>เราคิดอะไร

อันตรายใกล้ตัว กลัวไม่เห็น - วิมุตตินันทะ -

ปีหนึ่งๆ ข้าพเจ้าได้ดูหนังน้อยมาก นับเรื่องได้และที่ไม่ได้ดูหนังโรงทั้งปีเลย เหมือนจะ มีมากกว่า ก็ขอยอมรับ ว่าเชยแหลก ผลเสียในส่วนนี้ อาจทำให้ไม่ค่อยทันคน ประมาณนั้น

เรื่องหนังที่ไม่ติดใจจะดูสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะหาสาระสร้างสรรได้ยากเต็มที ยิ่งเสีย เงิน เสียเวลา ทั้งหาอะไรประทับใจไม่ค่อยจะได้อีก ยิ่งคิดว่ามันไม่เห็นคุ้มค่าตรงไหนเลย พูดตามประสา คนไม่หลงติด เท่าใดนัก เหมือนช่างคิดมากไปหน่อยก็ว่าได้ ถ้าจะจัดตัวเองเป็นพวกเบื่อโลกเสียมากกว่า คงไม่ ผิดกระมัง

หนังทั้งหมดที่ชอบใจกันนัก เชื่อไหมว่า มีอยู่๓ เรื่องเท่านั้นเอง เคยฟังพระท่านสอน คือ โลภะ โทสะ โมหะ มันก็ซ้ำซาก เวียนวนกับโลภ โกรธ หลง ไม่เสร็จอยู่อย่างนั้นแหละ

เออ ถ้าดูหนังเรื่องไหนแล้ว มันชวนลดละโลภโกรธหลง เบาบางจางคลาย มันก็จ่ายสตางค์ คุ้มน่าชม ดีจังวุ้ย... ตรงกันข้าม ถ่อไปถ่างตาดูแล้ว ไม่แคล้วยิ่งมอมเมา ยั่วเย้า ให้เราขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หวง เก่งกว่า เก่าอีก แบบนี้มันหลวมตัวหาเรื่องโง่ไปหน่อยหรือเปล่า..อยู่ดีไม่ว่าดี อุตส่าห์หา เวรกรรมแท้ๆ ก็แล้วแต่ ตัวใครตัวมัน ปัจจัตตังต่าง หาคำตอบเอาเองได้เต็มๆ ตามสบาย

ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อหนังโลกย์ๆ ที่สร้างขึ้นมาดูดเงินคนชม มันหนีไม่พ้นวังวนน้ำเน่า ของธรรมชาติ โลกียวิสัย จะให้หลุดลอยออกนอกป่าหิมพานต์ มันจะเข้าภพชาติ ออกรสเป็นสับปะรดได้อย่างไร

ดังนั้น ครั้นจะดูหนังให้เป็นเรื่องทั้งที มันต้องมีศิลปะเคล็ดวิชาวิปัสสนาด้วยศีล สมาธิ ปัญญา หรือ สัมมาสิกขาบ้าง อย่างที่บอกว่า สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งเห็นเป็นโคลนตม

อีกคนชมกลับเห็นดวงดาวพราวพราย...

ครับ จะดูหนังฟังเพลงหรือเถิดเทิงอะไรก็ตาม ถ้าปล่อยตัวปล่อยใจให้มันเหลวไหลหลงโลภ หลงโกรธ เพิ่มพูน กิเลสตัณหา จัดจ้านยิ่งขึ้น มันก็เป็นเหยื่อน่าสงสารแสนสมเพชสิ้นดีไปเรื่อยๆ

แต่ถ้าไม่ยอมฉลาดน้อยปานนั้น สิทธิมนุษยชนเพื่อทวนกระแสเหนือโลกย่อมใช้ได้เต็ม ที่

สมัยนี้ ขี้หมูขี้หมาชอบอ้างสิทธิมนุษยชนกันจังเลย เป็นยุคตื่นตัวกับสิทธิความเป็นคน อิสระเสรี มันก็ดี ถ้าใช้ให้ถูกทาง กาลเทศะ อย่างกรณีน้องอ้วนบึก ยังกะลูกช้าง แล้วอยากสมัคร เรียนพยาบาล มหิดล ให้ได้ หุ่นไม่ไหวปานนั้น มันจะไปใช้งานรักษา สุขภาพคนได้อย่างไร อะไรๆ ก็ต้องมีพอเหมาะ พอเจาะ แม้ผอมแห้ง เป็นไม้เสียบผี หรือแคระแกร็นเกินไป ขืนผ่านคัดเลือกได้หมด คงดูพิลึก ขนาดจะบวชพระ มาอยู่เสมอภาคกันหมด ไม่ว่ามาจากสกุลสูงต่ำ มีหรือจน ท่านยิ่งคัดคน ต้องครบอาการ ๓๒ คนพิการ จะมาอ้างสิทธิ เท่าเทียม ฟังไม่ขึ้นแน่ๆ ยิ่งพิกลพิเรนทร์ แบบกะเทยด้วย ไปได้ไกลๆ โพ้น

ในโลกอันเป็นจริง ย่อมไม่มีอะไรเท่ากันแท้ๆ กระทั่งอณูสองตัวยังเท่ากันไม่ได้เลย ที่เห็นๆ คือมันกิน ที่คนละเทศะ ฉะนั้น เรื่องที่สตรีอยากอวดศักดา มีสิทธิเอาแต่ตัวโดยไม่เอาสกุล สามีไปด้วย กลายเป็น เกลียดตัวกินไข่ หรืออย่างไร วุ่นวายจริงหนอ โลกของผู้หญิงทุกวันนี้........

เลยชวนเป็นงงไม่ใช่เล่นเหมือนกันว่า ศาลท่านพิพากษาไปตามธรรมเนียมนิติประ เพณีอันใดไม่ทราบ เหมือนจะอ้าง คดีบรรทัดฐาน ตะวันตกเสียด้วย คงช่วยให้ครอบครัว แตกแยกง่ายดาย ขึ้นอีกแรงหนึ่ง หากได้คำนึงถึงองค์รวม ของครอบครัว เพื่อความสมัครสมาน ประสานสังคมชุมชน และสืบสายตระกูล ไม่คิดแยกส่วน สิทธิมนุษยชน ส่วนตัวโดดๆ ผลวินิจฉัยอาจไม่ออกมาแปลกประหลาด เกินคาด ดังที่เกิดขึ้น ก็ได้กระมั้ง

สร้างมิตรหรือคิดก่อเวร...
สังคมนับวันยิ่งแปลกแยกเปราะบางร้าวฉานสูง โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลไทยมุ่งมั่น ให้คนไทยรวย เงินทันตาเห็น เหมือนชูธงเงินเป็นตัวตั้ง หวังถือเงินเป็นใบเบิกทางแก้ปัญหาสารพัด ยิ่งความจนด้วย แล้ว ราวกับตัวเสนียดจัญไร อันจะต้องหนีสุดขีด ถึงกับสัญญาว่าในหกปีเท่านั้น คนไทยไม่มีวัน จน ทุกบ้านช่อง

รัฐบาลช่างจริงใจวาดฝันเจิดจ้า เหมือนพ่อใจใหญ่เลี้ยงลูกตามใจอยากให้ลูกรักพ่อคน เดียวกัน สมัยหน้า ไทยรักไทยจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว พ่อเลยต้องทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่ม ผู้แสนรู้ใจถึงขนาด ยักย้ายถ่ายเทเงิน ให้ตุงกระเป๋าไว้ก่อน ถ้าทำได้ เสียดายที่พ่ออ่อน หัดไม่ยักรู้นิสัยลูกดีแค่ไหน พอมีเงินแล้ว จะผลาญ อีลุ่ยฉุยแฉกเท่าไหร่ เมื่อไม่ทันสอนลูกให้ใช้เงินเป็นเสียก่อน ไม่สร้างเสริม ภูมิคุ้มกันของลูก ให้เข้มแข็ง เพียงพอ ต่อให้มีเงินถัง ลูกจะมั่งมีไปได้กี่ วัน

คนเรามักจะฝันเฟื่องว่า ขอให้มีเงินสักอย่าง อะไรๆ จะดูดีไปหมด หารู้ไม่ว่าเมื่อรวยเงินหนักแล้ว กิเลสนี้มันจะหนักหนาสาหัสตามไปด้วยน้อยนักที่รวยล้น แล้วไม่เละเทะ คงหายากเต็มทีแทบ ทั้งร้อย เป็นต้องยโสโอหัง ถือตัว ขี้โลภ ขี้โกรธขึ้นมาเป็นเงาตาม ตัวทั้งนั้น ไม่เชื่อลองตาม ไปดูสะใภ้ใหม่ ที่จนๆ แรกๆ อ่อนน้อมถ่อมตนว่านอนสอนง่าย พอร่ำรวย ไฮโซยิ่งขึ้น กลายเป็นพันธุ์แท้ สะใภ้เก่าที่เบื่อไม่ลง ส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนั้นไหม?

อนึ่ง ข้อสำคัญ คือกว่าใครๆ จะรวยเงินทองขึ้นมา มันต้องยื้อแย่งช่วงชิงแข่งขันกันกอบ โกยเมื่อต้อง แย่งกันเอาเปรียบกันสุดๆ ด้วยสงครามธุรกิจ แล้วใครจะสร้างมิตรน้ำใจจริงต่อกันได้อย่างไร คงมีแต่ เสแสร้งมารยา ฉ้อฉลโกงเพียบไม่มากก็น้อย

นอกจากนี้ เพียงตั้งต้นแข่งกันรวยด้วยวิธีดูดเงินๆ ทองๆ จากผู้คน แค่คิดก็เมื่อยแล้ว โดยเฉพาะ ทำไมต้อง ทำนาบนหลังคนด้วย ใครจะรู้สึกประหลาดใจบ้างไหมเอ่ย............

แม้ว่าในสายตาของการค้าทุนนิยม คงมองว่าไม่เห็นเป็นไร ปลาใหญ่กินปลาเล็ก มันแสน จะธรรมดา ธรรมชาติ เหลือเกิน แต่เมื่อถือมุมมองด้วยสำนึกดี เราเป็นคนที่นับถือตัวเอง ว่าประเสริฐกว่าสัตว์ แล้วถ้าคนกิน คนด้วยกันลงคอ ดูดเลือดเนื้อเถือหนังกันเสรี คงนับ เป็นคนไม่ไหวแล้ว ขึ้นชื่อว่าคน ควรมีน้ำใจเอื้ออาทรคน เล็กคนน้อย ด้วยกัน ถึงจะ ไม่เสียชาติคน คือปลาใหญ่ต้องชูอุ้มปลาเล็ก

ด้วยเหตุนี้ วิถีทำมาหากินของผู้คน หากไม่เน้นเข้าเป้าเศรษฐกิจพอเพียงมักน้อยสันโดษหรือ ไม่โน้ม ให้เลี้ยงตนด้วยหยาด เหงื่อแรงงานพึ่งตัวเอง จนกระทั่งเหลือเฟือฟาย แบ่งปัน คนอื่น เมื่อไม่นำพา ทำนองนี้ โดยยั่วยุให้คนเห็นเงินตาโตแบบยุคเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยิ่งแข่งกันรวย แย่งกันขี้โลภมัน ยิ่งออกนอกศาสนาบุญนิยม โดยเฉพาะไทยรักไทย อยากจะดูดเงินสกปรก นอกระบบ มาเป็นของรัฐบาล ให้หมด เช่นหวย ใต้ดิน ก็เท่ากับขยายตลาดการพนันให้คนจมปลักดักดาน ดำเนิน สะดวก จนโงหัว ไม่ขึ้นไปกันใหญ่ เลย เหมือนหารู้ไม่ว่า มันกลายเป็นหวยบนดินสวนทางนโยบาย แก้จนขนาดไหน เพราะมันยิ่งจะพาจนตายสิ้นดีไป ทั้งชาติ กลายเป็นจนแบบผีเปรต คนละเรื่อง กับจน แบบพระ ซึ่งกล้าจนดีไม่มีเหลวแหลกปานนั้น

ดังนั้น ไม่ว่าจะกินดื่มเสพ กระทั่งเลี้ยงชีวิตด้วยการงานอาชีพใดๆ หากไม่อยู่ในทำนองคลอง ธรรม แห่งศาสนาหรือไม่คิดลดละ โลภ โกรธ หลงอะไรเลย แน่นอนว่าหนีไม่พ้นต้องชนกับความเครียด ทั้งโลภะและราคะ มันพาขี้หวงหึงและโมโหโกรธาไปได้สารพัด

เสร็จแล้วก็ไม่ต้องเป็นงงอีกว่า ทำไมสังคมเร่าร้อนด้วยบริโภคนิยม ถึงรุนแรงฆ่าแกงกันเป็น ว่าเล่น เช่นข่าวนักเรียนชิงรักหักสวาทเป็นฆาตกรยิงกันตายไม่ขาดระยะ เอาแค่ดูหนังมะกันทุกเรื่อ ง แทบไม่มีดอก ที่จะไม่ใช้ปืนแก้ปัญหา เมืองที่คิดว่านำหน้าเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ที่แท้กลับล้าหลัง ด้วย ปืนโต จะคุยโวว่าก้าวหน้าไกลกว่าคนป่า แดนเถื่อน ก็คงจริงเหมือน เสริมเขี้ยวเล็บได้แหลม คม ร้ายกาจ เมื่อตัวเองนำหน้าในการก่อการร้ายส่งเสริมการค้าอาวุธสารพัดทุกระดับประชากรมะกันคง จะมีปืน ส่วนตัวมากที่สุดในโลกเลย เมื่อกลายเป็นคนไร้ศาสนาโหดๆ เช่นนั้นแล้วจะมีหน้าไปปราบ พวกแข่ง ก่อการร้ายทั่วโลก ได้อย่างไร

หายนธรรมจากหนังฮอลลีวู้ด มันครอบงำหัวคิดเด็กไทยให้เดี้ยงไปหมด อันนี้น่าห่วงเหลือ เกิน ไม่เหมือนกับหนังอินเดียที่เคยดูบ้างหลายปีก่อน ซึ่งเดี๋ยวนี้คงถูกหนังฝรั่งไหลท่วมทับจน ไม่ค่อยมีฉาย ให้ชมแล้วกระมัง เวลาแขกทะเลาะกันรุนแรงอย่างเก่งเอาไม้กระบองยาวๆ มาฟาดกัน แทนที่จะซัดด้วยปืน ด่วนถึงนรก

เรื่องของปืนที่ชอบซื้อเอาไว้ในบ้าน โอกาสที่จะได้ใช้ยิงโจร มีน้อยนักเต็มที ส่วนคดีเกิด บ่อยๆ กลับเป็นว่า คนในบ้านนั้นๆ แหละมักต้องตายเพราะปืนกระบอกที่ซื้อเข้าบ้าน โดยฆ่าตัวตายบ้าง ฆ่ากันเองบ้าง เวร กรรมทันตาเห็น โทษฐานซื้อขายอาวุธซึ่งต้องห้ามสำหรับชาวพุทธ ในมิจฉาวณิชชา ๕ ท่านห้ามไว้หมด เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าการค้าสัตว์เป็นสัตว์ตาย ตลอดยาพิษและสิ่งเสพติดมอมเมาอบายมุขทั้งหลาย

ฉะนั้น ปัญหาตัวอย่างนักเรียนเครียดจนก่อคดีร้ายแรง ใช้ปืนฆ่าแกงอุตลุด ประเด็นนี้ สะท้อนให้เห็น การศึกษา ที่ล้มเหลวเกือบสิ้นเชิง หลงสอนให้เก่งรู้เก่งคิดเพื่อเอาเปรียบ ยื้อแย่งลาภยศสรรเสริญสุข แต่พลาดสำคัญ คือไม่สอนให้รู้จักชีวิตจิตใจตัวเอง มันก็ต้องไหลไปตามกระแสกิเลส ตัณหา พวกมาก ลากไปนรกเท่านั้นเอง

เมื่อทุกข์ปรากฏเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นตำตาประจำวันทั่วไทย จึงถึงเวลาที่ผู้คนจะได้ ใช้สติสัมปชัญญะ ตื่นตัว แสวงหาภูมิปัญญาวิถีพุทธ เพื่อหาทางเลือกทางรอดใหม่ๆ ซึ่งก็คือทางเกวียนสาย เก่า ที่เรามองข้าม ทิ้งขว้างด้วยใจประมาทพลาดไปไกลโข

น่าเสียดาย กับรัฐบาลไทยรักไทย มัวทุ่มโถมเอาเม็ดเงินเป็นเป้าหมายยิ่งใหญ่ ทั้งๆ ที่เราเคยผ่าน อัตราก้าวหน้า ทางเศรษฐกิจสูงเด่น ติดต่อกันหลายปีดีดัก ยอดส่งออกเคย พุ่งโลดตั้งเท่าไหร่ เงินนอก ไหลทะลักเข้ามาท่วมท้นจนผลาญกันสนุกมือโกงกันเป็นว่าเล่น เสร็จแล้วอยาก เป็นเสือ มันเหลืออะไร ในวันนี้.........?!

ช่างไม่ง่ายเลย ที่ผู้คนจะเห็นอันตรายของใจขี้โลภ โดยเฉพาะความซวยซ้ำซากเมื่ออยาก มีเงิน เหลือล้น พอมีเงินก็หวาดระแวงภัย ต้องหาปืนมาคุ้มครอง กลายเป็นเสี่ยงตายเพิ่มขึ้นจากหอกข้างแคร่ คงหลง เวียนว่าย ตายเกิดกันไปไม่เสร็จ จนกว่าจะเกิดปัญญาลอยตัวมากล้าจนหรือกลัวรวย เป็นบ้า ไปโน่นเลย เมื่อไหร่ใครจะคิดใหม่ทำใหม่แท้ๆ ปานนี้บ้าง ลองใจกล้าๆ ชิมลางสักนิดเดียวก็ยังดี...

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖)