คุยนิดคิดหน่อย - บรรณาธิการ -

แรกเริ่มเดิมทีรัฐบาลกำหนด ๓ ตุลาคม ๒๕๔๗ เป็นวันชูธงประกาศนโยบายการปราบปราม การทุจริต คอรัปชั่น แต่เมื่อ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๗ ในที่ประชุม ครม.ได้เปลี่ยนแปลงกำหนดให้เร็วขึ้น เป็น ๓๐ กันยายน ๒๕๔๗ เนื่องจากเป็นวันที่ ป.ป.ช.จะหารือเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

เรื่องทุจริตกินบ้านโกงเมืองนี่ รัฐบาลไหนๆ ก็ต้องฟาดฟันให้เหี้ยนเต้อยู่แล้วละ ไม่ต้องออกแขก โหมโรง เรียกคนดูก็ได้ครับ นักมวยค่ายใหญ่ร่ายรำไหว้ครูดูเก้งก้าง ซ้ำยามประหมัด กลางเวที พลันออกอาวุธ วืดวาด ลีลานี้เห็นทีไม่พ้นคนดูโห่ไล่ลงเวทีแน่ๆ

มวยล้มต้มคนดูแต่ก่อนนี้พอหากินได้ตามเวทีงานวัด แต่เดี๋ยวยาก...คนดูเขารู้ทัน

เกือบ ๔ ปีที่ผ่านมา ถ้ารัฐบาลนี้มุ่งกำราบปรามปรามการฉ้อฉลทุจริตในวงการเมืองวงราชการ ให้อยู่หมัด และมีผลงานจะแจ้งยืนยันได้ แม้วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๔๕๗ จะไม่ประกาศนโยบาย สร้างภาพ ก็จะมีแต่เสียงโห่ร้องแซ่ซ้องชื่นชมทั้งแผ่นดิน เอาเถอะครับ ไหนๆ ก็กำหนดการสำแดงเดช ไว้เบ็ดเสร็จแล้ว จะพลิกพลิ้วเป็นอื่นก็ยาก ตกกระไดพลอยโจนพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ตัดใจบั่นคอ ลิ่วล้อ เอาหัวเสียบหลักประจานสี่มุมเมืองเซ่นไหว้นโยบายสักรายสองราย ก็อาจกระตุ้น ต่อมศรัทธา ชาวบ้าน ชาวเมืองได้บ้างหรอกน่า

โบราณว่า พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม ครานี้ ไม่ต้องถึงกับสละชีวิตหรอกครับ แค่สละอวัยวะก็พอจะเยียวยาบาดแผลของแผ่นดินได้ แต่ต้อง สละอวัยวะหลายๆ ส่วนนะครับ ตัดหัวคั่วแห้งนักการเมืองร่วมน้ำสาบาน สังเวยแผ่นดิน ให้เห็น เป็นขวัญตาสัก ๓ - ๔ รายเหอะน่า สละส่วนน้อย (ที่เน่าเหม็น) เพื่อรักษาส่วนใหญ่ (ที่เน่าเหม็น) ซื้อเวลา ไปเรื่อยๆ

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ จะรักยาวหรือรักสั้น เลือกเอาเองก็แล้วกันขอรับ ตัดไม้ข่มนามเอาฤกษ์เอาชัย ประกาศศักดาให้เลื่อนลั่นจบฟ้าดิน แม้ครองอำนาจรัฐมีโอกาสทุจริตสบายมือ ยังไม่ทำทุจริต และ ยังฟาดฟันคนทุจริตใกล้ตัวไม่ไว้หน้า แล้วหน้าไหนจะกล้านอกคอกก็ให้มันรู้ไป ต้องยึดกุมความสุจริต ไว้เป็นเกราะให้สำเร็จ และไม่ทับซ้อน ซ่อนทุจริตเสียเอง

แต่... น่าเสียดายโอกาส ที่ ป.ป.ช. เพชฌฆาต มือพิฆาตมีอันถึงฆาตเสียเองแล้ว "เมาแล้วขับ" ซิ่งฝ่า ไฟแดงไปพังพาบคาบันไดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเสียแล้ว

เห็นทีนโยบายปรามปรามการทุจริตจะต้องพักฟื้นยาวไม่มีกำหนด