>เราคิดอะไร

อภิมหาอำนาจทำลายวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน (ตอนจบ)
ณ ชุมชนราชธานีอโศก ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๖


ตอบ(ต่อ) - หุ้น ปตท.ตก พอตกปั๊บเขาขาย แต่ขายให้พวกกันเอง ก็แสดงว่าญาติๆ เขาซื้อหุ้นปตท. ได้ในราคาถูก อย่างมโหฬาร เพราะเขาตีให้มันตกก่อน พอตกปั๊บ เขาก็ให้ญาติไปซื้อหุ้น พอซื้อเสร็จ วีทีอาร์มา ๓ วีทีอาร์ แล้ววีทีอาร์ดีๆ ทั้งนั้น แล้วก็โฆษณาไปทั่ว ภาพพจน์ก็ดี พอหุ้นขึ้น เขาก็เท หุ้นขาย ไม่ต้องไปหาราคาน้ำมันจาก ปตท. เขาหาส่วนต่าง ซื้อหุ้นตอนราคาตก ในราคา ๕ บาท แต่เวลาขาย ขาย ๑๐ บาท ก็กินเหนาะๆ ไป ๕ บาทแล้ว แล้วมันใช่ ๕ บาท ที่ไหนล่ะ มันเป็นพันๆ ล้านบาท พอขายไป เรียบร้อย คราวนี้คนที่เป็นหัวใหญ่ คนที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ เขาแต่งตั้งไว้นี่ครับ ก็มีการโกงนั่น โกงนี่ มีเรื่องราว นิดหน่อย หุ้นก็ตกอีก หุ้นอยู่กับประชาชน หุ้นตกก็กว้านซื้ออีกรอบ ในราคาถูก พอซื้อเสร็จ วีทีอาร์ มาอีกแล้ว ๓ วีทีอาร์ ราคาก็ดีขึ้นมาอีก พอราคาดีก็ขายอีกรอบ ขายครั้งล่าสุด ปรากฏว่า ปล่อยข่าวไป เละเทะ เรื่องซื้อน้ำมัน กลางทะเล ภาพพจน์เสียอีกแล้ว นี่ได้ข่าว กำลังกว้านซื้ออีกแล้ว อยากจะถาม ท่านทั้งหลายว่า กี่รอบแล้วเรื่องอย่างนี้ ไม่มีใครมาพูดจากันเลย หนังสือพิมพ์ก็ไม่ลงข่าว ผู้คนก็ไม่บอกเล่า เก้าสิบกัน คนที่มีทรัพ์สิน เป็นแสนล้าน อย่างประชาชนคนไทย วันดีคืนดี ทรัพย์นั้น ก็อันตรธาน ตกไป อยู่กับคน แค่ไม่กี่ตระกูล แล้วคนแค่ไม่กี่ตระกูลก็เอาไปปั่นจนเอาเงินเข้ามาเป็นพันๆ ล้าน รอบละ พันล้าน รอบละ๒ พันล้าน วัฏจักรของเมืองไทย มันไปอย่างนี้ มันเหมือนกับอาร์เจนตินา

ผมมีความเชื่อว่า ในอนาคตพอเขาปั่นจนเบื่อแล้ว เขาก็ขายหุ้นต่อไป แล้วถ้าเขาขายต่อไป คนที่มาซื้อ ผมเชื่อว่าเป็น สิงคโปร์ วันนี้แบงก์หลายแบงก์เป็นของสิงคโปร์ แม้แต่ธนาคาร ที่ขึ้นต้นด้วยตัว ก.ไก่ ในจังหวัด ที่ท่านนั่งอยู่ในขณะนี้ ปรากฏว่าเจ้าของจริงๆ นั้นก็คือรัฐบาลสิงคโปร์ ในขณะที่บ้านเรา ขายรัฐวิสาหกิจ แต่สิงคโปร์บอก เราต้องไปตระเวนซื้อให้หมด แต่เขาใช้บริษัท เพราะเขาอ้าง ทุนนิยม และเขา ก็สร้างบริษัท แต่บริษัทของเขา กลับเป็นบริษัทรัฐบาล แล้วก็ไปซื้อให้หมด เขาจะใช้พวกนี้ เป็นเครื่องมือ เขามีโรงกลั่น เราก็มีโรงกลั่น มันก็แข่งกันค้าขาย คุมตลาดก็คุมไม่ได้ สู้ ซื้อโรงกลั่น เสียเลย ดีกว่า เขาก็มาซื้อโรงกลั่นเรา เราไม่มีโรงกลั่น เขามีโรงกลั่น หรือว่าในเมืองไทย มีโรงกลั่น แต่ก็เป็น โรงกลั่นของเขา เขาก็คุมตลาดได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย

ดูบางจากซีครับ ผมไปพูดที่เชียงรายเมื่อ ๒ สัปดาห์ก่อน พวกบางจากปลดป้ายเป็นแถว ก็เลยเข้า ไปถาม ขับรถไป ก็ถามไปเรื่อย เขาบอกเขากำลังจะเลิกบางจาก จังหวัดจันทบุรี ตราด ขับไปดูซีครับ มีแต่คน จะปลดป้าย บางจากลง ผมเชื่อว่าถ้าบางจากยังคง ภาพอย่างนี้ บางจากอยู่ไปสักปี สองปีก็จบ คนเขาทำ ไม่ไหวแล้ว รัฐบาลไม่อุดหนุนจริงจังกับบางจาก ผมยังต้องกราบขอบพระคุณ ท่านพลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่ท่านเข้าไปกระตุ้น ดีมากเหลือเกิน ผมยังเชื่อว่า ในอนาคต ถ้าพัฒนาบางจากดีๆ พัฒนาปรับ ปรุงขึ้นมา แล้วเราประชาสัมพันธ์ดีๆ บอกให้พี่น้องประชาชน เห็นภัยในการไปเติมน้ำมัน บริษัทต่างชาติ ให้พี่น้อง ประชาชนทั้งประเทศ ไปช่วยกันพูด ให้เห็นประโยชน์ของการเติม น้ำมันบางจาก ว่าจะช่วยชาติ จะคานชาติ อย่างไร มันไม่ใช่แค่สลึงสองสลึง บาทสองบาท ต่างกันตรงนั้น แต่มันหมายถึง สินค้าของ ทุกตัว ผมว่า อนาคตของบางจาก ก็จะไปรอด

ถาม - สงครามอินเดียปากีสถาน มีเบื้องหลังหรือไม่อย่างไร

ตอบ - มันเป็นเรื่องกว้างพอสมควร ผมสรุปให้ฟังแบบง่ายๆ อินเดียกับปากีสถาน ไม่ใช่ของเขา ทุกวัน นี้หรอก เป็นเรื่องอังกฤษเขามากกว่า คืออังกฤษปกครองอินเดีย ประเทศอินเดีย เมื่อก่อนใหญ่มาก อินเดีย คือ ๔ ประเทศในปัจจุบันนี้

๑.ประเทศอินเดีย
๒.ประเทศปากีสถาน
๓.ประเทศบังคลาเทศ
๔.ประเทศพม่า

พม่านั้นเคยเป็นอินเดียเมื่อประมาณ ๑๐๐ ปีที่ผ่านมานี้ พม่าเคยเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดีย จนกระทั่ง ตอนหลัง ได้แยกออกมา อินเดียนั้นเป็นประเทศใหญ่ คนนับถือ ๒ ศาสนา ศาสนาหนึ่งคือศาสนาฮินดู อีกศาสนาหนึ่งคืออิสลาม ทั้งคู่ไม่ถูกกัน เพราะคนฮินดูนับถือวัว เป็นสัตว์ของพระเจ้า เจอวัวก็ไหว้ กันใหญ่ เขากินนมวัว แต่มุสลิมกินวัว เจอวัวที่ไหนฆ่าหมด พวกฮินดูก็โกรธมาก ทำไมท่าน ฆ่าสัตว์ ของพระเจ้า ก็ทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างนี้

สุเหร่าบางยุคก็แปลงโบสถ์ฮินดูไปเป็นสุเหร่ามุสลิม บางทีก็แปลงสุเหร่ามุสลิมไปเป็นโบสถ์ฮินดู ศาสนา อิสลาม เขามีละหมาดวันศุกร์ พวกฮินดูก็เจ้ากรรม ร้อยวันพันปีก็ไม่ร้องเพลง จะต้องตั้ง กฎเกณฑ์ว่า จะต้องร้องเพลงวันศุกร์ สถานที่ร้องเยอะแยะก็ไม่ร้อง จะต้องไปร้องหน้าสุเหร่าทุกแห่ง ก็เลยทะเลาะ เบาะแว้ง จริงจังกันตลอดเวลา เรื่องราวมากมายหลายเรื่อง อย่าไปพูดถึงเขาดีกว่า ผมอยาก จะเรียนว่า ประเทศอาร์เจนตินานั้น ที่มันเจ๊งนั้น เจ๊งสนิทเลยเพราะอะไร

ประการแรก ประเทศอาร์เจนตินา ไม่มีอะไรเหลือเป็นสมบัติของชาติ แม้แต่ทางถนนหลวง ก็ไม่มีทาง ถนนหลวง ของประเทศ ทุกแห่งในประเทศอาร์เจนตินา เขาจะขายถนนนั้น ให้บริษัทเอกชน ตอนแรกๆ เวลาเขาขายนั้น เขาจะขายให้บริษัทเอกชนของ อาร์เจนตินา ซึ่งจะมีบริษัทต่างชาติ เข้ามาหุ้นด้วย วันดีคืนดี หุ้นก็กระจัด พลัดพรายออกไป สู่ตลาดหุ้น พอไปสู่ตลาดหุ้น วันดีคืนดี ก็จะมีคนมาไล่ต้อนซื้อหุ้น จนกระทั่ง สุดท้ายหุ้นนั้น ก็จะเป็นของบริษัทต่างชาติไป โดยสิ้นเชิง

ยกตัวอย่าง เมื่อเช้านี้ผมก็ไปนั่งทำงานที่ตรงถนนพระรามเก้า และถ้าผมจะมาที่อโศก ผมออกจาก ตึกวรสมบัติ มาที่ถนนพระรามเก้า ถ้าเป็นในประเทศอาร์เจนตินา ตรงถนนพระรามเก้านั้น ก็จะเป็น ของบริษัทหนึ่ง อาจจะเป็นของสเปนก็ได้ และถ้าผมเข้าไปถึงถนนรามคำแหง ก็จะเป็นของอีกบริษัทหนึ่ง อาจจะเป็นของฝรั่งเศสก็ได้ พอเป็นบริษัทเอกชนเข้ามาซื้ออย่างนี้ เขาก็จะมีการเก็บ ค่าผ่านทาง ค่าผ่านทาง ก็เหมือนกับทางด่วนบ้านเรา แต่ว่าอาร์เจนตินา มีทุกถนนหลวง มีทุกแห่งไม่ว่า จะเป็น หมายเลขอะไรต่างๆ ไกลแค่ไหนก็ตาม เป็นตัวอำเภอ เป็นตัวจังหวัดก็ตาม เขาจะขายถนนต่างๆ นั้น ไปให้บริษัทต่างชาติทั้งหมด

เราจะเห็นว่า อย่างต่ำที่สุดที่จะต้องเสีย ค่าผ่านทาง ๒ เปโซ และสูงที่สุด ที่ผมเคยเจอ ก็คือเสียค่า ผ่านทาง ๙ เปโซ ก่อนที่จะมีการลดค่าเงินเปโซนั้น ๑ เปโซเขาผูกไว้กับดอลล่าร์ หมายความว่า ๑ เปโซ ก็คือ ๔๕ บาทไทย นั่นเอง คนจนที่สุด ราคาถูกที่สุด ที่จะใช้ถนนในประเทศอาร์เจนตินา ที่จะเป็นถนน หลวงนั้น จะต้องเสียสตางค์ ๒ เปโซเป็นอย่างต่ำ นั่นคือ ๙๐ บาท วันนี้ ๒ เปโซ ราคาไม่ถึง ๙๐ บาท เพราะค่าเงิน ตกไป แต่ลองนึกถึง ๙ เปโซ นั่นหมายความว่า เป็นเงินหลายร้อยบาททีเดียว คนอาร์เจนตินา อยู่เมืองไหน ก็เมืองนั้น ไม่ค่อยจะไปต่างเมือง เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าถนน ไม่ใช่แต่ ถนนอย่างเดียว รถไฟก็เหมือนกัน รถไฟไม่มีแม้แต่สถานีเดียว ที่เป็นของอาร์เจนตินา ดังนั้นการกระดิก พลิกตัวของคนอาร์เจนตินา หรือ การทำธุรกิจ ธุรกรรมใดก็ตาม มันจะไม่มีส่วนเกิน ที่เรียกว่า มาร์จิน ตกอยู่ในประเทศเลย มันจะต้อง ออกไปทั้งหมด นั่นคือกำไร ๑๐๐ บาท อย่างบางบริษัท ในบ้านเรา เรายังปล่อย ให้ต่างชาติ มาหุ้นได้ ประมาณแค่ ๔๙ เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นบริษัททั่วไป แบบเมื่อก่อน หุ้นได้แค่ ๔๙ เปอร์เซ็นต์ นั่นคือ เงินกำไร ๑๐๐ บาท ตกอยู่กับคนไทย ๕๑ บาท และไปต่างประเทศ ๔๙ บาท แต่ในประเทศอาร์เจนตินา ไม่มีอะไรเหลือเลย ไปดูบริษัทต่างชาติก็หุ้น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น ในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ก็ยังมีแนว ความคิดว่า จะให้บริษัทต่างชาติ เข้ามาทำธุรกิจธุรกรรม ในบ้านเราได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่อง อันตรายมาก

พอบอกว่าให้มาทำธุรกิจธุรกรรมได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ปรากฏว่ารู้สึกจะเป็นห้างแมคโคร แต่เดิม มีหุ้นอยู่ ๓๐ กว่า เพิ่มไปเป็นหุ้นถึง ๔๙ วันนี้หุ้น ๙๑.๒ เปอร์เซ็นต์ คนไทยไปซื้อของห้างแมคโคร ถ้ามีกำไรอยู่ ๑๐๐ บาท เงินก็ออกนอกประเทศ ๙๑ บาทกว่าๆ แต่ปรากฏว่าไม่มีคนไทย ที่ไหน ออกมา ต่อต้าน ยกเว้น คนกลุ่มเล็กๆ อาจจะเป็นพวกหอการค้าต่างๆ แค่สองแสนสามแสนคน หรือคนกลุ่ม ชาวอโศก บ้างที่พอมีความรู้บ้าง เกี่ยวกับเงินไหลออก แต่ถ้าไปถามคนทั่วไป ไม่มีใครรู้เลย

ผมอยากจะเรียนท่านทั้งหลายว่า ลองไปดูห้างต่างๆ เสาร์-อาทิตย์ คนจะแน่นไปหมด ซึ่งเป็นลักษณะ เดียว กับประเทศ อาร์เจนตินา ในโลกของเรานี้ มีชาติรัฐที่ถูกต้องตามกฎหมาย ของสหประชาชาติอยู่ ๑๙๔ ประเทศ มีอยู่เพียง ๒๔ ประเทศเท่านั้น ที่อนุญาตให้ห้างคาร์ฟู เข้าไปในประเทศของตนเอง อีกประมาณ ๑๐๐ กว่านั้น ไม่ให้เข้าเลย แม้แต่นิดเดียว พอไม่ให้เข้า เขาก็จะสามารถป้องกันเงิน ให้อยู่ในประเทศ ของเขาได้ แต่ในประเทศไทย ของเรานั้น เป็น ๑ ใน ๒๔ ชาติ ที่ยอมให้ห้าง ต่างชาติ เข้ามาอยู่ ในประเทศ ตนเอง แต่เป็นเพียง ๒ ใน ๒๔ ชาติที่ไม่ได้กำหนดโซนนิ่ง ในประเทศมาเลเซีย จะตั้งห้าง ลักษณะอย่างนี้ เอ็งต้องไปตั้งไกลๆ ต้องไปตั้งนอกเมือง คนจะไปได้ ต้องขับปิ๊กอั๊พไปเท่านั้น และจำกัดว่า ตั้งได้แค่กี่ห้าง ผมจำสลับกัน มันจะมีประเทศหนึ่งตั้งได้ ๒ ห้าง อีกประเทศหนึ่งตั้งได้ ๗ ห้าง ๒ ห้างกับ ๗ ห้าง คือ ญี่ปุ่นกับมาเลเซีย ถ้ามาเลเซียให้ ๗ ญี่ปุ่นก็ให้ ๒ ถ้ามาเลเซียให้ ๒ ญี่ปุ่นก็ให้ ๗ ผมจำ สลับกัน ไม่ทราบ ประเทศไหน ๒ ประเทศไหน ๗

ในประเทศมาเลเซียห้างเหล่านี้ไม่เติบโต เพราะคนไม่ไปซื้อของมาก ในญี่ปุ่น ปรากฏว่าเจ๊งมาแล้ว ในเกาหลี เขาก็ให้เข้า แต่ไปตั้งไกลมาก ทั้งเกาหลีและญี่ปุ่น ห้างใหญ่อย่างนี้ ประกาศยอมแพ้ เพราะคนไม่ไปซื้อของ เขาขาดทุน ยาวนานมาก ตั้งได้ประมาณ ๕ ปี เขาก็ถอนทัพกลับ ดังนั้น ญี่ปุ่น เกาหลี เริ่มไม่มีแล้ว ห้างแมคโคร คาร์ฟู ก็เหลือประมาณ ๒๒ ประเทศเท่านั้น ที่ยังมีห้างเหล่านี้ ๒๒ ประเทศนั้น ๑ ประเทศ ต้องเป็น ประเทศแม่อยู่แล้ว ในประเทศฝรั่งเศส เป็นเจ้าของคาร์ฟู แน่นอนใน ประเทศฝรั่งเศส จำเป็นต้องมี ถ้าหักฝรั่งเศสออกไป ก็เหลือ ๒๑ ประเทศ แล้วในประเทศฝรั่งเศส เขามีกฎหมายบังคับว่า จะให้ห้างใหญ่ๆ มาตั้งได้นั้น จะต้องมีประชาพิจารณ์ ในเมืองก่อนว่า จะยอมไหม และมีอะไรอีกเยอะ มากพอจะตั้งจริงๆ ก็ตั้งไม่ได้ คือเขาจะให้ตั้งเฉพาะไกลๆ อย่างเดียว แต่ในเมืองไทย แถวบางกะปิ ตรงข้ามกับ ห้างเดอะมอลล์ ผมเห็นห้างต่างชาติ และเป็นห้างที่ใหญ่มากๆ ลักษณะอย่างนี้ เป็นอย่างเดียวกับ ในประเทศอาร์เจนตินา แต่ลักษณะอย่างนี้ แตกต่างจากห้าง ที่อยู่ใน มาเลเซีย แตกต่างจากห้าง ที่อยู่ในประเทศฝรั่งเศส แตกต่างจากห้าง ที่อยู่ในประเทศโปแลนด์

ไทยกับประเทศอาร์เจนตินาจะมีแนวที่ใกล้กัน แม้จะไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง มีองค์ประกอบ หลายอย่าง แต่เรื่อง เงินไหลออกนั้น มีองค์ประกอบคล้ายๆ กัน และก็ไม่มีใครสนใจ ผมเองเคยทำรายการ จริงๆ แล้วเรื่องขอ งอาร์เจนตินา มันน่าจะไปออกสถานีโทรทัศน์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ผ่านไปจนถึง มิถุนายนแล้ว เข้าไป ๔ เดือน เรื่องราวเกี่ยวกับอาร์เจนตินา น่าจะออกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หรือมีนาคม ซึ่งผมเพิ่งกลับ มาจาก อาร์เจนตินา แต่ก็ออกกันไม่ได้ เพราะว่ามีมือที่มองไม่เห็น ไม่ทราบว่า มือประเภทไหน คอยกีดกัน จนกระทั่ง ไม่ได้ออก ก็เป็นอย่างนี้ละครับ

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖)