คิดคนละขั้ว - แรงรวม
ชาวหินฟ้า - ดูเหมือนจะเป็นประเด็นข่าวฮือฮาขึ้นมาทันที
เมื่อท่านโพธิรักษ์ให้สัมภาษณ์ทางรายการวิทยุ ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์
ไทยแลนด์ ทางคลื่นวิทยุ ๙๖.๕ โดย คุณดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และคุณเถกิง สมทรัพย์
ทำให้มี น.ส.พ. หลายฉบับเอาไปตีต่อ โดยเพิ่มสีสันใส่พริกใส่ขิงเข้าไป อย่างเผ็ดร้อน
ทำให้ ไข่นกกระจอกธรรมดาๆ ถูกขยายกลายเป็นข่าวไข่นกกระจอกเทศไป คงต้องมาดูกันว่า
ท่านโพธิรักษ์ ให้สัมภาษณ์ รายการวิทยุจริงๆ นั้นเป็นอย่างไร แล้วพอเป็นข่าว
ทำไมจึงกลายเป็นเรื่องดุเด็ดเผ็ดมัน ถึงขั้นต้อง "ฉะ" กันทีเดียว 'โพธิรักษ์' ทิ้งแล้ว 'ทักษิณ'ฉะลืมตัว ซึ่งมีรายละเอียดของข่าวในประเด็นพาดพิงนายกฯ ทักษิณเอาไว้ว่า โพธิรักษ์ตัดสัมพันธ์ "ทักษิณ" เทศน์รัฐบาลขาลง มีพฤติกรรมสู่ความเสื่อม มีกิเลส ลืมตัว หาช่องสู่อำนาจ ลาภยศ ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วง ๓-๔ เดือนที่ผ่านมา สมณะโพธิรักษ์ เคยเขียนบทความชื่นชมการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการทัวร์นกขมิ้นตามจังหวัดต่างๆ ความรู้สึกตอนนี้ยังเหมือนเดิม หรือไม่ เจ้าสำนักสันติอโศกตอบว่า ขอพูดตรงๆ ว่าลดลงไปตามผลงาน และพฤติกรรม ที่นายก รัฐมนตรี แสดงออก ซึ่งพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีมีสิ่งที่ไม่ถูกต้องมากกว่าสิ่งที่ถูกต้อง และ มีหลายเรื่อง จนกลายเป็น พฤติกรรมสะสม สมณะโพธิรักษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เท่าที่เห็นนายกรัฐมนตรีได้มีการปรับปรุงตัวเองอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานของนายกรัฐมนตรีหลายอย่างที่ทำไปแล้ว ขอบอกตรงๆว่า คนที่มีกิเลส เวลามีโอกาส มีช่องทาง เนื้อตัวกิเลสจะเผลอตัวได้ และลืมตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นลาภยศ และอำนาจ ดังนั้นข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกิดจากการไม่ปฏิบัติธรรมเพื่อลดละกิเลสอย่างแท้จริง เมื่อศาสนาของสังคมหมดอำนาจ ไม่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ นี่คือความเสื่อม (ไทยโพสต์ ๗ ก.ย. ๔๗) และในวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๗ น.ส.พ.มติชน ก็ได้นำประเด็นนี้ไปตีต่อ ในหน้าการเมือง ในบทความ เรื่อง คำเตือนครั้งสุดท้าย ผ่านพรรคเพื่อฟ้าดิน "มหา ๕ ขัน" ยื่นโนติสถึง "ทักษิณ" โดยมีเนื้อหา ที่พาดพิง ถึงนายกฯทักษิณเอาไว้ว่า การที่ญาติธรรมสันติอโศก นำโดยสมณะโพธิรักษ์ เจ้าสำนัก สันติอโศก และที่ปรึกษาพรรคเพื่อฟ้าดิน ประกาศลด ละ เลิก ความสัมพันธ์ที่เคยแนบแน่น กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมกับส่งเกี้ยวไปเทียบเชิญ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรีฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ และอดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรม ให้หวนคืนสู่ สนามการเมือง ระดับชาติอีกครั้ง สร้างความคึกคักให้กับชมรมคนรัก "มหา ๕ ขัน" ไม่น้อย... ดังนั้น การออกมาเทศนาสั่งสอนนายกฯกิเลสหนาของสมณะโพธิรักษ์ พร้อมกับการโหมกระพือ กระแสรัฐบาลขาลง ของกลุ่มญาติธรรม จึงมีนัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนัยดังกล่าว ถือเป็นการยื่น "โนติส" จากผู้ให้ชีวิตทางการเมืองที่ตั้งใจส่งถึง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นครั้งสุดท้าย นั่นเอง... และรายการเจาะลึกทั่วไทย ซึ่งเป็นต้อตอของข่าวที่ถูกนำไปตีต่อมากมาย ได้เจาะใจ ท่านโพธิรักษ์ ที่เกี่ยวกับประเด็นของท่านนายกฯ ทักษิณเอาไว้ดังนี้ถาม ขอถามเป็นคำถามสุดท้าย คำถามแถม ก็แล้วกันนะครับ เมื่อประมาณสามสี่เดือนที่แล้ว ผมได้ฟังเทป อ่านข้อเขียนของท่านโพธิรักษ์ ยังมีพูด ทำนองชื่นชม ดร.ทักษิณอยู่ แม้กระทั่งเรื่องทัวร์นกขมิ้น ที่มีคนวิจารณ์กันเยอะเหลือเกิน ท่านโพธิรักษ์ ก็ค่อนข้างจะแสดงความชื่นชมอยู่เช่นกัน ถามว่าสามสี่เดือนผ่านไป นาทีนี้ ความรู้สึกอย่างนั้น ยังเต็มเปี่ยม อยู่เหมือนเดิมบ้างหรือไม่? พ่อท่าน ก็ตอบตรงๆ ก็แล้วกันนะว่าลดลงไปตามผลงานหรือว่าตามพฤติกรรมที่ได้กระทำ ตามสิ่งที่ เกิดขึ้น เป็นขึ้นอาตมาก็เห็นว่า..โอ..จุดนี้ควรจะเป็นจุดที่มัน...อาตมาพูดชัดๆ ง่ายๆนะว่า อันนี้ มันไม่ถูกต้อง มากกว่าถูกต้อง ถาม เรื่องไหน? ถาม มันเกิดขึ้นในช่วงสามสี่เดือนนี่หรือครับ? ถาม เป็นเรื่องของการสะสม ถาม คิดว่าท่านนายกฯ จะปรับปรุงได้ไหม? ถาม เหตุผลตรงนี้ก็เป็นข้อคิดที่ทุกผู้คนในสังคมเอาไปประยุกต์ใช้
ทั้งการขับเคลื่อนชีวิต ในส่วนตัวเอง และหน้าที่การงานด้วย ทำงานด้วย ถาม กราบขอบพระคุณท่านมากครับ บทสรุป : การดูมวยหรือดูคนทะเลาะกันก็น่าจะมันดี แต่การส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี และเข้าอก เข้าใจซึ่งกันและกัน น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติมากกว่า และความสามัคคีที่ดีนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นสอดคล้องกันไปหมด ความสามัคคีที่ดีน่าจะมีความขัดแย้งกันได้แต่พอเหมาะ ซึ่งจะก่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดกับสังคมโดยส่วนรวม จุดอ่อนของสังคมไทย คือการที่เราไม่อยากให้ใครดีเกินหน้า ที่ผ่านๆ มา คนดีๆ ต้องพากันไปตาย ต่างประเทศ กว่าจะรู้ว่าเขาเป็นคนดีที่ช่วยชาติบ้านเมือง ส่วนใหญ่ก็มักจะตายไปแล้ว ถึงตอนนั้น สังคมจึงค่อยยอมรับได้ ส่วนจุดแข็งที่สำคัญ นั่นคือเป็นสังคมที่ไม่นิยมความรุนแรง มีความยืดหยุ่น ประนีประนอมกันสูง ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาจึงสามารถอยู่รวมกันได้อย่างสันติสุขตลอดมา ด้วยความสามัคคี ที่มีการขัดแย้งแต่พอเหมาะนั่นเอง. - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ - |