รวยล้นโลกียทรัพย์ลาภยศสรรเสริญสุข
แต่จนปัญญาหยั่งรู้เล็งเห็นกุศล-อกุศล
ร่านร้อนทุรนทุรายทั้งยามหลับแลตื่น
มืดบอดสนิทด้วยม่านประโยชน์ทับซ้อนปิดบังตา
ระเริงหลงปานว่าวเหินหาวเหลิงลมบน
ยิ่งสูงยิ่งลมแรงยิ่งปั่นป่วนผวนผันทุกขณะ
วันใดที่สุดสายป่านและสุดทานแรงลมกล้า
วันนั้นสายป่านขาดผึง...ว่าวขาดลอยหลงฟ้า
ลอยลับดังกระแสน้ำมิไหลกลับ
ถึงกาลอวสานของคนรวย...ไร้แผ่นดินซุกหัว
จนยากเงินทองทรัพย์นอกตัวนอกตน
แต่อุดมด้วยโลกุตรทรัพย์...ทรัพย์ในตน
รู้โลกรู้ธรรม ไม่หน่ายโลกหนีโลก...เหนือโลก
สุขสมสงบเย็นกลางสังคมร้อนแรงแผดเผา
มีตาในสว่างไสวตานอกทอดแววเอื้อไออุ่น
ด้วยสองมือที่หยิบยื่นให้พร้อมใจที่จาคะสละออก
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก โลภร้ายทำลายโลก
ใครรวยอะไร ใครจนอะไร ก็แล้วแต่ใครก่อเกิดสั่งสม
กรรมนี้มีผลผูกพันผู้ก่อกรรมดังเงาติดตามตัว
กรรมชั่วมิอาจปกปิดซ่อนเร้น ย้กย้ายแบ่งเบากันได้
กรรมดีมิอาจอุทิศ ถ่ายเท จัดสรร แบ่งปันกันได้
ของใครของมันไม่ตกหล่นรั่วไหลแม้แต่น้อย
คนเลวอวดดีเพราะไม่มีดีแท้
คนเลวไม่อวดดีอาจมีดีบ้าง
คนดีอวดดีเพราะมีดี
คนดีไม่อวดดีมีดียิ่ง
คนเลวอวดดียิ่งเลว
คนดีไม่อวดดียิ่งดี
- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๖๘
กรกฎาคม ๒๕๔๗ -