มาเติมเต็มให้โลก ดีกว่าไหม...- วิมุตตินันทะ -


เมื่อซัดดัมถูกจับ กลายเป็นข่าวใหญ่น่าตื่นเต้นไปทั้งโลก ในฐานะที่เคยอหังการพาอิรักเป็นปฏิปักษ์กับอเมริกา จนกระทั่งบุชสวมวิญญาณสุนัขจิ้งจอก ปั้นน้ำเป็นตัวหาเรื่องลูกแกะว่าสะสมอาวุธเคมีร้ายแรง อุตส่าห์บุกอิรักจนราบเป็นหน้ากลองเพียงเพื่อจับซัดดัมคนเดียว แม้บัดนี้ยังไม่เจออาวุธเคมีสักนิดหนึ่ง

ซัดดัมให้บทเรียนสำคัญแก่โลก ในวิถีต่อสู้จะเห็นได้ว่ามันล้มเหลวป่นปี้เพียงใด ที่กล้ายอมหักแต่ไม่ยอมงอ ยิ่งเมื่อมาเจออันธพาลโลกอย่างอเมริกาแล้ว ถอยไม่เป็นเลย จึงไม่มีทางตั้งหลัก และดับฝันวันที่จะรุกสู้ต่อ

สมมุติเล่นๆว่า ถ้าซัดดัมไม่รักตัวเองยิ่งกว่าชาติ แค่เสียสละส่วนตัวลี้ภัยไปหน่อย เรื่องไม่ลงเอยสุดสังเวชแบบนี้

โลกธรรม ลาภยศสรรเสริญโลกียสุข และทิฐิมานะ นำพาให้คนเมาและมืดบอดดังที่เป็นไป

ออกจะเป็นบุญหูบุญตา สำหรับคนในยุคนี้ที่ได้รู้ได้เห็นอุทาหรณ์ซัดดัม แล้วรู้จักสำนึกดี มีปัญญาปลงธรรมสังเวช เพื่อสอนตัวเองให้หันมาคิดใหม่ทำใหม่ในทางทวนกระแสโลกียวิสัย อย่างไรบ้าง

ในทางสงคราม หากเอาชนะอย่างสง่างามด้วยสันติวิธีไม่ได้ สู้ยอมแพ้ในทันทีไปเลยดีกว่า สันติภาพจะเกิดขึ้นในทันควันอย่างประหยัดที่สุด โดยไม่ต้องให้เปลืองเลือดสักหยดด้วยซ้ำ วิสัยทัศน์วิถีพุทธดังว่านี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

อเมริกา เป็นมหาอำนาจที่ฉลาดน้อยอยู่ ชาติเล็กๆ ทั้งหลายหากฉลาดกว่าก็ไม่จำเป็นต้องไปแข่งสะสมอาวุธตามอเมริกา ปล่อยให้เขาบ้าไปผู้เดียว เมื่อไม่มีใครไปสู้รบตบตีด้วยอาวุธบ้าทั้งหลายของอเมริกา ย่อมกลายเป็นเศษเหล็กทันที แม้จะยึดประเทศใดได้บ้างมันก็ครอบครองจริงๆ ไม่ได้ ดังกรณีอิรักเป็นต้น

เพราะฉะนั้น มันน่าคิดเหมือนกันว่า ถ้าเราไม่อยากมีใครเป็นศัตรู ก็อย่าไปยกย่องนับถือผู้นั้นเป็นคู่ต่อสู้ของเราเป็นอันขาด ตามหลักแพ้เป็นพระชนะเป็นมาร

แม้บุชจะชนะซัดดัมไปแล้ว แต่สงครามล้างแค้นคงจะจองเวรจองกรรมกันต่อไป ตราบใดที่ยังไม่ยอมหยุดสร้างศัตรู หรือไม่ยอมเลิกกัดแบบสัตว์ป่าพันธุ์แท้

ใช้กฎหมายไร้สำนึกดี
มองเมืองเทศแล้วดูบ้านเรา ข่าวตำรวจสน.โคกคราม ทำงามหน้า จับเด็ก ๙ ขวบ แค่ขี่จักรยานโดยประมาทผิดกฎจราจร ส่งเข้าคุกสถานพินิจและคุ้มครองเด็กฯ นายใหญ่โดดมาให้ท้ายลูกน้องว่าทำถูกกฎหมายทุกอย่างแล้ว ข้างกรมพินิจฯ ก็พิลึก อ้างว่าตำรวจมีอำนาจพาเด็กมาขังเต็มที่ จะไปแทรกแซงอำนาจตำรวจไม่ได้เลย ประหลาดที่ทุกฝ่ายถือแต่กฎหมายซื่อบื้อโดยไม่ยอมใช้หัวคิดบ้างเลยว่ามันชอบธรรมแค่ไหนหรือ มันตรงเจตนาของกฎหมายที่ต้องกำราบคนผิดตามโทษานุโทษเพียงใด ทำไมต้องปล่อยให้ตำรวจไทยมีอำนาจล้นฟ้าปานนี้ พอตำรวจเป็นโจรบ้างใครจะกล้าจับตำรวจได้ ผู้กล้าหาญทางจริยธรรมไปไหนหมด

มันพอๆ กับรัฐบาล กฎหมายร่างกันมาผิดๆถูกๆ ผ่านสภาที่ตัวเองผูกขาดได้ แม้รู้ทั้งรู้ว่ามีผิดรัฐบาลก็เสนอทูลเกล้าโดยอ้างว่าไม่มีทางเลือกอื่น

นี่คือวิสัยทัศน์อันตื้นเขิน ในยุคคิดใหม่ ทำใหม่ โดยใช้อำนาจเป็นธรรมแต่ไม่ถือธรรมเป็นอำนาจ

ไม่สร้างคนพันธุ์ใหม่ จะแก้อะไรไหว
กระแสทักษิโณมิกส์ ในยุคมีเงินทองพูดได้ ใครๆ ก็ต่างหายใจเป็นเงินทั้งนั้น พอหาเงินตามธรรมดาไม่ได้ คนก็คิดนอกลู่นอกทางไปตามวิสัยจึงไม่แปลกอะไรที่คนคิดรวยลัด ครั้นจะตัดช่องย่องเบา มันเข้ายากเพราะเจอเหล็กดัด ปล้นจี้ข้างถนนบนสะพานมันจึงเป็นข่าวบ่อยๆ แท็กซี่เขียวเหลืองไร้สังกัด ไม่จัดระเบียบคัดเลือกคน โจรห้าร้อยก็ขับได้ ผู้หญิงถึงเป็นเหยื่อซ้ำซาก

เมื่อไม่ปัดกวาดบ้านให้สะอาดน่าอยู่ แล้วจะไปชวนใครเขาเข้ามาท่องเที่ยวมันขายขี้หน้าจังเลย เมื่อใดสามารถจัดการบ้านเมืองให้ปลอดภัยอบายมุขทุกชนิด นอกจากยาบ้าแล้วหวยบ้ามันน่าห่วงใช่เล่นเสียเมื่อไหร่ คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น ไม่ต้องทำมาหากินอะไรแล้ว ตราบใดข้าวผ้ายาบ้านไม่อุดมสมบูรณ์ เศรษฐกิจอะไรมันจะเฟื่องฟูนอกจากฟองสบู่ลอยลม โดยเฉพาะการพนันผีบ้า เอื้ออาทรให้ประชาชนมอมเมาหมกมุ่น มันดูดเงินคนจนทั้งนั้นเลย เมื่อเข้าตาจนหนีไม่พ้น โจรกรรมอาชญากรย่อมเพิ่มพูน ขนาดคนไทยยังอยู่ไม่เป็นสุขกับภัยรายวันแล้วจะเอาอะไรไปโฆษณาชวนเชื่อใครให้มาเที่ยวเมืองไทย จะชวนเขามาเป็นเหยื่อเสี่ยงตาย ไม่โหดไปหน่อยหรือรัฐบาลที่รัก!

แค่คิดก็มิจฉาทิฐิแล้ว
โรงหวยยุคทักษิณ ไปโลดจนน่าเป็นห่วง ในขณะที่รัฐบาลเป็นปลื้มเหมือนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เอาหวยใต้ดินมาเป็นหวยบนดินถูกกฎหมายยังไม่สะใจ โรงหวยโฆษณาชวนเชื่อมอมเมาคนหนักข้อขึ้นอีก โดยเอาทุนการศึกษาเด็กมาบังหน้ากลายเป็นว่าซื้อหวยได้ช่วยชาติเป็นบุญอีกต่างหาก ล่าสุดเชิญพวกพิธีกรรายการทีวี ไปช่วยหมุนล้อออกหวย ล้วนแล้วแต่ยั่วยุให้คนเล่นหวยสาหัสขึ้นทั้งนั้น นรกบนดิน ขืนยิ่งขยายวงมากขึ้นเท่าไหร่ มันยิ่งพ
าหายนะเท่านั้น น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ยอมเข้าใจดังว่านี้ ซ้ำร้ายจะคิดอ่านอนุญาตให้เปิดอัครสถานบันเทิงครบวงจรยิ่งใหญ่ไปโน่นอีก...

บ่อนกาสิโนโดดๆ ภาพลักษณ์คงจะน่ารังเกียจเกินไปหรืออย่างไร ใครเข้าไปย่อมโดนตราหน้าว่าเป็นนักเลงผีพนัน อย่ากระนั้นเลย ออกรูปมั่วนิ่มอำพรางให้มีสถานบันเทิงบังหน้า ผู้คนจะได้กล้าเข้าไปทุกระดับ

ไม่รู้คิดออกมาได้ยังไง แทนที่จะเลวน้อยในหมู่ผีพนันจำกัดแวดวง กลับกลายเป็น เปิดกว้างให้คนตกนรก กันมากมาย เช่นหน้าใหม่เป็นผู้หญิงวัยรุ่น เด็กเล็กจะมีโอกาสอยากลอง เสร็จแล้วมีสิทธิ์ตกเป็นทาสพนันโงหัวไม่ขึ้น อันนี้นับเป็นความฉลาดของนายทุนที่พยายามหลอกล่อคนตกนรกน้อยใหญ่ให้สำเร็จมากๆ แม้ไม่ต้องเจาะลึกอะไร
ถึงไหน น่าจะฟันธงตรงประเด็นว่า คอมเพล็กซ์เอนเตอร์เทนเมนท์ หรือ บ่อนพนันบันเทิงครบวงจร อะไรนั่น มันพาฉิบหายกว้างไกลล้ำลึกกว่าบ่อนพนันธรรมดาหลายเท่านัก

โลกพร่องอยู่เป็นนิจ
พระพุทธสุภาษิตข้างต้น พระบรมศาสดา ทรงเทศนาไว้ตั้งสองพันกว่าปีแล้ว ยุคนี้โลกยิ่งวุ่นวายกว่าสมัยโน้น ไม่รู้กี่พันเท่า ธรรมดาวิสัยโลกเราจึงเห็นการยื้อแย่งแก่งชิงเหมือนเป็นเรื่องปกติ คนต้องเอาเปรียบเพื่ออยู่รอด กลายเป็นว่าโลกย่อมไม่ยุติธรรมเป็นธรรมชาติ

ถ้าเราจะเรียกร้องอะไรจากใคร มันเป็นปัญหามาตลอดเวลา และรู้สึกว่ามันไม่เห็นยุติธรรมเลยเราจะอกหัก เสียความรู้สึก ไม่มีอะไรดีขึ้น

ในทางกลับกัน แทนที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา เหมือนเป็นผู้ขาดแคลนหิวโหยพึ่งตัวเองไม่ได้ เราควรจะถอนตัวจากฐานะผู้แย่งแข่งขันกันเอาเปรียบ มาเป็นผู้เสียเปรียบเพราะเสียสละโดยเต็มที่เต็มใจ แทนที่จะเอา เราควรเป็นผู้ให้จะดีกว่าไหมเราท่านทั้งหลาย!

เป็นไปได้ที่เราจะกล้าให้มากกว่ากล้าเอา เพียงรู้จักคุ้นเคยกับความมักน้อยสันโดษ มีใจพอ น้อยก็พอเพียง หัดเลี้ยงชีวิตเรียบง่าย ขยัน สร้างสรร เสียสละอดทนแบบนี้ มันจะพากล้าจนได้ง่ายได้สบาย

โลกย่อมแข่งกันแย่งชิงจนเกิดขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา เราไม่จำเป็นต้องไม่เพิ่มหมู่มวลสมาชิก เติมความเดือดร้อนให้เพิ่มขึ้นอีก

รู้สึกไหมว่า ตอนเด็กที่ยังไม่ต้องห่วงหาอะไรมาก รู้สึกสบายดีเหลือเกิน ยิ่งรู้ความ ยิ่งโตขึ้นมีเรื่องต้องการสารพัด มันยิ่งยุ่งเหยิงวุ่นวาย แสดงว่าชีวิตเราท่านมันเดินไปผิดสูตรเป็นแน่เทียว

แม้ตัวจะโตขึ้น อายุมากขึ้น ใช่ว่าจะต้องกินใช้ดื่มเสพอะไรมากขึ้นกว่าเด็กน้อยสักกี่เท่านัก ไฉนผู้คนจึงไม่อาจใช้ชีวิตเรียบง่าย ให้คล้ายๆ เด็กเลี้ยงง่าย จักไม่ได้เชียวหรือ คนมักชอบอ้างภาระทีต้องแบกหามต่างๆ นานา แต่ก็น่าคิดว่า ถ้าเราไม่ต้องไปสนองกิเลสตามใจไม่รู้จักพอของใครๆ เราจะมีมาตรฐานเอาตัวเป็นประมาณ เมื่อตัวเองเป็นคนเลี้ยงง่ายพึ่งตัวเองได้ดี เราย่อมมีปัญญานำพาอุ้มชูแบกหามคนอื่นใด ให้อยู่รอดเจริญขึ้นในวิถีทางที่เราเติบโตมาได

ผู้นำกล้าหาญเข้มแข็งได้ขนาดไหน ย่อมนำทางคนอื่นตามได้ประมาณนั้น

ปีเดือนที่ผ่านพ้นทุกวันคืน โลกได้ให้บทเรียนธรรมสังเวชตลอดเวลา การพึ่งตนเองจนเป็นไทและให้คนอื่นพึ่งพาได้ต่อไป ในวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ย่อมช่วยเติมเต็มให้กับชีวิตอย่างสำคัญ

 

- เราคิดอะไร ปีที่ ๑๐ ฉบับที่ ๑๖๒ มกราคม ๒๕๔๗ -