>เราคิดอะไร

กติกาเมือง - ประคอง เตกฉัตร -
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

ปืนหมด ลดปัญหา

ผู้เขียนเคยเขียนเรื่องอาวุธปืนมาแล้วหลายครั้ง ครั้งแรกผู้เขียนชี้ให้เห็นความผิดต่างๆ เกี่ยวกับอาวุธปืน และการขอใบอนุญาต ตลอดจนค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการมีใช้หรือผลิตอาวุธปืน ซึ่งเป็นราคา ที่กำหนดไว้ นานแล้วและถูกมาก ทั้งระเบียบต่างๆ ในการมีและใช้อาวุธปืน ตลอดการพกพานั้น กระทำได้ง่ายมาก การตรวจสอบย้อนหลัง หลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว ถึงพฤติกรรม ของผู้ได้รับ อนุญาต ให้มีและใช้อาวุธปืน ตลอดจนพกพา แทบจะไม่มีผล ในทางปฏิบัติ และมีน้อยมาก ในการเรียก ใบอนุญาตคืน

ต่อมาผู้เขียนได้เขียนเสนอเรื่องอาวุธปืนอีกครั้งหนึ่ง เรื่องการเข้มงวดในการขอออก ใบอนุญาต พกพาอาวุธปืน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนปัจจุบัน ซึ่งผู้เขียนขอชื่นชม ในความกล้าหาญ ที่ผิดแผกแตกต่างจากอดีตรัฐมนตรี-ว่าการกระทรวงมหาดไทย ยุคก่อนๆ หรืออาจจะเป็น เพราะสถานการณ์แตกต่างกัน หรือสภาพการเมืองของเราต่อเนื่อง และมั่นคงขึ้น ก็อาจจะเป็นได้ เพราะการออกใบอนุญาต ให้มีและใช้ ตลอดจน พกพาอาวุธปืนนั้น ล้วนแต่เป็นระบบ ต่างตอบแทน ทั้งเป็นการล่าบริวารได้มาก และสร้างหัวคะแนนได้อย่างมั่นคง แต่ท่านกลับทำ ในสิ่งตรงกันข้าม โดยท่านเห็นแก่ความสงบสุข ของสังคมประเทศชาติเป็นหลัก งดการออกใบอนุญาต พกพา

ผู้เขียนยังได้เคยเขียนถึงปัญหาอาชญากรรมที่ใช้อาวุธปืนและวัตถุระเบิดเป็นอุปกรณ์โดยเฉพาะ อาวุธปืน ที่มีหมายเลขทะเบียนถูกต้อง และยังได้แก้ข้อกล่าวหา ของพ่อค้า อาวุธปืน ที่กล่าวโต้แย้ง ท่านรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย คนปัจจุบัน เรื่องการไม่ออก ใบอนุญาตให้มี หรือพกพา อาวุธปืน ติดตัว ทำให้การจำหน่ายอาวุธปืน มีปัญหาและลดน้อยลง

มาวันนี้ผู้เขียน แทบจะหลั่งน้ำตา ด้วยความตื้นตันใจ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีท่านพูดอีกว่าอีก ๖ ปี ประเทศไทย จะปลอดอาวุธปืน ร้านขายอาวุธปืนต้องเตรียมตัวประกอบอาชีพอื่น เหตุที่ผู้เขียน เกิดความตื้นตันใจมากเพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดาๆ แต่เป็นตำแหน่งสูงสุด ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในประเทศนี้และสิ่งที่ท่านพูด ท่านตั้งใจ ที่ผ่านมานั้น ล้วนแต่มีผลงาน เป็นที่ประจักษ์มาแล้วหลายเรื่อง จนบุคคลทั่วไป สามารถสัมผัสได้ ถ้าท่านตั้งใจ และเดินหน้า ในเรื่อง การปราบปรามอาวุธปืนแล้ว ผู้เขียนเห็นว่า ประเทศไทยคงจะได้รับความสงบสุขเป็นแน่แท้ และ กล่าวได้ว่า เป็นเมืองพุทธศาสนา อย่างแท้จริง ขอวิงวอน ให้คณะที่ประสงค์ จะให้พุทธศาสนา เป็นศาสนา ประจำชาติ ช่วยรณรงค์เรื่องนี้ด้วยเถิด

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้เสนอให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งของรัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ รับฝาก อาวุธปืน ของบุคคลทั่วไปที่มากกว่า ๑ กระบอก และ ออกกฎหมายจำกัด ให้แต่ละคน มีอาวุธปืน ไม่เกิน ๑ กระบอก และรับฝากอาวุธปืน ของเจ้าของที่ถึงแก่ความตาย ระหว่าง ที่รอทายาท เข้าจัดการ มรดก และตรวจสอบ คุณสมบัติ เพื่อรับมรดก และอนุญาต ให้ทางรัฐบาลบังคับขาย อาวุธปืน สำหรับ บุคคล ที่ถึงแก่ความตาย แล้วทายาทมีคุณสมบัติ ไม่เหมาะสมที่จะรับ มรดกอาวุธปืน ดังกล่าว หรือบังคับซื้อใช้ ในราชการ

การปราบปรามยาเสพติดเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่สังคมไทยได้รับอานิสงส์จำนวนมาก แม้ศาลเอง ก็ลดคดีความที่ศาล ซึ่งมีประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ออกไปได้ เดิมนั้น การทำคดี แต่ละวัน ต้องมา เสียเวลา กับคดียาเสพติด ซึ่งแต่ละวันมีจำนวนมาก เมื่อรัฐธรรมนูญ กำหนดให้มี การพิจารณาต่อเนื่อง และครบองค์คณะ จะทำให้ผู้พิพากษา ที่มีอยู่ ต้องลด การพิจารณาคดีลง ครึ่งหนึ่ง เพราะต้อง พิจารณา คดีร่วมกันสองคน และกฎหมายกำหนดให้พิจารณาคดี แบบต่อเนื่อง เดิมเข้าใจว่า ต้องมี คิวยาว ต่อไป อย่างน้อย นับแต่วันฟ้อง เป็นเวลา ประมาณ ๒ ปี แต่เมื่อนำคดียาเสพติด ออกไป จากศาล เพราะรัฐบาลได้ปราบปราม ขบวนการยาเสพติด อย่างเด็ดขาด ทำให้คิวต่างๆ ลดลงเหลือ ประมาณ ๑๕ เดือนและต่อมา ลดลงเหลือ ๑๒ เดือน และปัจจุบันที่ศาลจังหวัด นครศรีธรรมราช การฟ้องคดี สามารถพิจารณาให้เสร็จสิ้นไม่เกิน ๑๐ เดือน ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก ต่อสัก ระยะหนึ่ง ผู้เขียนเห็นว่า ในระยะเวลาเพียง ๘ เดือน ทุกคดีที่เข้ามาสู่ศาล ก็จะเสร็จสิ้นทั้งหมด ปัญหานักโทษ แออัด ที่ในเรือนจำ ซึ่งแต่ละเรือนจำ กำลังทำโครงการ ของบประมาณ เพื่อสร้าง เรือนจำใหม่ ก็จะชะงักลง นักโทษเริ่มลดลง ความแออัดในเรือนจำ เริ่มบรรเทาลง คนออกจากคุกมาก กว่าเดินเข้าไป ในคุกมากขึ้น พนักงานสอบสวน ทุกสถานีตำรวจ ลดงานลงทันตาเห็น อัยการก็ทำงาน เบาลง

ถ้านายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาอาวุธปืนยกเลิกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนตลอดจนการพกพา และยินดีรับซื้อคืน อาวุธปืนเหมือนอย่างเช่น รัฐบาลเวนคืนที่ดิน เพื่อสร้างถนน หนทางแล้ว ผู้เขียน เห็นว่า เป็นวิธีหนึ่ง ที่สามารถปัญหาอาชญากรรม ในประเทศไทยลงได้ แต่การกระทำการ ดังกล่าวนี้ ต้องวางแผนเป็นลำดับขั้นตอน ให้แนบเนียน เพื่อมิให้บุคคล ที่มีอาวุธปืน ไว้ในครอบครอง ขณะนี้ ต่างลุกฮือขึ้นจนก่อให้เกิดการจลาจล หรือ สร้างปัญหา ทำให้ยุ่งยาก ในการลดอาวุธปืน ลงอีก และ ผู้ที่สะสม อาวุธปืนโบราณ รัฐก็ต้องพร้อมเปิดพิพิธภัณฑ์อาวุธปืน ประจำเมืองต่างๆ ระบุเจ้าของ ที่รับบริจาค หรือบังคับซื้อมา

การร่างกฎหมายเพื่อกำหนดหรือลดการมีและใช้อาวุธปืนนั้นต้องมีเป็นลำดับขั้นตอนไป มิใช่กระทำการ ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา อันสั้นแม้ต้องให้เวลาถึง ๑๐ ปี หรือมากกว่า ๑๐ ปี ก็คุ้มค่า ที่พยายาม ที่เดินทาง ถึงจุดดังกล่าว การออกกฎหมายอาจจะทำเป็นบทเฉพาะกาล กำหนดโทษเป็นระยะๆ ไว้โดย การค่อยๆ เพิ่มโทษในอาวุธปืน แต่ละชนิด ให้มากขึ้น จนถึงขั้นประหารชีวิตเช่นเดียวกับ ประเทศ เพื่อนบ้านของเรา อย่างประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย หรือประเทศสิงคโปร์ การจำแนกโทษ การมี และใช้อาวุธปืนนั้น ต้องมีการแยกแยะ ระดับโทษมากกว่าเดิม ต้องตรวจสอบ อานุภาพของ อาวุธปืน แต่ละชนิด และกำหนดโทษ ให้ลดหลั่นกันไป มากกว่าเดิม การทำผิด เกี่ยวกับอาวุธปืน ในกรณีต่างๆ ต้องแยกย่อยลงให้มากกว่าเดิมและสุดท้าย ต้องมีความมุ่งหมาย ไปสู่การกำจัด อาวุธปืน ให้หมดไป จากประเทศไทย โดยกำหนดบทเฉพาะกาล โดยเอาวันเวลา การรับโทษให้ค่อยๆ หนักขึ้นๆ ค่าธรรมเนียม ต่างๆ ต้องเพิ่มขึ้นให้สูงพอที่คนที่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ที่จะมีอาวุธปืนไว้ได้ ในช่วงแรก และค่อยๆ ลดบทบาท เพิ่มเงื่อนไขต่างๆ เข้าไปให้อาวุธปืนหมดสิ้นไป จากประเทศไทย ให้จงได้ หรืออาจจะปีแรก จัดการกับอาวุธสงคราม และปืนเถื่อนก่อน ให้มีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ในปีถัดไปก็เพิ่มโทษการค้าอาวุธปืน วัตถุระเบิดให้สูงสุดถึงประหารชีวิต รวมทั้ง การผลิต ทุกรูปแบบ และหยุดออกใบอนุญาตทุกชนิด แล้วทยอยกำหนดใบอนุญาตเก่าๆ ให้ทยอย หมดอายุ แล้วทยอยเพิ่มโทษ การมีและใช้ ให้ถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต

ปัจจุบันคดีอาชญากรรมที่เกิดจากอาวุธปืนผู้ต้องหาหรือจำเลยที่มาเกิน ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ศาลต้อง ยกฟ้อง เพราะการตรวจสอบ ของพยานหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์ หรือเทคโนโลยี ในประเทศไทยนั้น นับว่า ทำได้น้อยมาก ทั้งเสียค่าใช้จ่ายในอัตราสูง รัฐไม่สามารถ เจียดงบประมาณ หรือแบ่งจัดสรร งบประมาณ ไปให้ทุกส่วนราชการ หรือทุกท้องที่ให้มีทุนทรัพย์พอที่จะไปพิสูจน์ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หลังจากเกิดคดีได้ ส่วนพยานบุคคลนั้น การทำลายล้างชีวิตและร่างกาย ด้วยอาวุธปืนนั้น ไม่ต้อง ประชิดตัว การลอบทำร้ายก็ดี การลอบฆ่าก็ดี สามารถกระทำได้โดยง่าย ถ้าเปลี่ยนอาวุธปืน เป็นมีด หรือดาบ หรือของมีคมอื่นๆ การประหัตประหารกัน การทำร้ายกัน ก็ต้องเข้าประชิดตัว ทั้งไม่มีอานุภาพ ร้ายแรง ที่จะทำให้ถึงแก่ความตายได้ทันที พยานหลักฐานต่างๆ ย่อมมีร่องรอยชัดเจน พยานบุคคล ย่อมมีมาก ผู้ที่ประพฤติตนมิชอบ และกระทำตัวเป็นผู้ร้ายหรือผู้มีอิทธิพล ก็ไม่สามารถดำเนินการ รอดพ้น จากพยานหลักฐานได้ ทั้งพยานบุคคล ก็แน่นหนารู้เห็น ทั้งพยานอื่นๆ ไม่ว่าเสียง ไม่ว่าเลือด ไม่ว่าเครื่องแต่งกาย ตลอดจนยานพาหนะที่คนร้ายใช้หลบหนีล้วนอยู่ในสายตา ของผู้เสียหาย หรือ ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งแตกต่างกับการกระทำโดยใช้อาวุธปืน โดยสิ้นเชิง ที่ผู้กระทำไม่จำเป็น ต้องแสดงตัว ทั้งกระทำได้ ในระยะไกล ปัญหามือปืนรับจ้างก็ดี ปัญหาผู้มีอิทธิพลก็ดี การพิทักษ์รักษา ทรัพยากร ธรรมชาติ ล้วนแต่บังเกิดผลดีตลอดไป

ปัจจุบันนี้บุคคลที่อนุรักษ์หวงแหนทรัพย์สมบัติของทางราชการหรือส่วนรวมหรือของประเทศชาติ แทบไม่มีโอกาสได้พูด หรือแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวได้รับอันตรายจากอาวุธปืน ทำให้พฤติการณ์ ตลอดจน นิสัยและ วัฒนธรรมของสังคม ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นจำนวนมากในทางที่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์ เนื่องด้วยอาวุธปืนที่แพร่หลายอยู่ในขณะนี้

ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลชุดนี้พยายามมุ่งมั่นที่จะแก้ไขเรื่องอาวุธปืน เท่ากับ ท่านได้ มุ่งมั่น ที่จะสถาปนา วัฒนธรรม ของประเทศชาติ ขึ้นมาใหม่ทำให้คนไทยกล้าที่จะพูด กล้าที่จะคิด กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ตลอดจนกล้า ที่จะรวมตัวกันพิทักษ์รักษา สิ่งที่ถูกต้อง ต่อต้าน สิ่งที่ไม่ถูกต้อง นับเป็นคุณูปการ ต่อประเทศชาติ เป็นอย่างสูงยิ่งอย่าง ไม่เคยปรากฏ ในประวัติศาสตร์ ชาติไทยมาก่อน ปัญหาทุกปัญหา จะลดลง ขบวนยุติธรรม จะศักดิ์สิทธิ์ และมี ความมั่นคงขึ้น ทางราชทัณฑ์ และเรือนจำต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องดูแลผู้ร้าย หรือบุคคลจำนวนมาก เจ้าพนักงานตำรวจ และอัยการ ตลอดจนศาล ไม่ต้องใช้งบประมาณ และบุคคลากร จำนวนมาก เพิ่มเติม ปัญหา ทุกปัญหา จะลดลง ปัญหาแพะรับบาป ปัญหาการจัดการในขบวนการยุติธรรม ที่เสียเปล่า ทั้งหลาย จะได้กลับมาสู่เนื้อหาสาระที่แท้จริง และบุคคล ที่กระทำความผิด จะได้รับโทษ อย่างถูกต้องแท้จริง ปัญหาที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินค่าทดแทนให้กับบุคคลดังกล่าว ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ ก็จะน้อยลง เพียงแต่รัฐบาล เอาจริงเอาจัง ในการแก้ไข ปัญหาอาวุธปืน ตามที่ได้กล่าวไว้ หรือไม่

และผู้เขียนขอส่งเสียงเชียร์และขอวิงวอนอ้อนออดผู้ที่อ่านบทความนี้ทั้งหลาย ให้ช่วยส่งใจ ให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐบาลชุดนี้ พยายามมุ่งมั่น ที่จะแก้ไข ปัญหา ของประเทศชาติ โดย พยายาม จะลดเลิก และปราบปรามอาวุธปืนทุกชนิดเพื่อมิให้มีในประเทศไทย อีกต่อไป เพื่อความสงบสุขถาวร ของประชาชนชาวไทย และ บุคคลทั่วไป ทั้งมวล ที่พึ่งพระบรมโพธิสัมภาร ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่ในแผ่นดินนี้อย่างทั่วกัน

(เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๕๙ ตุลาคม ๒๕๔๖)