คำกรอง กรองคำ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ
ในฐานะแม่ของแผ่นดิน

กราบแม่พระปฐพีแก้วชีวิต
กราบแม่พระสิริกิติ์ไพสิฐยิ่ง
กราบแม่พระผู้ให้ซึ้งใจจริง
กราบแม่พระขวัญมิ่ง ... มหาชน

ธ คือปิ่นสตรีศักดิ์ศรีชาติ
ธ ประกาศความเป็นไทยในแห่งหน
ธ สร้างงานฝีมือสื่อสากล
ธ ปกชาติครองกมลเปรียบฝนพรำ

เพียงพระบาทก้าวไปให้สวัสดิ์
เพียงพระหัตถ์สัมผัสไปให้ดื่มด่ำ
เพียงพระสรวลปรากฎให้จดจำ
เพียงเสโทให้คลายช้ำสิ้นน้ำตา

แม่แห่งศิลป์แห่งศาสตร์แห่งราชกิจ
แม่แห่งจิตวิญญาณไทยในแหล่งหล้า
แม่แห่งความอบอุ่นกรุณา
แม่แห่งภูมิปัญญา..ศรัทธารัก

ประสานรอยระแหงแหล่งเหนือใต้
ประสานตาประสานใจให้ประจักษ์
ประสานชีพประชาสวามิภักดิ์
ประสานธรรมเป็นหลักนักปกครอง

เหนือน้ำคำน้ำพระทัยใสพิสุทธิ์
เหนือมนุษย์นำชนพ้นภัยผอง
เหนือผืนภพพระแม่เมืองล้ำเรืองรอง
เหนือร้อยกรอง...เลิศค่าพระเกียรติคุณ

คือแสงทิพย์ส่องทางสว่างไสว
คือชีวิตจิตใจคือไออุ่น
คือร่มเกล้าชาวไทยพึ่งใบบุญ
คือแม่พระผู้การุณย์เปี่ยมสุนทร์ทาน

ทรงแผ่พระบารเมศร์คุ้มเขตแคว้น
ทรงรวมแผ่นดินทองผ่องไพศาล
ทรงสร้างค่าของคนคือผลงาน
ทรงคุณูปการพ้นพรรณนา

เถลิงลักษณ์นครินทร์แผ่นดินแม่
ทรงเหลียวแลรักลูกสุขทั่วหน้า
เฉลิมศักดิ์ไอศวรรย์กตัญญุตา
แม้ชาวดงชาวป่าสามัคคี

หมื่นแสนคำคารวะแทบพระบาท
วโรกาสมงคลดลสุขศรี
เจ็ดสิบสองพรรษาราชินี
ถวายราชสดุดีเหนือชีวัน

สามโลกน้อมบูชาเบิกฟ้าใหม่
มหาฤกษ์มหาชัยปกไอศวรรย์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและป้องกัน
พระอยู่คู่ราชันย์และจันทรา

เฉลิมพระอิสริยยศปรากฏก้อง
ราษฎร์แซ่ซ้องเฉลิมพระชนมพรรษา
ปลื้มราชจริยวัตร...พัฒนา
ขอแม่ฟ้า...พระองค์ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นางสาววาสนา บุญสม ประพันธ์

หมายเหตุ บทอาศิรวาทนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ เนื่องในวโรกาส ๗๒ พรรษามหาราชินี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๗ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง



สีลาครกกระเดื่อง
โสนริมน้ำ ก็ช้ำกลีบเฉา
สะแกต้นเก่า ก็แตกกิ่งกอ
กระพือลมกราว จะหนาวแล้วหนอ
วะหวิวขลุ่ยคลอ ประเลงเพลงรัก

กระเดื่องไม้ขอน กระดอนตำข้าว
เขย่งเก็งก้าว กระตึกตึกตัก
เพราะแรงสาวเหยียบ ขยับเยื้องยัก
สะเทิ้นคำทัก สิหักใจสาว

กระด้งวงเดือน ก็เกลื่อนข้าวกล้อง
กระต่ายหมายปอง ประคองผัดข้าว
ระรื่นรื่นลม ประพรมพัดพร้าว
สิหนาวสู้หนาว มิหนักสองแขน

กระไอข้าวหอม ก็หอมยิ่งนัก
เพราะแรงสาวรัก เพราะแรงสาวแหน
เมล็ดข้าวเอ๋ย มิเคยขาดแคลน
มิมีใครแม้น มิเหมือนเจ้าเลย

กฐินบุญทาน ก็ผ่านพ้นแล้ว
คระครื้นคำแอ่ว คระเครงเพลงเอ่ย
ถนอมค่ำเช้า นะเจ้าทรามเชย
จะขอเป็นเขย มิคร้านงานไถ

จะปักข้าวปลูก จะผูกกลอนเกี้ยว
ฤดูเก็บเกี่ยว จะเกี่ยวใกล้ใกล้
กระเดื่องไม้ขอน กระดอนเรื่อยไป
กระเด็นหัวใจ มิไกลเจ้าเอย

- เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ -


ขมิ้นหลังไฟ
โหนรถเมล์หัตถ์ด้าน ดูหนา หนังเวย
โอษฐ์ออกทุรวาจา ด่าแจ้ว
นาภีไป่มีอา หารอิ่ม เอมฮือ
เนตรถั่งน้ำเนตรแก้ว กว่าล้นรองเต็มฯ

เค็มเสโทพักตร์เยิ้ม ยามชิม
เกรอะเกศรังแคสนิม สนิทเนื้อ
นาสิกสุดซับพิมพ์ ควันพิษ รถแล
กรรณหนวกเสียงรถเรื้อ แล่นล้วนรังควานฯ

ไพศาลนิเวศน์น้อย รังหนู
เสาเอกแช่โคลนชู เชิดตั้ง
โภชนาสิบวันหมู ชิ้นหนึ่ง
กระฉอกน้ำปลาครั้ง คลุกข้าวเสวยจานฯ

น้ำสนานคือเศษน้ำ ประปา
พอเปียกทั่วกายา หยาดให้
กรณีกิจคือหา เช้าค่ำ กินนอ
โอสถหมอตี๋ใช้ ลูกจ้างหยิบยาฯ

วรกายประดับพร้อย ผ้าปะ
บาทย่ำดินขรุขระ เขละชื้น
ปะหม้อปะกระทะ กระทั่ง ถังแฮ
ไป่ปะความครึกครื้น คลั่งไคล้ทีวีฯ

ศรีศรีเสียงสนุกทั้ง เมืองไทย
เสียงโอดอุบอยู่ใน อกนี้
นิเวศน์วอดกลางไฟ ปลูกตึก แถวพ่อ
วอนเถิดวานท่านชี้ ค่ำนี้นอนไหนฯ

- ประสิทธิ์ โรหิตเสถียร -

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๓ ธันวาคม ๒๕๔๗ -