พระตุ๊ด-เกย์ที่ดี
ควรให้มีในพุทธศาสนาหรือไม่ ?
จากข่าวที่เกย์ ตุ๊ด เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนามากขึ้น
ทำให้เป็นที่ลำบากใจของฝ่ายปกครองสงฆ์ เพราะพระตุ๊ด พระเกย์ ที่เข้ามา
บวชแล้ว ประพฤติดีก็มีอยู่ จนทำให้ต้องมีการหาข้อมูล เพื่อกำหนด กรอบความประพฤติของพระ
ที่มีพฤติกรรม เบี่ยงเบนทางเพศเหล่านี้
จะหากรอบอย่างไร? หรือน่าจะยกออกนอกกรอบไปเลย!
จึงจะถูกต้องตามพระธรรมวินัยมากกว่า คงต้อง มาพิจารณาเนื้อหา จากข่าวของ
หนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก"ฉบับวันที่ ๑๓ ก.ค. ๔๖ ซึ่งได้พาดหัวข่าว
และ มีเนื้อข่าวดังนี้
เกย์ลามถึงเจ้าวัด ตั้งคู่ขาเป็นเลขาฯ
"พระเกย์"โผล่อีก ชาวเมืองเชียงใหม่ร้องพฤติกรรมฉาว
แฉเป็นระดับพระชั้นผู้ใหญ่ตั้งแต่พระครู-เจ้าอาวาส ยันพระหนุ่ม เผยบางรายตั้ง
"คู่ขา" เป็นเลขาฯ คนขับรถ เพื่อบังหน้า ตกดึกแอบย่องเข้าไปตุ๋ยกันในกุฏิ
จนติดเอดส์ตาย
หลังจาก "คม ชัด ลึก"ได้รับการร้องเรียนถึงพฤติกรรมพระเกย์ในวัดต่างๆ
ทั้งจังหวัดลำพูน และจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมาก ซึ่งพระดังกล่าว มีพฤติกรรม
เบี่ยงเบนทางเพศ และสร้างความเสื่อมเสีย ให้แก่พุทธศาสนา จนกระทั่ง
คณะกรรมการปกครองสงฆ์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้หามาตรการป้องกัน โดยเตรียม
จัดระเบียบพระสงฆ์ ให้มีความประพฤติ เหมาะสมกับสมณวิสัย แต่ยังไม่ทัน
ที่จะกำหนด มาตรการ เพื่อแก้ปัญหา ดังกล่าว ล่าสุด ได้มีผู้ร้องเรียน
เกี่ยวกับพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสม ของพระ-เณรที่มีพฤติกรรม เป็นพระเกย์อีกแล้ว
สำหรับพฤติกรรมของพระเกย์รายนี้
ได้ถูกเปิดเผยจากชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ร้องเรียน ความประพฤติ
ของกลุ่ม พระเกย์ ตามวัดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลังจากตรวจสอบ
"คม ชัด ลึก"ก็พบว่า พฤติกรรม ดังกล่าวมีจริง
พระสงฆ์รูปหนึ่งที่มีพฤติกรรมเป็นเกย์ก็ยอมรับว่า
พระเกย์มีจริง โดยส่วนใหญ่จะเป็นพระที่มีอายุมากแล้ว ซึ่งมีทั้ง ระดับพระครู
ไปจนถึงเจ้าอาวาสหลายวัดในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีพระเกย์บางรูป
ที่จ้าง ให้คู่ขา มาเป็นคนขับรถ หรือเลขาฯ ส่วนตัวเพื่อเป็นการบังหน้า
แต่พอตกดึก หรือตอนที่ไม่มีใครอยู่ ก็แอบย่อง เข้าไป มีเพศสัมพันธ์กันในกุฏิ
นายชัยมงคล แก้วมา คนขับรถประจำตัวเจ้าอาวาสแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ยอมรับว่า
มีพระเกย์ ที่ให้คู่ขา คนสนิท มาเป็นเลขาฯ คอยช่วยงานและเป็นคนขับรถให้จริง
ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีมานานแล้ว แต่ไม่มีใคร อยากเข้าไป เกี่ยวยุ่งด้วย
และพฤติกรรมพระเกย์ประเภทมีรักร่วมเพศ ก็ส่งผลให้พระสงฆ์หลายรูป ติดเชื้อเอดส์
จนเสียชีวิต ไปแล้วหลายรูป อย่างเช่น พระสงฆ์รูปหนึ่ง ในวัดย่านถนน
ราชภาคินัย ในตัวเมือง เชียงใหม่ ที่ยังคง รักษาตัวอยู่
ด้านนายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการปกครองสงฆ์
(ฝ่ายฆราวาส) จังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า สำหรับ พระสงฆ์ และสามเณร ที่มีพฤติกรรมเป็นพระเกย์
หรือตุ๊ด พบว่ามีการรวมกลุ่มกัน โดยส่วนใหญ่ จะเป็น สามเณร ตามวัดต่างๆ
ที่ไปเรียนตามโรงเรียนพระปริยัติธรรมโดยทราบว่ามีการตั้งชื่อกลุ่มว่า
"เจ้าหญิง" ด้วย ซึ่งทำความเสื่อมเสีย ให้แก่สมณเพศเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก็เข้าใจว่า บางคนเป็นเกย์-ตุ๊ด มาตั้งแต่เกิด ทำให้ แก้ไขไม่ได้
"พระตุ๊ดและพระเกย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
มีหลายรูปที่มีความรู้ความสามารถ ประพฤติตนเป็นประโยชน์ แก่พระพุทธศาสนา
ไม่ว่าจะเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง พระนักพัฒนา รวมถึงเป็นพระครู และพระอาจารย์
ที่คอย ให้ความรู้ แก่พระนิสิต จึงอยากจะให้สังคม ช่วยพิจารณาให้ดี
มิฉะนั้น อาจทำให้พระ ที่มีความประพฤติดี เสียกำลังใจได้" นายวัลลภกล่าว
ทางด้านพระญาณสมโพธิ เจ้าคณะ อ.เมืองเชียงใหม่
กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสงฆ์ ทั้งฝ่ายสงฆ์ และ ฝ่ายฆราวาส กำลังรวบรวมข้อมูลและมีการศึกษา
เพื่อเตรียมที่จะมีการกำหนดกรอบความประพฤติของพระ ที่มีพฤติกรรม เบี่ยงเบนทางเพศเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นพระตุ๊ด หรือพระเกย์ โดยจะมีการกำหนด ถึงระดับ ของความเหมาะสม
ในการประพฤติตน ซึ่งหากเกินระดับที่มีการกำหนดไว้ ก็จะต้องมีการกำหนดโทษต่อไป
ถ้าพิจารณาผิวเผินก็อาจทำให้คิดได้ว่า
การมีพระเกย์ พระตุ๊ดที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นทั้งพระครู พระนักพัฒนา
และพระนักเทศน์ชื่อดังน่าจะเป็นผลดีต่อพุทธศาสนา แต่หารู้ไม่ว่า บุคคลเหล่านี้
เป็นอันตราย ต่อพุทธศาสนา อย่างยิ่ง จัดอยู่ในหมวดบุคคลที่ต้องห้ามเข้ามาบวช
อันได้แก่พวกทำอนันตริยกรรมทั้งหลาย เช่น ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์
ทำร้ายภิกษุณี และทำร้ายพระพุทธเจ้า บุคคลเหล่านี้ แม้จะได้ผ่านการบวช
มาแล้ว หากรู้ในภายหลัง พระพุทธองค์ก็ทรงให้จับสึกเสีย เพราะถือว่า
เป็นผู้ไม่สามารถเจริญงอกงาม ในธรรมวินัย ของ พระพุทธองค์ได้อีกแล้ว
ในกรณีพวกที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศนั้น
ถือเป็นความวิปริตผิดธรรมชาติอย่างยิ่ง เพราะปกติของ การเสพกามนั้น
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องกา รจะสืบต่อเผ่าพันธุ์ให้ดำรงอยู่กันต่อไป
แต่ความต้องการ เสพกาม ระหว่างเพศเดียวกัน มันเป็นเรื่องของกิเลสสดๆ
โดยตรง ที่ต้องการเสพรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างเดียว โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการสืบต่อเผ่าพันธุ์
อันเป็นเรื่องของธรรมชาติแต่อย่างใด
ในสมัยพุทธกาลเคยมีนาคซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉานปลอมตัวมาบวช
แต่เมื่อเผลอตัวหลับไป ในคืนวันหนึ่ง จึงเผยเกล็ด เผยหงอน ให้เพื่อนพระได้เห็นเข้า
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ให้พระนาค ซึ่งเป็นเดรัจฉาน
ห้ามบวช สึกออกไปทันที ซึ่งในทำนองเดียวกับพระตุ๊ดพระเกย์ เมื่อใดที่แสดงอาการ
ผิดปกติ ออกมาให้ปรากฏ ด้วยกิริยาท่าทาง กระตุ้งกระติ้งก็ดี หรือการแสดงออก
ซึ่งความกำหนัด ยินดีต่อเพื่อนภิกษุ หรือ สามเณร ด้วยกัน เมื่อชัดเจนว่าเป็นตุ๊ด
เป็นเกย์แน่แล้ว ก็ควรจัดการให้สึกทันที ไม่ควรต้องไปพิจารณา หากรอบ
ที่เหมาะสมให้พระเกย์พระตุ๊ดปฏิบัติ มิฉะนั้น อาจทำให้พระทั้งวัด เสียความบริสุทธิ์
เพราะถูกตุ๊ด ข่มขืน เลยพากันปาราชิก ไปหมดวัดเลยก็ได้
(เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๕๘ กันยายน ๒๕๔๖) |