หน้าร้อนปีนี้ร้อนนานและทารุณจริงๆ ทั้งในกรุงและบ้านนอก ร้อนถึงขนาดช้างป่าต้องพากันอพยพออกจากป่าเป็นโขลงๆ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งสลักพระ กาญจนบุรี อากาศร้อนมาก แห้งแล้งกว่าปีก่อนๆ ป่าที่เคยเขียวขจีมีน้ำอุดมสมบูรณ์ก็แปรสภาพเป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบโกร๋น ยืนตายกันเป็นทิวแถว

ในบรรดาสัตว์ป่าด้วยกัน ช้างเดือดร้อนกว่าเพื่อน เพราะตัวโตที่สุด ต้องกินอาหารมากที่สุด วันละเป็นตัน จึงต้องชวนกันหนีออกนอกป่าหาน้ำกิน แถมด้วยอ้อยที่กำลังโตเต็มที่แต่ยังไม่ทันตัดส่งโรงน้ำตาล ชาวบ้านแถวนั้นใจดี บอกว่าไม่เป็นไร สงสารช้าง ปล่อยให้ช้างกินบ้างเหลือเท่าไรก็ขาย

บ้านเชิงดอยที่ผมพัก อยู่ติดป่าทึบ ป่าแม้จะไม่แล้งเท่าป่าทุ่งสลักพระ แต่อากาศร้อนไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ทุกซอกทุกมุมบนบ้าน อย่าได้วางหงายถ้วยหงายชามมีน้ำติดทิ้งไว้ มดจะพากันไปอออยู่เต็ม เพื่อแย่งกันกินน้ำ หน้าร้อนปีนี้เดือดร้อนกันไปทั่วตั้งแต่มดยันช้าง

บ้านนอกหลายจังหวัดในภาคอีสานมีโอกาสให้นายกฯ ทักษิณได้เห็นความแห้งแล้ง แล้งที่บ้านนอกกับแล้งในกรุงต่างกันลิบลับ อยู่กรุงอาหารอุดมสมบูรณ์ อากาศร้อนก็ไม่รู้ร้อน มีเครื่องปรับอากาศทั้งในรถ ในห้องอาหาร และในห้องนอน แถมบางครั้งบางคืนยังต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆ กันหนาวเสียอีก ขณะที่บ้านนอกร้อนตับแตก

คืนที่นายกฯ ทักษิณ (นายกฯนกขมิ้น) นอนค้างที่ศีรษะอโศก ศรีสะเกษ พูดกับผมว่าการออกตระเวนต่างจังหวัด ค่ำไหนนอนนั่น ก็เพื่อจะให้รัฐมนตรีร่วมคณะได้เห็นความทุกข์ยากของประชาชน ซึ่งเมื่อขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีแล้วบางคนอาจจะลืม

ก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปถึง เผอิญผมต้องโทรศัพท์ถึงท่านพลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร เพื่อเชิญท่านไปสอนนักเรียนผู้นำรุ่นต่อไปเลยถือโอกาสเรียนท่านว่า นายกฯ ทักษิณได้ทำตามอย่างท่าน สมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรี เวลาไปตรวจราชการต่างจังหวัดนอนค้างวัดเป็นตัวอย่างไว้ ท่านบอกว่าได้เขียนชมในหนังสือพิมพ์มติชนแล้ว (หัวข้อ "นายกรัฐมนตรีทำดี" ฉบับวันที่ ๒๐ เมษายน)

ท่านพลตำรวจเอกธรรมะธัมโมสั่งให้ผมแนะนายกฯ ทักษิณว่า ไหนๆ ก็นอนค้างวัดศีรษะอโศก แล้ว ให้ฉวยโอกาสงดอาหารเย็น ถือศีลแปด นั่งสมาธิ คล้ายๆ จะเตือนว่า

"คนมีไตรสิกขา คือเครื่องบ่งชี้ความเป็นพุทธ"

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๖ พฤษภาคม ๒๕๔๗ -