คุยนิดคิดหน่อย
- บรรณาธิการ -

เพราะชาติไทย ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือเหล่าใดเหล่าหนึ่งจะริอ่านผูกขาดเป็นเจ้าของได้ ชาติไทยเป็นของคนไทย ถ้วนหน้าเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้า หรือยากจนคับแค้น แสนสาหัสปานใด ก่อนจะก้าวไปข้างหน้า เหลียวหลังมองดูร่องรอย ย่างก้าวที่ผ่านพ้นมา ด้วยความสงบเย็น ยอมรับรู้ความจริงตามความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในจิตใจตนเอง และ ที่ดำรงอยู่รอบตัว

บทกวีของ "จันทร์ วรลักษณ์" ที่บังเอิญพบในถุงใส่เศษกระดาษ ณ โรงพิมพ์แห่งหนึ่ง

"คุณได้ตื่นลืมตาในยามเช้า
ประทับรอยเท้าก้าวใหม่
แต่มิเห็นรอยเท้าที่ก้าวไป
เพราะคุณใส่รองเท้าตลอดเวลา
เมื่อคุณถอดรองเท้า
ยามเช้าของคุณบนยอดหญ้า
กรวดหินดินทรายไร้มายา
ก็จุมพิตวิผัสสาอยู่ลึกซึ้ง
รอยอรุณ... อบอุ่นเลือดเนื้ออีกวันหนึ่ง
ดั่งไฟได้ฟืนชื่นคำนึง
เข้าถึงอัศจรรย์แห่งมรรคา"

และ ส.ค.ส. ๒๕๔๗ ของหนังสือพิมพ์มติชน รายวันมีอะไรดีๆ น่าขบคิดประเทืองปัญญา

"ลาทีปีเก่าอย่าเมาใหม่
ตั้งสติแจ่มใสในทุกที่
ตรวจใหม่สอบใหม่เขาให้ดี
เขาเอาชีวีเราเดิมพัน
จะใหม่ต้องใหม่ดีมีคุณค่า
มีศีลธรรมจรรยาสร้างสรรค์
ใช่ใหม่เอาแต่ได้ไม่ว่ากัน
แข่งขันทำกำไรไม่เคยพอ
ต้องเสมอกันโตด้วยโอกาส
อำนาจคนไทไม่ต้องขอ
กติกาตราไว้อย่าไปรอ
ไม่ชอบอย่ารอต้องเรียกร้อง"

ผสานด้วยกวีของ "จันทร์ วรลักษณ์" อีกบทหนึ่ง

"อำนาจเงินอำนาจรัฐอำนาจเถื่อน
ทำผ้าเปื้อนให้เห็นเป็นผ้าขาว
แม้ก้อนดินก็อาจเห็นเป็นดวงดาว
แต่ชั่วคราวเท่านั้น...อย่าหวั่นเลย"

นักการเมือง ข้าราชการ ไม่ว่าคนใด พรรคใด หรือสังกัดใด หากเอาเงินทองงบประมาณ หรือทรัพย์สิน ของชาติไปแจกจ่ายบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชน หรือมอบเงินออม คืนให้ประชาชน เจ้าของเงิน เจ้าของทรัพย์ แล้วโน้มน้าวให้สำนึก กตัญญู กตเวทีนั้น ลองทบทวนดูทีรึ มันเป็นบุญเป็นคุณ ที่น่าประทับใจตรงไหน ก็เงินของเขาเองแท้ ๆ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าตอบแทน สวัสดิการ และช่องโอกาส สารพัดประโยชน์ ที่เหล่าคนที่แสดงบทบาท ผู้มอบเสพสุขอยู่ มิรู้อิ่มพอนั้น ไม่น่าชวนสำนึก ในพระคุณ ของประชาชนยิ่งกว่าดอกหรือ

การให้ทรัพย์สิน เลือดเนื้อ ชีวิตของตนถึงขั้นจาคะสละขาด โดยไม่หวังผลใดสนองตอบ ย่อมเป็นบุญยิ่งนัก แต่การใช้ทรัพย์สิน ของแผ่นดิน เลือดเนื้อ ชีวิตของผู้อื่นสนองตัณหาของตน เป็นบาปมหันต์ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ กรรมนี้มีจริง ซ่อนเร้นปกปิดผู้อื่นใดได้ แต่ตนเอง... แจ้งใจทุกขณะ

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ -