074 ฝุ่นฟ้าฝากฝัน สังคมดี-ร้าย อยู่ที่ผู้นำ กระแตน้อยสองตัววิ่งหยอกล้อกันอยู่บนค่าคบไม้ใหญ่ นกกระจิบส่งเสียงจอแจอยู่ข้างเคียง ใบไม้เหลืองหลุดจากขั้วลอยพลิ้วไปตามสายลม ทางเดินเมตรกว่าๆที่คดเคี้ยวไปตามป่ากว้างร้อยไร่ในอาณาบริเวณวัดป่าบ้านนาดี กุฏิน้อยหลังคาหญ้าคาฝาใบตองเรียงรายอยู่ริมทางเดินเป็นระยะๆ ช่วงบ่ายคล้อย หลังจากพระบุญหลายเจ้าอาวาสพักงานเก็บกวาดใบไม้ตามทางเดิน แล้วมานั่งพักเพื่อเตรียมจะสรงน้ำ ลุงสมสีบ้านใกล้วัด ซึ่งมาฟังธรรมรับศีลเป็นประจำ จนคุ้นเคยกับพระ ได้เอาหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่จากที่อ่านหนังสือหมู่บ้านมาถวายให้พระบุญหลาย เปลี่ยนกับหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อวาน พระบุญหลายนั่งอยู่บนแคร่ไม้ใต้ต้นยางใหญ่ ส่วนพระลูกวัดต่างแยกย้ายกันนั่งอยู่ตามขอนไม้ แคร่ไม้รายล้อม รอจะสรงน้ำ ลุงสมสีคู้เข่าลงกราบกับพื้นแล้วนั่งตรงหน้ารอฟังธรรมะเล็กๆ น้อยๆก่อนจะกลับเช่นทุกวัน "ว่าไงโยมพากันเกี่ยวข้าวหรือยัง" พระบุญหลายทักทาย "ยังเลยครับท่าน อีกสักสามสี่วันนั่นแหละข้าวถึงจะสุกพอเกี่ยวครับ" แม้ลุงสมสีจะรับหนังสือพิมพ์มาให้พระอ่านทุกวัน ส่วนตัวเองไม่เคยอ่านเลย เพราะสายตาฝ้าฟางและไม่ค่อยมีเวลา ก็อาศัยฟังข่าวสำคัญๆ ที่พระท่านนำมาเทศน์ให้ฟังเท่านั้น "ท่านครับ ช่วงนี้มีข่าวอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ" พระบุญหลายเห็นพระลูกวัดมาอยู่พร้อมหน้า จึงถือโอกาสนำเอาข่าวต่างๆ ที่ได้อ่านมาสรุปให้ฟังพร้อมกัน "ข่าวที่น่าขำ กินนางพญาปลวกแล้วมีแรง มีสมรรถภาพทางเพศกระปรี้กระเปร่า มีชายนายหนึ่งยืนยิ้มพร้อมชูตัวนางพญาปลวกอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง แล้วไม่นานหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ชาวบ้านนาป่าดงต่างออกเที่ยวขุดหานางพญาปลวกมากินกันจ้าละหวั่น เมนูจานเด็ดนางพญาปลวกราคาแพง มีลูกค้าสั่งกินไม่ขาด "ข่าวต่อมามีหนุ่มใหญ่ ผิวดำแดง ยืนอ้าปากหยิบไส้เดือนเป็นๆ หย่อนเข้าปากแล้วกลืนกินหน้าตาเฉย พร้อมสาธยายว่า ไส้เดือนเป็นๆ ช่วยเพิ่มพลังทางเพศอย่างน่าอัศจรรย์แต่พวกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ชาวบ้านนาป่าดงไม่มีใครคิดจะกินไส้เดือนสักคน "สมัยนี้ค่านิยมของชาวบ้าน ก็มักเป็นไปตามกระแสแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่ต่างจากกระต่ายตื่นตูม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระ เช่น ลูกวัวหกขาสองหาง ชาวบ้านก็เฮโลไปกราบขอหวยกันยกใหญ่ เป็นสังคมที่ล้มเหลวไร้ผู้นำพาพัฒนาตนไปสู่ความเป็นอยู่แบบพอเพียงอย่างมีความสุขทางใจ "สังคมในยุคนี้จึงสับสนเกิดวิกฤตร้ายแรงมากขึ้นๆ เช่น ข่าว ส.ว. ผู้ทรงเกียรติใช้เงินล่อซื้อบริการทางเพศจากเด็กหญิง แล้วเรื่องมันแตก ถูกศาลตัดสินจำคุก ๑๕ ปี "อีกเรื่อง เด็กวัดอายุ ๒๖ ปี กินเหล้าเมาแล้วหิ้วขวดเหล้าไปหายายอายุ ๘๐ ปี ที่อยู่บ้านคนเดียวใกล้วัด ยายแก่ไม่ยอมกินเหล้าด้วย เด็กวัดก็เลยปล้ำข่มขืนยายแก่ "และมีอีกหลายข่าวที่ผู้ต้องหาคดี ปล้นชิงทรัพย์ ฆ่า ค้ายาเสพติดพอถูกจับได้ก็จะเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่เสียเป็นส่วนใหญ่ "แต่ข่าวที่แย่เอามากๆ ก็คือข่าวต้นกล้วยออกปลีกลางลำต้นในบริเวณวัดแห่งหนึ่งแล้วชาวบ้านเฮโลมากราบไหว้ ขอหวยเลขเด็ดกับกล้วยนั้น พระสงฆ์องค์เจ้าในวัดก็พากันนิ่งเฉย ปล่อยให้ชาวบ้านหลงงมงายตามประสาทั้งที่ไม่ใช่ทางพระพุทธศาสนาเลย "เมื่อพระสงฆ์ไม่ท้วงติง ห้ามปราม ชี้แนะผู้ที่กำลังปักใจเชื่อเรื่องไร้สาระนอกขอบเขตพุทธชาวพุทธเหล่านั้นก็ไม่ต่างจากเรือที่ไร้หางเสือ ที่จะลอยเคว้งคว้างไปตามแรงโหมกระหน่ำของพายุระบบทุนนิยม" "แล้วข่าวคนฆ่าพระ พระฆ่าพระด้วยกัน จะเป็นผลร้ายแรงต่อสังคมอย่างไรครับท่าน" ลุงสมสีถามถึงข่าวที่เพิ่งเกิดใหม่ๆ "ที่พระฆ่าพระ ก็เพราะว่าพระรูปนั้นไม่ลดละกิเลส จึงแย่งลาภแย่งยศกัน ไม่ต่างจากปุถุชนคนทั่วไป แม้เป็นเรื่องภายในวัดเหมือนนักเรียนตีกัน แต่ก็เสื่อมเสียสถาบัน และมีผลต่อสังคมนอกวัดด้วย "พระสงฆ์ที่มีมรรคผลในการปฏิบัติที่จะบอกสอนหลักพระธรรมที่ถูกตรงให้ชาวบ้านรู้ตามนี้สิ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะสังคมจะขาดผู้นำพา แล้วสังคมจะเกิดสันติสุขได้อย่างไร "แท้จริงพระพุทธศาสนานั้น เป็นสุดยอดของปัญญา สอนให้รู้เรื่องของวิบากกรรม วาสนาบารมีของแต่ละคน ที่ได้สร้างสะสมมานานนับชาติ อย่างเช่นคนที่เกิดมาพิการ ขาไม่มีทั้งสองข้าง ทั้งที่พี่น้องร่วมสายเลือดพ่อแม่เดียวกันสี่ห้าคนต่างก็เกิดมามีอาการครบ ๓๒ กันทุกคน หากคนพิการคนนั้นไม่ยอมรับสภาพในความพิการของคน เขาก็จะเกิดความเป็นทุกข์เกิดขึ้นในใจไปจนวันตาย แต่หากว่าคนพิการคนนั้นเข้าใจธรรมะเรื่องบุญบาปวิบากกรรม แล้วยอมรับสภาพที่ได้มา ยอมชดใช้หนี้กรรมไปตลอดชาติหนึ่งๆ ก็จะไม่เป็นทุกข์ด้วยเหตุพิการนั้นๆ "หรือคนที่เกิดมายากจนข้นแค้น ก็เพราะวิบากกรรมของเขาเช่นกัน หากคนจนคนนั้นไม่ศึกษาธรรมะ เขาก็จะดิ้นรนหาเงินในทุกวิถีทางเพื่อก้าวไปสู่ความร่ำรวย แม้จะต้องค้ายาเสพติด ปล้น ฆ่า ร้ายแรงก็ตาม เขาก็จะได้รับความเป็นทุกข์เป็นบาป ไม่มีสิ้นสุด แต่หากได้ศึกษาปฏิบัติธรรม เขาก็จะยอมรับสภาพที่เกิดมาจนได้แล้วประกอบสัมมาอาชีพ อดออม ดำรงชีวิตอยู่ได้ เบิกบาน ไม่เป็นทุกข์ เพราะเข้าใจดีว่าคนก็ต่างได้เกิดมาชดใช้กรรม แต่ไม่ต้องท้อแท้ พยายามปรับปรุงกรรมปัจจุบันให้ดีขึ้น เป็นกุศลกรรม แล้วจะมีกรรมใหม่ที่ดีไปทุกขณะ" - เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ - |