เวทีความคิด - เสฏฐชน -
เทศกาลพิเศษ ต้องทำความดีพิเศษ


ช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงธันวาคม มีวันพิเศษที่สำคัญอยู่ ๓ วัน คือ เดือนพฤศจิกายน วันลอยกระทง เดือนธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันส่งท้ายปีเก่า ๔๗ ต้อนรับปีใหม่ ๔๘ พี่น้อง ชาวไทยก็เตรียมพร้อมรับวันพิเศษอย่างเต็มที่ ทั้งเดินทางไปเที่ยวสนุกสนาน พักผ่อน กิน ซื้อ ฯลฯ

ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด กรุงเทพฯ ล้วนมีทิศทางเดียวกัน ทางบ้านเมืองก็จะจัดงานรัฐพิธี จังหวัด ก็จัดงานประจำจังหวัด หมู่บ้าน ตำบลก็จัดงานประเพณีท้องถิ่น แม้แต่ส่วนตัวในครอบครัว ก็จัดงาน ในบ้าน

คนไทยได้ชื่อว่าเป็นคนง่าย เพราะประเพณีอะไรๆ คนไทยรับได้หมด งานปีใหม่แขก ไทยก็ร่วมด้วย ปีใหม่มอญ ไทยก็ร่วมได้ ปีใหม่จีน ปีใหม่ฝรั่ง ไทยร่วมได้หมด คนไทยถือโอกาสฉลองด้วยการดื่ม กิน ซื้อ เที่ยว รูปแบบเดียวกันนี่แหละ

สังเกตจากการท่องเที่ยวทั้งนอกและในประเทศ ช่วงวันหยุดพิเศษนอกเหนือจากวันเสาร์อาทิตย์ จะมีโฆษณาจัดทัวร์สารพัด เที่ยวบินลด บางครั้งถูกกว่ารถยนต์ รถไฟด้วยซ้ำ คนก็ยิ่งจะคึกคะนอง ในการอาศัย ยานพาหนะท้องฟ้ามากกว่ายุคไหนๆ เพราะทั้งเร็ว เท่ และราคาถูก

ยิ่งบริษัทการบินแข่งขันกันทำคะแนน เอาชนะใจผู้ใช้บริการเท่าไหร่ ราคาก็จะถูกลงเท่านั้น แม้จะจำกัด ไว้เฉพาะกาลก็ตาม ผู้ต้องการประสบการณ์เหาะบ้าง ก็ต้องคอยเงี่ยหูฟัง และตีเส้นหาสาย ซื้อราคา พิเศษนี้เอาเอง

คนที่เงินมาก เวลาน้อย จะเป็นฝ่ายได้ใช้บริการบินมากกว่าคนที่เงินน้อย แม้เวลามาก ก็ต้องเที่ยว บนพื้นดิน ไปก่อน

ยิ่งคนที่มีรถส่วนตัว ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ จะไปเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่ต้องหัดขับ หรือหาคนขับ ที่ชำนาญเท่านั้น

หรือจะไม่ไปไกลๆ จะไปหาความบันเทิงใกล้ๆ เช่น โรงแรม ภัตตาคาร ศูนย์การค้า ฯลฯ เขาก็ถือ โอกาสนี้ โกยรายได้ด้วยกันทั้งสิ้น

ลอยกระทงไม่จำเป็นต้องลอยตามแม่น้ำ ลำคลอง แต่ลอยในสระตามโรงแรมก็เก๋ ยิ่งถ้าเป็นสถานที่ ใกล้เคียง ทั้งเมือง ป่า สวน ธรรมชาติ ที่เรียกว่ารีสอร์ตยิ่งมีช่องทางโกยเงินเพิ่มขึ้นอักโข

ออกแปลกใจที่เห็นกลางเมืองนครสวรรค์ ก็ยังมีสถานที่พักเขาโฆษณาว่ารีสอร์ต อาจเป็นเพราะ นครสวรรค์ เป็นเมืองสวรรค์อยู่แล้ว แม้จะไม่มีสถานที่ธรรมชาตินอกจากแม่น้ำเจ้าพระยาอันกว้างใหญ่ ถึงบางส่วนจะถูกถมเป็นพื้นดิน เพื่อสร้างขยายพื้นที่สถานราชการไปบ้างแล้วก็ตาม คนก็ไม่รังเกียจ ที่จะสร้างบรรยากาศเทียบเคียงรีสอร์ต เพื่อชักชวนคนเข้าพัก นับเป็นความฉลาด ของผู้ประกอบการ ในยุคนี้ ที่เขาเข้าถึงรสนิยมของผู้แสวงหาความเสพโลกียรสหลากหลายชนิด

น้อยคนนักที่จะหันมาตั้งค่านิยมใหม่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ว่า ในเทศกาลพิเศษที่กล่าวมานี้ ควร "ทำความดีที่พิเศษ" ให้ยิ่งขึ้น จะทำให้อะไรๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นแก่เรา ทำให้เราได้กำไรชีวิตยิ่งกว่า จะมิดีกว่าหรือ?

เช่น แทนที่จะลอยกระทง ทิ้งมลพิษลงแม่น้ำลำคลอง เป็นภาระแก่ผู้รับผิดชอบดูแลของใช้สาธารณะ ต่างๆ ก็เปลี่ยนเป็นมาระดมกำลังกำลังรวมไปช่วยสะสาง ทำความสะอาด ปรับปรุง ซ่อมแซมสิ่งที่ สึกหรอ ชำรุดเหล่านี้ทดแทน อาจช่วยกันลอกคลอง กำจัดสวะ วัชพืช แม้ตามชายหาด ชายทะเล ช่วยกันเก็บสิ่งที่เป็นมลพิษ ที่ทำให้สถานที่เหล่านี้สกปรก ช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับคืนมา

เพราะเนื่องจากเทศกาลพิเศษนี่แหละ ที่คนพากันไปกิน ไปเที่ยว แล้วทิ้งขยะต่างๆ ไว้ ทำให้สัตว์ในน้ำ พืชในน้ำ ต้องพลอยรับผลอันเกิดมาแต่ความมักง่ายของคนไปด้วย

บางแห่งอาจระดมลูกบ้านในหมู่บ้าน ในตำบล ในเมืองนั้นๆ ไปลอกโคลน เก็บวัชพืช เพื่อให้น้ำถ่ายเท ได้สะดวก ยิ่งตามเมืองใหญ่ๆ ที่มีโรงฆ่าสัตว์ตั้งอยู่จำนวนมาก น้ำจะเป็นสีดำปี๋ มีน้ำมันลอยตัว ขึ้นหนาพืด ส่งกลิ่นรบกวนจมูก เชื้อโรคแพร่สะพัดอยู่ในอากาศรอบตัว ยิ่งน่าจะรวมกันชำระสะสาง เรื่องนี้เป็นทวีคูณ

ดีกว่าที่ทางจังหวัดจะจัดงานลอยกระทง ประกวดโน่นประกวดนี่ให้เสียนิสัยไปเปล่าๆ มิหนำซ้ำ ยังมี รายการแสดงที่ล่อแหลมต่อวัฒนธรรมอันดีงามคนไทยด้วย ถ้าหันมาจัดประกวด คนทำความสะอาด แม่น้ำ ลำคลองเก่ง ประกวดคนกวาดขยะบนท้องถนน กวาดขยะแผงตลาดเก่ง หรือร้านรวง ภัตตาคาร โรงแรมที่จะจัดโต๊ะพิเศษ ราคาพิเศษ ซึ่งก็ใช่จะข้ามพ้นราคาแพงอยู่ดีไปได้ แต่รอบบริเวณโรงแรม ริมน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งมากส่วนเสียด้วย ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้ำสกปรก เพราะถ่ายเทของเสีย จากการ ขายบริการของโรงแรม ภัตตาคารริมน้ำเหล่านั้นเอง น่าจะหันกลับมาตั้งรางวัลให้บริกร พนักงาน ของตน แข่งขันกันทำงานชิ้นนี้ ก็จะทำให้นิเวศน์สถาน และรอบๆ ด้านได้รับประโยชน์ กู้หน้าตาของ ประเทศ กลับคืนมาด้วยไปพร้อมๆ กัน

แทนที่จะมัวฉวยโอกาสโกยเงินคนต่างประเทศ ด้วยการมุ่งบริการให้เขามาเที่ยว ซื้อกินสบาย ตามกิเลส อยาก แล้วก็ทิ้งๆ ขว้างๆ มักง่ายในการบริโภค จนก่อมลพิษด้านขยะ สิ่งสกปรกให้กับสถานที่ ของเมืองเรา เพียงผู้ประกอบธุรกิจเหล่านั้นได้เม็ดเงินเพิ่มขึ้น ได้กำไรเพิ่มขึ้น แต่บ้านเมืองทรุดลง

วันลอยกระทง น่าจะลอยสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ตั้งแต่ระดับปัจเจกบุคคลออกไป อย่าไปริร่วมกัน ก่อความสกปรก ก่อภาระให้แก่ส่วนรวมให้แก่คนอื่นๆ ดังจะเห็นได้จากหลังงานแล้ว ตามแม่น้ำ ลำคลอง หรือตามสถานที่จัดงานจะเต็มไปด้วยเศษขยะ จนไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนทิ้งได้หมด หรือทำลาย ได้เกลี้ยง ต้องขยายพื้นที่ฝังขยะไปใกล้บ้านคน จนทำให้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นเกิดโรค ต้องร้องเรียน เป็นความกัน จนนักการเมืองท้องถิ่นต้องเข้าไปจัดการ

ฉะนั้นวันลอยกระทง จึงเป็นวันพิเศษที่ทุกคนที่อยากได้อะไรพิเศษ ควรก่อเหตุแห่งผล ในความได้ พิเศษนั้น ด้วยการทำสิ่งดีๆ ให้พิเศษ ที่ไม่เคยเกิดขึ้น หรือมีคนคิด มีคนแนะ มีคนเริ่มทำ มีคนร่วมทำ น้อยเหล่านี้ด้วย

เดือนธันวาคม มีวันเฉลิมพระชนมพรรษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นพระประมุข ที่ครองหัวใจ ประชาราษฎร์เป็นพิเศษสำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ฉะนั้นจึงเกิด โรงบุญ ๕ ธันวามหาราช หลายสิบปีแล้ว สำหรับพสกนิกรที่น้อมถวาย จัดกิจกรรมโรงบุญมังสวิรัตินี้มา แม้ในปีนี้ก็ เช่นเดียวกัน โอกาสของการที่ประชาชนผู้จงรักภักดี จะกลับมาสนองพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน ก็เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง น่าที่จะร่วมใจกันถวายพระพร ด้วยการทำบุญ ทำกุศล ทำสิ่งที่เป็นความดีพิเศษด้วยกัน เพียงแค่สละของตนๆ ที่เคยได้ตามปกติบ้างวันหนึ่งก็ได้ เช่น ที่เคย ผลิตเหล้า เบียร์ บุหรี่ ก็หยุดผลิต ปิดโรงงานวันหนึ่ง หรือที่เปิดขายเหล้า ขายเบียร์ ขายบุหรี่ ก็หยุด วันหนึ่ง หรือที่เป็นแหล่งฆ่าสัตว์ ก็ปิดวันหนึ่ง หรือที่เป็นแหล่งค้าอาวุธ ค้าประเวณี ก็หยุดวันหนึ่ง หรือคนที่ขายของเสพติด ขายสิ่งเสี่ยงโชคการพนันขันต่อ ก็หยุดวันหนึ่ง แม้จะหยุดตลอดเดือน พิเศษไม่ได้ ก็นับว่าผู้นั้นยังเกิดความฉลาด ที่จะรีบฉวยโอกาสดีๆ แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ นี้ไว้ ยังดีกว่า ที่จะปล่อยให้ ความดำมืดครอบงำไปทั้งหมด

แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง ก็ยังทรงมีความปลาบปลื้มพระทัย เมื่อยามตรัสอะไรที่ดีๆ ที่ทรงมุ่งหวัง ให้ประชานิกรของพระองค์ดำเนินการ เมื่อยามที่เขาเหล่านั้นเข้าเฝ้าถวายพระพร ก็ทรงถือโอกาสนั้น บอกกล่าวให้ทำความดีต่างๆ เสมอมา ตั้งแต่ระดับผู้บริหารประเทศ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างๆ ก็เคยรับฟังเรื่องทำนองนี้มาโดยตลอด คงไม่ต้องยกมากล่าวถึงมากนัก

ข้าราชการที่ทำหน้าที่ในนามพระมหากษัตริย์ ที่ทรงพระมหากรุณาแต่งตั้งให้ฉลองพระเดชพระคุณ คงไม่ปฏิเสธว่าขณะที่เข้ารับตำแหน่ง ยศ หน้าที่ ก็ต้องปฏิญาณตนต่อหน้าพระองค์ท่านว่า จะซื่อสัตย์ สุจริต ทำหน้าที่ด้วยความจงรักภักดีด้วยกันทั้งสิ้น ฉะนั้นสิ่งใดที่เป็นกุศล ไม่ว่าจะเป็นการหยุดโกง หยุดกิน หยุดใช้อำนาจไม่ชอบธรรมอื่นๆ ใดๆ ในขอบเขตของอำนาจ และหน้าที่ ในตำแหน่งของตนนั้น ย่อมเป็นการสนองพระบรมราชโองการ พระประสงค์ของพระประมุขด้วยกันทั้งสิ้น นี่คือการฉลอง ๕ ธันวา ที่ถวายเป็นพระราชกุศลที่ยอดเยี่ยมที่สุด

แล้วยังมีวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ อันเป็นวันพิเศษสำหรับทุกฐานะ อาชีพ ไม่ว่าจะเกิดมายากดี มีจน สูงต่ำแค่ไหน ก็มักจะอยากได้พรพิเศษในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แต่เราก็จะได้ยินเรื่อง ฆ่ากันตาย รถตกถนนคนตาย ฉลองปีใหม่ตาย ซิ่งแข่งขันกันตาย ฯลฯ แม้ในรูปของฆาตกรรม อัตตวินิบาตกรรม หรือทำกับคนอื่นๆ ตั้งแต่คนต่อคน หรือคนต่อหมู่คน คนต่อสังคม ที่มีทิศทาง ไปในการทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าวนี้ทุกปี

และยิ่งจะน่าเศร้ามากขึ้นยิ่งกว่า ก็คือบางคนไม่เคยทำความชั่วมาก่อน เช่นไม่เคยดื่มเหล้า ไม่เคย เที่ยวกลางคืน ไม่เคยสำราญโต้รุ่ง แต่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ก็กลับไปทำสิ่งเหล่านี้ บางคน ไม่เคยนอกใจภรรยา ก็ไปเที่ยวขึ้นครูกับแหล่งโสเภณี บางคนไม่เคยเที่ยวผับ ก็ไปชิมลองดู

ยิ่งเป็นเด็กวัยรุ่น เยาวชนด้วยแล้ว ยิ่งน่าเป็นห่วง เพราะสถานที่เลี้ยงชีพด้วยอาชีพมอมเมาเด็ก เช่น เกมต่างๆ ก็เปิดบริการพิเศษ แม้จะมีกฎหมายมารอบรัด ควบคุม จัดระเบียบเพิ่มขึ้นก็ตาม ก็มิวาย จะมีตลาดมืด สนองตัณหาคนผู้ยังมีตัณหาในเรื่องเช่นนี้อยู่

บางคนหลงผิดคิดว่าเป็นวันพิเศษ ก็ยอมให้เด็กไปทำ ไปชิม ไปในสถานที่ต่ำๆ ก็มี ลืมไปว่า เด็กยังมี วุฒิภาวะด้อยอยู่ ไม่ว่าจะหลักสรีรศาสตร์ จิตศาสตร์ ศาสนศาสตร์ก็ตาม

ผู้ใหญ่ที่ติดสิ่งไม่ดีต่างๆ จนงอมแงม มักจะให้เหตุผลแก่ตัวเองเพื่อสนองตัณหาตน กลบเกลื่อน ความผิดบาปของตนๆ ดูประหนึ่งใจดีต่อเด็กว่าให้เด็กผ่อนคลาย แต่ไม่ได้คิดต่อไปให้ลึกซึ้ง เหมาะสม กับวุฒิภาวะของความเป็นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์มาก่อนว่า เป็นการเพาะเชื้อความอยากรู้ อยากเห็น อยากลิ้มลองก่อนเวลา อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเยาวชนอ่อนแอทางศีลธรรม เพราะผู้ใหญ่ อ่อนเขลาเรื่องเดียวกันนี้

หากไม่เป็นดังที่กล่าว ไฉนเลยตามสถานที่อบายมุขต่างๆ จะเต็มไปด้วยผู้ใหญ่ที่มาใช้บริการทำนองนี้ ไปดูได้จากพัฒน์พงษ์ พัทยา นานา สีลม บางลำภู ฯลฯ โชว์พิเศษสนองกิเลสทางตา ร้องพิเศษ ฉลองกิเลสทางหู

จนกระทั่งมาถึงในบ้าน แม้ไม่ได้ออกไปตามที่เสื่อมโทรมดังกล่าว รายการพิเศษตามสถานีโทรทัศน์ ก็เช่นเดียวกัน รายการลามกพิเศษรอบดึก รอบโต้รุ่ง ใครปฏิเสธบ้างว่าไม่มี หรือใครกี่คนรอชม

ใครก็ต้องการพร คือความประเสริฐในวันพิเศษ แต่กลับไปทำอะไรๆ ที่ไม่ดีในวันพิเศษมากขึ้น เป็นพิเศษ แล้วจะได้รับพรพิเศษมาแต่ไหน

พระเดชพระคุณพระภิกษุธัมมวิตักโก (อดีตพระยานรรัตนราชมานิต ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว) ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดเทพศิรินทร์ฯ ที่มรณภาพไปแล้ว เคยกล่าวว่า ผู้ต้องการพรต้องทำความดี ใครต้องการพร ต้องทำสิ่งที่เป็นพรเอง หาใช่จะไปขอพรจากผู้ใดอื่น

ทำดีนั่นแหละคือพร ทำดีขณะใด ก็เป็นพรขณะนั้น ใครทำดีมาก ก็จะได้พรมาก ใครทำดีต่อคนอื่นมาก ก็คือผู้ได้รับพรมาก และคนอื่นก็พลอยได้พร คือได้รับความดีนั้นไปด้วย เพราะคนทำความดี จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น คนอื่นๆเมื่อไม่ถูกเบียดเบียน เขาก็จะเกิดความสุข นั่นแหละคือพร ด้วยกัน ทั้งสองฝ่าย

ไม่ใช่ไปขอพรจากใครๆ ด้วยการไปทำให้เขาเดือดร้อน แม้แต่ทำพิธีขอพร แต่เกิดความเสียหายขึ้น เช่นไฟไหม้ด้วยการจุดขอพร ไปดื่มให้พร แล้วเกิดเมา ก่อทะเลาะวิวาท ขับรถเกิดอุบัติเหตุ หรือ ลงข้างถนน ขณะเดินทางไปขอพร หรือเดินทางไปให้พรคนอื่น การขอพร การให้พรด้วยวิธีนี้ คงจะไม่ได้พร อันแท้จริงแน่นอน

ฉะนั้นบทความฉบับวันพิเศษ จึงขอเขียนวิจารณ์พิเศษ เพื่อเป็นการชี้ทางการให้พร การรับพรที่ง่ายขึ้น แด่ผู้อ่านทุกๆ ท่าน ในเดือนพิเศษ วันสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่เป็นพิเศษเช่นกัน แม้คำติกลับคืนมา ก็ขอน้อมรับ ถือเป็นพรอันประเสริฐ ที่ผู้เขียนได้รับไปพร้อมๆ กันด้วย

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๓ ธันวาคม ๒๕๔๗ -