เรื่องอย่างนี้ต้องช่วยกันเผยแพร่
พ่อหลวงคิดอะไร ตอนจบ - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล - กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ๔ ก.ย. ๔๕ ณ ศาลากลาง จ.นครราชสีมา และเรื่องง่ายๆ เปลี่ยนพฤติกรรมของเราไปเสีย ยกตัวอย่าง ห้องประชุมห้องนี้ เป็นต้น หรือว่าเราจะประหยัดไฟ และประชุมห้องนี้ ก็เหมือนกับหอประชุมทุกแห่ง แม้กระทั่ง ในสถาบันการศึกษา แต่เราปิดบ้านหมด ลองสังเกตดู ของฟรีไม่ให้เข้าห้อง พระอาทิตย์ไม่เคย ส่งใบเสร็จ มาเก็บเงินตอนปลายเดือน บางมหาวิทยาลัย แสงเข้าทั้งสองข้าง รูดม่านหมด ปิดหมด แล้วเปิดไฟทุกดวง แล้วบอกว่านโยบายของรัฐ คือประหยัดไฟฟ้า ต้องใช้อย่างฉลาด ต้องดูให้รอบๆ เวลาคุณไปงานศพ คุณเอาหรีดไปให้ ต้นทางคือหรีด ปลายทางคือขยะ ใช่หรือเปล่า ต้องไปฝังกลบ ต้องไปเผา เดี๋ยวนี้ผมบ้าก็บ้าเถอะ เห็นว่ามีคนบ้าตามผมแล้ว ผมให้ต้นไม้ ซึ่งเป็นหรีดเหมือนกัน มาปักชื่อไว้อาลัยคนตาย ต้นทางคือหรีด พอเสร็จงานปั๊บ เอาลงหลังวัด ปลูก อีกหน่อยเป็นป่าเป็นสวน แล้วมอบให้ชุมชนอยู่รอบๆ วัดนั้นเป็นคนดูแล เดี๋ยวทอดผ้าป่า เอาม้าหิน ฝากพระคุณเจ้า ด้วยนะครับว่า หรีดเข้าวัด ไม่เอา ถ้าคนไหน เอาเข้ามา ฟังสวดเสร็จเอากลับบ้านไปด้วย มีนะครับ หลวงพ่อวัดชลประทานฯ บางคนดันทุรัง เอามาให้ ท่านบอกเอ้า อยากดื้อเอามาก็เอามา แต่พอสวดเสร็จแล้ว ขนใส่หลังรถกลับไปบ้าน คนเลยไม่กล้า เอาหรีดเข้าไป เอาต้นไม้เข้าไป แล้วเราก็บ่นกัน แหม พื้นที่สีเขียวไม่มี เทศบาลก็บอก ต้องซื้อที่ราคาแพง ไม่ครับ วัดที่เหลือเยอะแยะ โรงเรียนที่เหลือเยอะแยะ สุเหร่าที่เหลือเยอะแยะ โบสถ์ที่เหลือเยอะแยะ แล้วใครจะไม่ต้องการมั่ง เปลี่ยนพฤติกรรม นิดเดียว ไม่ต้องใช้งบประมาณ หลวงพ่อแต่ละวัดๆ มีพวกเราเป็นผู้นำชุมชน ต่อไปนี้หรีดไม่เอา ทุกคนเอาต้นไม้มาให้หมด พอเสร็จงานปั๊บ เอาลงไปเลย ออกแบบนิดหน่อย ต้นไม้ใหญ่ ปลูกตรงนี้นะ ต้นไม้เล็กปลูกตรงนี้ เดี๋ยวทอดผ้าป่า เอาม้าหินมาตั้งเข้า ชาวชุมชน ก็จูงลูกหลาน เข้าวัด ซึ่งห่างวัดมาพอแรงแล้ว แต่ไม่มีสถานที่ ที่เหมาะสมนั่งคุยกัน พอวัดปลูกเต็มที่แล้ว เอ้า งานศพคนนี้ โรงเรียนไหนจะจอง พอเสร็จงานศพ เอารถมาขนเท่านั้นเอง ขอรถใครก็ได้ ยืมรถเขาไป เอาไปปลูกที่โรงเรียนต่อ เผลอแป๊บเดียวเต็ม ง่ายๆ ผมดูงานน้าชาติ อยู่โคราช พูดถึงน้าชาติก็ได้ งานน้าชาตินี่ พวงหรีดแต่ละพวงพันกว่าบาท เป็นพันพวงแน่ะ แล้วถ้าเป็นต้นไม้ ท่านย่อมรู้ว่าต้นไม้ต้นละพันนี่มันโตแล้ว คิดดูซิได้ต้นไม้ พันต้น ปลูกเป็นสวนน้าชาติ อนุสรณ์ต่อไปเลย แทนที่จะต้องขนไปเผา งานศพแม่ผม ผมบอกไม่รับหรีด ประกาศทางการเลย ไม่รับหรีด ได้มา ๒๐�๐ อัน นี่ขนาดประกาศแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เริ่มแล้ว ผมได้ต้นไม้เยอะเลย ซึ่งเวลานี้ได้เก็บเอาไว้ เดี๋ยวสำนักงานใหม่ ไปตั้ง เอาต้นไม้ไปตั้งรอบๆ ปลูกลง แล้วต้นไม้ในกระถางหลวงพ่อก็ไปวางไว้หน้ากุฏิก็ได้ สวยงามด้วย ได้ประโยชน์ด้วย พฤติกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันเราดัดแปลงเสีย ประโยชน์มันก็เกิดขึ้นและเกิดขึ้น อย่างมากมาย ก่ายกองทีเดียว เป็นชีวิตที่เรียบง่าย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมคิดว่าที่พูดคุยกันในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องยากเย็น จิตจะทำหรือเปล่า ใจจะทำหรือเปล่า ผมคิดว่าทำ ไม่เช่นนั้นคงไม่มารวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ ขอให้ท่านทำต่อไปเถอะครับ เกษตรธรรมชาติอะไร ขอให้นึกถึงตัวเอง ให้เห็นแก่ตัวก่อน ถ้าคุณใช้สารพิษต่อไป คุณตายก่อนนะครับเบื้องต้น เอาชีวิตคุณไปเสี่ยงนะครับ เสี่ยงเสร็จแล้วยังมีบาปอีกด้วย คือผลผลิตของคุณ จะไปทำลาย ชีวิตของคนอื่นเขาด้วย และคุณทำลายแผ่นดินของคุณที่คุณยืนอยู่ ซึ่งจะต้องเก็บไว้ ให้ลูกหลานของคุณ คุณทำลายแผ่นดินของคุณด้วย ทำลายหมดทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเหลียวกลับมาเถอะครับ เอาธรรมชาตินั้นตามแนวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ธรรมชาตินั้นไปช่วยธรรมชาติ คนที่มีความรู้ ถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่อย่างมากมาย ประสานกัน เป็นเครือข่าย พอคนรู้แล้วค่อยสอนต่อ ไปบอกเล่ากันต่อ เหมือนอย่างที่ลาดบัวหลวง ชาวนา เขาบรรยายกันเอง มีนักเรียนมาหาเขาด้วย นักเรียนซึ่งเขาไม่ได้จบอะไรเลย นักเรียนที่จบแล้ว ยังต้องมานั่งจด เขารู้ด้วยความรู้จริงๆ ไล่จับแมลงมาศึกษาจริงๆ สนุกด้วย และชีวิตมีความสุข ชีวิตนั้นเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้หรอกครับ เงินมันก็มีพอสมควรเท่านั้นเอง แต่ว่าสภาพ สิ่งแวดล้อม ของคุณ อากาศคุณต้องดี สภาพแวดล้อมดี โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มี ปัญหาสาธารณสุข อะไรต่างๆ อันนั้นแหละครับที่เขาเรียกว่าคุณภาพชีวิต คุณอย่าเอาความร่ำความรวย ไปแลกกับ คุณภาพชีวิต คุณเป็นคนรวยแล้วนอนอยู่ในห้องไอซียู อย่างนั้นคุณเอาหรือเปล่า เศรษฐีพันล้าน นอนแหม็บ สายยางระโยงระยาง คุณเอาหรือเปล่า ตายบนหลังควายยังดีกว่า อย่างน้อยอากาศ ปลอดโปร่ง ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เหลียวกลับมาสู่ชีวิตจริงๆ และอย่าลืมว่าชีวิตนั้นคือชีวิตไทย ผมจะขอบอกเล่าพูดคุยกันเพียงแค่นี้ เหลืออีกประมาณ ๒๐ นาที อยากให้ท่านคุยบ้าง มีอะไรจะถาม มีอะไรจะเสนอมีอะไรจะให้ความรู้ผมบ้างเชิญครับ หรือจะให้ผมช่วยอะไรก็บอก ท่านกำนันสมคิดเชิญเลยครับ ครับ เรียนท่านด็อกเตอร์สุเมธครับ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัด พี่น้องเราทุกท่านนะครับ ที่จริงแล้ว คำว่าพลังแผ่นดิน ซึ่งผมในนาม ประธานเครือข่าย องค์กรชุมชน จัดงานวันนี้ขึ้น ผมภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่พี่น้องประชาชนทั้ง ๒ อำเภอ ๒๐๐ กว่ากลุ่มองค์กร ๔๐ กว่าเครือข่าย ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี และทางผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี เมื่อท่านด็อกเตอร์สุเมธ มาพูดเรื่องราวที่เป็นประโยชน์จริงๆ กับแผ่นดินไทย ความภูมิใจอันนี้ พวกเราประชาชนได้รับ แล้วก็ยิ่งทราบว่า ท่านต้องเลื่อนนัด หรือผิดนัด ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่สำคัญๆ ไป ผมในนามประธานเครือข่าย อดที่จะพูดไม่ได้ว่า ความซาบซึ้ง อันนี้ มันเกิดจากดวงใจ ของพวกผม คุยกันอยู่ตลอดเวลา และผมขอฝากเรียนว่า พี่น้องข้าราชการ ทุกอำเภอ ขณะนี้โครงการ พลังแผ่นดิน ของจังหวัด นครราชสีมานี้ ทำงานอยู่ทุกอำเภอ โดยมีกิจกรรมหลักๆ อยู่ ๑.เราเชื่อมร้อยเครือข่ายองค์กรชุมชนทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกหมู่บ้านของจังหวัดนครราชสีมาอยู่ ๒.เราได้ถอดรวบรวมชุดภูมิปัญญาองค์ความรู้ของชาวบ้าน ซึ่งบรรพบุรุษได้สะสมมาว่า เราอยู่ได้ตามที่ ด็อกเตอร์สุเมธ ท่านได้บอกว่า ภูมิสังคมเป็นอย่างไร รวบรวมชุดความรู้นี้อยู่ ๓.ทุกอำเภอ เราจัดให้มีการวางแผนชุมชนแบบมีส่วนร่วม โดยคัดเลือกตำบลนำร่อง อำเภอละหนึ่งตำบล กำลังดำเนิน งานอยู่ในขณะนี้ ๔.และกิจกรรมที่ ๔ คืองานตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ และพรุ่งนี้ก็คืองานมหกรรมรวมพลัง กอบกู้ วิกฤตฅนของแผ่นดิน ผมก็เลยเล่าความเป็นมาและการจัดงานต่างๆ ให้ท่านได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง ก็คงนำ ความเป็นมา และเป็นไป และแสดงความขอบพระคุณท่านไว้ ณ โอกาสนี้ ขอบพระคุณครับ งั้นขอจะจบถ้าไม่มีคำถามนะครับ ผมฝากไว้ สุดท้ายของสุดท้าย เราพูดกันคำหนึ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ คำนี้ขอให้ข้าราชการก็ตาม หรือใครก็ตาม นะครับ เกษตรกรต่างๆ นั้นให้ใช้คำนี้ เป็นหลักของชีวิต คำนั้นคือ รู้รักสามัคคี ทุกคนจำได้หมด ที่พระองค์ท่าน รับสั่งอย่างนั้น แต่ถ้าถาม ไล่ต้อนจริงๆ รู้รักสามัคคีคืออะไร นำเอาไปปฏิบัติ ในชีวิตได้อย่างไร ตอบไม่ค่อยได้ ขอทิ้งไว้ในช่วงสุดท้ายนี้ว่า คำว่ารู้รักสามัคคีนั้น ถ้าแยกความนี้ออกจะได้เป็น ๓ คำ คือ คำว่า รู้ คำว่า รัก คำว่า สามัคคี ขอฝากไว้ เป็นหลักปฏิบัติ ของพวกท่านทั้งหลายว่า จะทำอะไรก็ตาม จะคิดอะไรก็ตาม จะตามใครเขาก็ตาม สิ่งแรกที่สุดคือ ต้องรู้ก่อน รู้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ใช่คนเขาฮือกัน คุณก็เฮไปอย่างนั้น ไม่ได้ครับ ต้องรู้ก่อน รู้ต้นตอของปัญหา รู้ทางแก้อะไร ต่างๆ ให้เที่ยงแท้เที่ยงธรรมเสียก่อน รู้เสร็จแล้วพอไหม รู้เฉยๆ ไม่มีประโยชน์อะไร จะต้องมีคำที่ ๒ ตามมา คือคำว่ารัก คำว่ารัก คือความเมาตตา ความปรารถนาอย่างที่เอาความรู้ของเรานั้น ไปถ่ายทอดสู่คนอื่น หรือนำไปสู่ การปฏิบัติ ทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาแก่ชาติแผ่นดิน จำไว้เถอะครับ ให้เป็นด็อกเตอร์อย่างผม หรือเป็นใคร ก็แล้วแต่ ทำคนเดียวมันไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ให้วิเศษวิโสบนแผ่นดินมาอย่างไร ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากมายเท่าใดนัก เพราะฉะนั้น รู้แล้ว มีพลังผลักดันแล้ว อย่าทำคนเดียวครับ ให้มีคำที่ ๓ ตามมา คือคำว่า สามัคคี พวกท่านรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายอะไรต่ออะไรขึ้นมาก็แล้วแต่ ผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถระดมคนทั้งจังหวัด ข้าราชการทุกส่วนเข้ามาประสานสามัคคี ผลจะเกิดขึ้น แก่ประเทศชาติมากมาย ขอฝากไว้ว่า รู้รักสามัคคีนั้น เมื่อท่องคำนี้ได้แล้ว ให้ปฏิบัติโดยแยกแยะตามคำนี้ให้ถี่ถ้วน รู้เข้าใจปัญหา ให้มีพลังผลักดันด้วยความรัก ความเมตตา และอย่าทำคนเดียวครับ ทำเป็นหมู่เป็นเหล่า ก็ฝากไวเ้แค่นี้เป็นของขวัญครับ ขอบคุณครับ - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ -
|