คุยนิดคิดหน่อย
- บรรณาธิการ -
ในโอกาสใกล้จะครบวาระ ๓ ปี ใน ๖ สิงหาคม ๒๕๔๗ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ได้จัดสัมมนาประจำปี เรื่อง การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน กับการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ใน ๒๖-๒๗ มิ.ย.๔๗ ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ ชลบุรี เชิญผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ ๗๐๐ คน ประกอบด้วย สมาชิกสภาที่ปรึกษา ผู้แทนองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ส่วนราชการ และ รัฐวิสาหกิจ ผู้แทนองค์กรอิสระ สื่อมวลชน และภาคประชาชน สภาที่ปรึกษาฯ คาดหวังให้ผู้ร่วมสัมมนา โดยเฉพาะภาคประชาชน ตระหนักถึง ภาวะวิกฤตที่ทุกคน ต้องต่อต้าน กำจัดการคอร์รัปชันทุกระดับ ทุกรูปแบบ อย่างเข้มแข็ง เร่งด่วน ผมมีโอกาสเข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี อานันท์ ปันยารชุน ประธานสภา ที่ปรึกษาฯ กล่าวต้อนรับและเปิดการสัมมนา ใคร่ขอนำบางส่วน มาถ่ายทอดไว้เป็นสักขีพยานว่า การทุจริตประพฤติมิชอบ ในวงการเมืองการปกครอง ในวงราชการ และธุรกิจไทย มิใช่สิ่ง เลื่อนลอย ไร้มูลความจริง เพราะไม่มีใบเสร็จ หากมันจริงและพัฒนาลึกล้ำ แยบยล ซับซ้อนยิ่ง จนกระทั่งเป็น "การคอร์รัปชันเชิงนโยบาย" ยากที่คนทั่วไปจะตามรู้ทัน "ปัญหาเรื่องการทุจริตเป็นปัญหาสำคัญของชาติ เป็นปัญหาที่แก้ยาก มีอยู่ในทุกอณู ของพื้นที่ ไม่ว่าจะในระดับรากหญ้า หรือในระดับประเทศ หากปล่อยไว้ ไม่รีบหาหนทางแก้ไข ไม่ช่วยกัน ป้องปราม ไม่ช่วยกันสอดส่องดูแล มันจะลุกลาม จนไม่มีทางแก้ไข เพราะคนทุกวันนี้ ห่างไกล คุณธรรม ห่างไกลศีลธรรมจรรยา ยึดวัตถุนิยมและบริโภคนิยม" "... ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ซึ่งเป็นสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ...มีพระยาสองสามคน มีชื่อเสียงไม่ดี เกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่จำเป็นต้องพูดถึง มีใบเสร็จ หรือไม่มีใบเสร็จ ...พระเจ้าอยู่หัว แค่แสดงอาการกริ้วมากเท่านั้น พระยา สองสามคนนั้น จะอายจนมองหน้าใครไม่ติด จนมีคำ ติดปากว่า อายแทบ เอาหน้าซุกแผ่นดิน...ซึ่งเป็นค่านิยมที่ดี เรียกว่ามีหิริโอตตัปปะ หรือมีความ ละอายใจ เกรงกลัวต่อบาป" "แต่ปัจจุบัน...มักจะอ้างหลักฐานที่เป็นใบเสร็จตามกฎหมายว่า ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็พิสูจน์ไม่ได้ว่า คอร์รัปชัน ผมขอถามหน่อยเถอะว่า คนฉลาด มีการศึกษาสูง ที่ตั้งใจโกงกินนั้น เขาจะสร้าง หลักฐาน ให้เห็นให้จับได้หรือ ?" นี่คือส่วนน้อยของคำกล่าวเปิดการสัมมนาของประธานสภาที่ปรึกษาฯ ซึ่งเป็นถึงอดีตนายก รัฐมนตรี จึงมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับนายก-รัฐมนตรีในคณะ รัฐมนตรีปัจจุบัน ทั้งยังเป็นประธานองค์กร ตามรัฐธรรมนูญอีกด้วย ผม...ส่วนหนึ่งในภาคประชาชน ขอฝากคำถามต่อไปยัง "คนฉลาด มีการศึกษาสูง ที่ตั้งใจโกงกิน" ทั้งหลาย ที่ยังผยองเชิดหน้าชูคออยู่ในสังคมไทย สังคมโลก ณ บัดนี้ ว่า แม้ไม่มี "หลักฐานให้เห็น ให้จับได้" แต่หลักฐานที่จารึกไว้ในบัญชีกรรมของใครๆ นั้น มันลบล้างผันแปรได้กระนั้นหรือ ตอบสักหน่อยเถอะน่า เหล่าจอมโจรบัณฑิตเอ๋ย - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๘ กรกฎาคม ๒๕๔๗ - |