค่นาทีกว่าๆ กับของที่ราคาเป็นแสนล้าน มันเตี๊ยมกันไว้หมดแล้ว แล้วลองดูสิครับ คนที่เป็น เจ้าของนั่น เป็นใคร เป็นคนดูแลอย่างนี้กัน ทั้งนั้นเลยครับ เป็นเจ้าของกันหมด ผมนั้นพูดด่า ป.ต.ท. ก็เหมือนกับ เป็นคนอกตัญญู เพราะว่าผมทำรายการทีวี เดิมผมอยู่ที่ยูบีซี ป.ต.ท.ก็ให้ความเมตตากรุณา ลงโฆษณา ผมมาทำไอทีวี ป.ต.ท.ก็ให้ความเมตตาอนุเคราะห์ มาลงโฆษณาในไอทีวี แล้วไม่ใช่ ลงโฆษณาน้อยๆ ด้วยการที่เขามาลงโฆษณากับผมนั้น ผมจึงรู้เรื่องราว การประชาสัมพันธ์ของ ป.ต.ท. ค่อนข้างจะดี

มันมีเรื่องแปลก จะเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง อยู่เรื่องหนึ่งครับ ก่อนที่จะมีการขาย ป.ต.ท.ไปนั้น ก็มีการงด งบประชาสัมพันธ์ ปกติ วีทีอาร์ที่ส่งเรา ให้ออกโฆษณานั้น มันจะมีสองวีทีอาร์ สามวีทีอาร์ หรือบางอย่าง สี่วีทีอาร์ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดช่วงไหน เขาจะไม่ประชาสัมพันธ์ เขาจะส่งมาวีทีอาร์เดียว และถ้าไม่โฆษณา คนเรานี่ ถ้าไม่ประชาสัมพันธ์เลยนี่ ภาพพจน์สินค้าก็ตกเหว หุ้นก็ตกเหว ดังนั้น ก่อนที่จะขาย ป.ต.ท.ส่งมา วีทีอาร์เดียว และ วีทีอาร์นั้น ก็ห่วยแตกอย่างมากที่สุดเลยครับ เป็นวีทีอาร์ ที่ไม่ได้เรื่องได้ราว ใครดูแล้ว ไม่อยากจะซื้อ ป.ต.ท.เลยครับ ปรากฏว่าหุ้น ป.ต.ท. ตกลงมา อย่างนี้เลยนะครับ พอตกปั๊บ เขาขายครับ เขาขายให้ใครครับ ขายให้พวกกันเองครับ

อ่านต่อฉบับหน้า