เรื่องสั้น - ณัฐกร -
ของเล่น (หลอก) เด็ก


"แม่ๆ บอลอยากได้หุ่นยนต์ตัวนั้น รุ่นใหม่ล่าสุดเลยด้วย แม่ซื้อให้นะๆ"

"ไม่เอาลูก ราคาไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ ซื้อไปเดี๋ยวก็ทำพังอีก"

"คราวนี้ไม่พังแน่ๆ ฮะ บอลสัญญา ซื้อนะ ซื้อๆ"

"เอ๋! แม่ไม่เชื่อหรอก ก็พูดแบบนี้ประจำนั่นแหละ ไปได้แล้ว แม่จะไปซื้อเสื้อผ้าที่แผนกโน้นต่อ"

ไหงงั้นล่ะ?! บอลอุตส่าห์สัญญาแล้วนะ ทำไมแม่ไม่เชื่อบอลมั่ง ก็เค้าจะเอานี่! เพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็มีกันทั้งนั้น อย่างเจ้าต้อม เมื่อวานมันก็เอามาเล่นอวดที่โรงเรียน เจ้านนท์ก็มาบอกว่าพ่อเพิ่งซื้อให้ ขืนไม่มีไปโชว์เดี๋ยวพวกเพื่อนๆ ก็หาว่าบ้านบอลยากจนแน่ๆ แย่แล้ว! แม่จะเดินไปแล้ว ทำเป็นเศร้าไว้ก่อนดีกว่า!

"ไปได้แล้วบอล เร็วๆ เข้า"

แม่เรียกแล้ว แต่ไม่มีวันซะล่ะ บอลจะยืนอยู่ตรงนี้แหละ ฮึ!

"เอ๋! ลูกนี่ยังไง! มานี่เดี๋ยวนี้เลย"

แม่เดินเข้ามาฉุด ผมทำเป็นฝืนไว้ ทำขาแข็งๆ ก้มหน้านิ่ง กลั้นหายใจให้ดูหน้าแดงๆ แม่เลยดึงแขนผมใหญ่ พยายามจะให้เดินตามไปให้ได้ ดีล่ะ! ต้องใช้ไม้ตาย คิดถึงเรื่องเศร้าๆเข้าไว้ แล้วก็แหกปากเลย!

"แง้!! ไม่ไปๆ อยากได้หุ่นๆ !!!"

ผมร้องโวยวายลั่นทางเดิน แกล้งทำเป็นสะอึกสะอื้น ส่งเสียงออกไปก่อน เดี๋ยวน้ำตาก็จะตามออกมาเอง คอยดูสิ แม่นะแม่ บอลจะเอาเจ้าหุ่นกั้นดั้มให้ได้!!

"เงียบๆ !! โธ่อย่าร้องสิ อายคนอื่นเขาบ้าง"

แม่ชักเริ่มหน้าเสีย หันซ้ายหันขวา แม่เค้าเป็นโรคกลัวสายตาคนอื่นฮะ งานนี้มีลุ้น ต้องใส่ความเป็นดาราเจ้าบทบาท อย่างพี่จินตหราที่แสดงในทีวี ผมก็เลยลงไปนอนกับพื้นห้าง ชักดิ้นชักงออยู่ตรงนั้น แกล้งทำเป็นบีบน้ำตา

"ฮือๆๆ เค้าจะเอา ไม่ยอมๆ !!"

"ตายแล้ว! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ โธ่ลูกจ๋า อย่าร้องๆ นิ่งเสียๆ"

แม่พยายามปลอบ พลางเอามือมาปิดปาก แต่ผมสะบัดหน้าไปมา ดีดดิ้นทุรนทุรายให้สมจริงสมจัง งานนี้ดาราออสการ์เป็นต้องหลบ เมื่อมาเจอฝีมือของผม ฮิๆๆ เหลือบไปเห็นมีคนมามุงดูเต็มไปหมด เย้!! แผนเรียกร้อง
ความสนใจได้ผล ทีนี้ละ แม่ต้องซื้อให้แน่ๆ"

"ก็ได้ๆ ลูก โธ่เอ๊ย...ลุกขึ้นได้แล้ว แม่จะซื้อให้แล้ว ดูสิเสื้อผ้าเปื้อนหมดเลย"

แม่จับผมลุกขึ้นยืน พร้อมกับปัดเสื้อผ้าที่เลอะฝุ่น ผมแกล้งทำจมูกฟึดฟัด ขยี้ลูกกะตาต่ออีกเล็กน้อย ให้ดูแนบเนียน ว่าเค้าร้องไห้มาจริงๆ นะ ไม่ได้โกหกซะหน่อย เชื่อจิ!

"นี่ค่ะเงิน" แม่ยื่นแบงก์สีม่วงๆ ให้พี่สาวคนขายไป ๔ ใบ แล้วพี่สาวก็ส่งแบงก์สีแดงๆให้แม่แทน ๒ ใบ พร้อมกับเอาถุงใส่เจ้าหุ่นกั้นดั้มมาให้ผม เย้เสร็จเรา

พี่สาวยกมือไหว้ พลางทำยิ้มๆ มองหน้าแม่ ที่กำลังเอาเงินทอนใส่ในกระเป๋าตังค์ และถอนหายใจ แล้วพี่เค้าก็มองมาที่ผม พี่สาวคนนี้คงคิดอยู่ในใจแหงๆ ว่า วันหลังมาดิ้นหน้าร้านพี่บ่อยๆ นะหนูจ๋า ฮิฮิ สายตาพี่เค้ามันฟ้อง
......................................
ภาพในความทรงจำผุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อผมกับภรรยาเดินผ่านหน้าแผนกของเล่นเด็ก ผมอดขำในใจไม่ได้ ทำไมตอนเด็กๆ ถึงอยากได้สิ่งของพวกนี้นะ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ มันช่างไร้สาระสิ้นดี คิดๆ ไปก็สงสารแม่ในตอนนั้นที่ต้องควักเงินซื้อของเล่นหลอกเด็ก ราคาตั้งเป็นพันๆ แถมผมเอาไปเล่นได้ไม่กี่อาทิตย์ก็พังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะเอาเงินนั่นไปซื้อของที่มันมีสาระประโยชน์มากกว่านี้ อย่างเช่นหนังสืออ่านดีๆสัก ๒-๓ เล่ม หรือจะเป็นรองเท้าคู่ใหม่ก็ไม่เลว

"พี่บอลคะ เราไปกันได้หรือยัง" ภรรยาสะกิดเรียก เมื่อเห็นว่าผมหยุดยืนเหม่ออยู่นาน

"ไปสิ พี่ชักหิวข้าวเสียแล้ว เดี๋ยวเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันดีไหมจ๊ะ?"

"อุ๊ย! ดีสิคะ กำลังอยากอยู่พอดีเชียว"

ภรรยาสุดที่รักของผมบอก พลางขยับเข้ามาเกาะแขนอย่างน่าเอ็นดู ผมประคองภรรยาออกเดินเคียงกันไปด้วยความทะนุถนอม รู้ไหมครับ ภรรยาผมท้องได้ ๓ เดือนแล้ว ผมกำลังจะได้เป็นพ่อคน ไม่มีอะไรทำให้ผมมีความสุขได้เท่านี้อีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างในห้างที่โชว์อยู่นี่ ดูเหมือนไร้ค่าไร้ความหมาย เมื่อมาเทียบกับชีวิตเล็กๆ ที่กำลังนอนอุตุอยู่ในครรภ์ภรรยาผม

ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าร้านอาหารโซนด้านหน้า มีผู้ประกอบการนำรถยนต์รุ่นใหม่มาโชว์ และเปิดให้ผู้สนใจได้จอง ผมจูงภรรยาแวะไปชม แหม...แต่ละคันสวยจริงๆ แฮะ เซลส์แมนเห็นผมซึ่งแต่งตัวอย่างภูมิฐาน เขารีบเข้ามา
พรีเซ็นต์ทันที

"สนใจรุ่นนี้เหรอครับพี่ ตาแหลมมากครับ รุ่นนี้เหมาะกับพี่และก็แฟนพี่มากเลย ภายในกว้างขวาง เบาะหนังแท้ ซีดีเชนเจอร์ ลำโพง ๖ แชนแนล คอนโซลสไตล์สปอร์ต บนหลังคายังมีซันรูฟด้วยครับ" เซลส์แมนโม้น้ำลายฝอย พลางยื่นโบรชัวร์มาให้ เมื่อเห็นผมเข้าไปลองนั่ง และลูบคลำพวงมาลัยอย่างชื่นชม โดยภรรยาผมยืนดูอยู่ห่างๆ

"ดาวน์แค่ ๑๕ % ผ่อนสบายๆ ๔๘ เดือน เดือนละ ๒๐,๐๐๐ ดอกเบี้ยแค่ ๒ % เท่านั้นครับ"

ผมเลียริมฝีปาก ถูกใจรุ่นนี้ชะมัด หันไปมองหน้าศรีภรรยา เหมือนรู้ใจผม เธอรีบเตือนว่า

"เอาไว้ก่อนละกันนะพี่ เรายังไม่ถึงกับจำเป็นต้องใช้หรอก และอีกอย่างราคามันค่อนข้างสูงไปหน่อย ยิ่งเราใกล้จะมีลูกแล้ว ยังมีอะไรๆ ให้ต้องจ่ายอีกเยอะ ถ้าพี่สนใจรถจริงๆเดี๋ยวเราไปหามือสองสภาพดีๆ มาใช้ดีกว่านะ"

"แต่คันนี้เป็นรุ่นล่าสุดเลยนะ เพื่อนๆ ที่ทำงานก็แนะนำมาเหมือนกัน อย่างเจ้านนท์ก็ว่าจะซื้อรุ่นนี้เดือนหน้า เจ้าต้อมก็เพิ่งขับมาโชว์ถึงที่ทำงานเมื่อวานนี้เอง แล้วแบบนี้จะให้ผมขับมือสองเก่าๆ ได้ยังไง" ผมเถียง พยายามอธิบายเหตุผลให้หุ้นส่วนกระเป๋าเงินร่วมกันรับรู้ แต่ภรรยาผมไม่ยอมท่าเดียว

"ไม่เอาละ ไปเหอะพี่ ฉันหิวแล้ว"

เธอเริ่มโมโหหิว เตรียมจะลากผมออกไป ผมทำเป็นฝืนไว้ ทำขาแข็งๆ ก้มหน้านิ่ง กลั้นหายใจให้ดูหน้าแดงๆ เธอดึงแขนผมใหญ่ พยายามจะให้เดินตามไปให้ได้ ดีล่ะ! ต้องใช้ไม้ตาย คิดถึงเรื่องเศร้าๆ เข้าไว้ แล้วก็แหกปากเลย!

"แง้!! ไม่ไปๆ เค้าอยากได้รถ!!!"

ผมร้องโวยวาย แกล้งทำเป็นสะอึกสะอื้น ส่งเสียงออกไปก่อน เดี๋ยวน้ำตาก็จะตามออกมาเอง คอยดูสิ! ผมจะเอารถคันนี้ให้ได้!!

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๗๔ มกราคม ๒๕๔๘ -