โคตรเง่า-โคตรเหง้า
หลายฉบับพบที่ผิด... แต่คงเป็นธรรมดาของการพิมพ์ ซึ่งผิดได้เสมอ สำหรับฉบับล่าสุด
(๑๗๖) จากผู้อ่าน ในหน้า ๔ คอลัมน์ขวา หัวข้อ "สกุลอธิษฐานจิต"
ถ้าใช้ โคตรเง่า คงไม่สุภาพ น่าจะเป็นโคตรเหง้า ขอให้ บ.ก. เปิดพจนานุกรม
ตรวจดูด้วย ทั้งฉบับของราชบัณฑิตยสถาน และฉบับ "มติชน" ต่อไป บ.ก.
ต้องใช้อีกจะได้ใช้ถูกต้อง
ไน้ กทม.
- จะสื่อความถึงโคตรเหง้าเหล่ากอ ไหงขาดสติหย่อนสตังขนาดหนัก
กลายเป็นโคตรเง่า (โคตรโง่เง่า) ไปได้
ความหมาย ไปคนละแควเลยครับ กราบขออภัยผู้อ่าน และขอคารวะ-ขอบคุณผู้เมตตาชี้ขุมทรัพย์ด้วยครับ
ทีหลังอย่าเง่า ...ทีหลังอย่าเง่า
ผิด-ไม่ผิด
ประชุมสภาผู้แทน ยุค "๔ ปีสร้าง" ครั้งแรก ท่านประธานโภคิน พลกุล
ก็สร้างปรากฏการณ์ ไว้เป็นประวัติศาสตร์แห่งสภาไทย โดยยกมือโหวตเสียง เลือกหัวหน้าพรรคของตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งๆ ที่นั่งเอ้เต้อยู่บนแท่นประธานขณะประชุมสภา เมื่อมีเสียงท้วงติงว่า
ถ้าจะใช้สิทธิออกเสียง ก็ควรลงมาจากที่นั่งประธาน ท่านก็แย้งว่าไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ
กฎหมาย หรือระเบียบ ผมว่ามันก็ถูก อย่างที่ท่านว่า แต่ไม่ถูกทั้งหมดหรอก
ส.ส.เก่าและแก่ กทม.
- อันที่จริงฝักถั่วของไทยรักไทย ในสภาก็เหลือรับประทานอยู่แล้ว
คู่แข่งก็ไม่มีหัวหน้าพรรค ที่เคารพต้องเป็นนายกฯ อยู่วันยังค่ำ ถ้าท่านประธาน
จะรักนวลสงวนตัว เพื่อความสง่างาม สมกับศักดิ์ และสิทธิ์ของหัวโขน ประธานรัฐสภาไทย
ก็จะโสภาสถาพรกว่านี้ นอกจากตัวบทกฎหมาย ที่ท่านอ้างอิง เพื่อความชอบธรรมแล้ว
มารยาทก็เป็นคุณสมบัติ ประการหนึ่งที่นักการเมืองคุณธรรมพึงสังวรมิใช่หรือ
การตะแบงอ้าง ๑๙ ล้านเสียงที่เลือกไทยรักไทย ในกรณีนี้ มันคนละเรื่องเดียวกันนะ
ท่านประธานที่เคารพ
รัฐบาลเก่า -รัฐบาลใหม่
คณะรัฐมนตรีทักษิณ ๒ เผยออกมาแล้ว ถึงจะไม่เซอร์ไพร้ซ์เพราะไม่คลีนสมราคาคุยแต่ก็ไม่ถึงกับช็อค
เพราะหน้าตา พอทนดูได้
อุไร วรรณะทอง ปราจีน
- แค่พอทนดูได้ก็พอแล้วน่า จะเอาอะไรกันนักหนา ต้องเห็นอกเห็นใจหัวหน้าพรรคบ้าง
ถึงจะผูกขาด จัดตั้งรัฐบาล พรรคเดียวก็จริงอยู่ แต่ก็มีหลายวัง ถ้าไม่เอื้ออาทรให้ทั่วถึง
ก็ไม่พ้นวังเวง ปล่อยให้นายกฯ เก่าเป็นนายกฯ ใหม่ เล่นบท "๔ ปีสร้าง"
ต่อไปตามสบายเถอะครับ เป็นไงเป็นกันน่า
ดำ-ขาว
ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่ขอใช้สิทธิ์ผู้ยืมอ่านนะคะ ดิฉันอ่านข้อเขียนในคอลัมน์ปิดท้ายของเราคิดอะไร
หลายฉบับ รู้สึกว่า ออกไปในเชิงมองโลก เป็นสีดำ ด้านเดียว เอาแต่ติติงแบบนี้
จะมีประโยชน์อะไร แก่สังคมล่ะคะ
ดวงดาว เชียงใหม่
- ถ้าไม่ท้วงติงมาก็ไม่รู้ว่ามีคนอ่านปิดท้ายด้วยความใส่ใจเนื้อหา
เป็นพระคุณครับที่กรุณา อันที่จริงโลก มีทั้งสีขาวและสีดำ ผู้เขียนก็มองเห็น
ทั้งสีขาว และสีดำนั่นแหละครับ แต่ที่หยิบยกเอาความจริง ที่เป็นสีดำขึ้นมาชู
เพราะอยากเห็นสีดำ เจือจาง เป็นสีเทาและเป็นสีขาวในที่สุด ถ้าเป็นไปได้ดังนี้
สังคมจะไม่ได้อะไรเลยหรือครับ
วันวิสาขบูชา
งานวิสาขบูชาที่พุทธมณฑลที่ผ่านๆ มา ทุกปี ดูเหมือนจะเน้นหนักด้านพิธีกรรม
เช่น เวียนเทียน สวดมนต์ ประพรมน้ำมนต์ ให้พร ทำบุญใส่บาตร ด้วยอาหาร ดอกไม้ธูปเทียน
เป็นต้น จะมีการแสดง ธรรมเทศนา เป็นสาระเสริมบ้างเล็กน้อยเท่านั้น วันสำคัญของพุทธศาสนาปีละครั้ง
น่าจะได้เนื้อหา สาระสัจธรรม มากกว่านี้
สารี นครชัยศรี นครปฐม
- เมื่อ ๒๐ ปีก่อน เคยตั้งใจไปงานครั้งหนึ่ง แต่ฝ่ายจัดงานแจ้งว่าจะต้องแต่งชุดสีขาวจึงจะเข้าร่วมงานได้
ผมจนปัญญา เพราะไม่มี จึงถอยทัพ หลังจากนั้น ก็ไม่เคยไปอีกเลย แว่วข่าวว่าปีนี้จะปฏิรูปการจัดกิจกรรม
ส่วนจะหลุดพ้นกรอบเดิมๆ ได้แค่ไหนก็ลองติดตามไปดู อาจจะพบธรรมลีลา ที่ชวนหันหน้า
เข้าวัดปฏิบัติธรรม อย่างคาดไม่ถึงก็ได้นะครับ
ลบ-บวก
ข่าว น.ส.พ.เมื่อเช้า ได้ความว่า ส.ส.ลลิตา ฤกษ์สำราญ รองประธานสภา ที่ ๒
ไอเดียกระฉูด จะของบประมาณสภา จัดห้องเสริมความงามประจำสภา พร้อมด้วยเครื่องสำอางและบริการครบครัน
ให้ ส.ส.หญิงแวบเข้าไปเสริมเสน่ห์ ได้ตลอดเวลา ชะรอยจะยึดถือ คำพังเพย ไก่งามเพราะขน
คนงาม เพราะแต่ง
นักข่าว กทม.
- "ไก่งามเพราะขน" ก็เพราะไก่จนปัญญาจะงามอย่างคน
"คนงามเพราะแต่ง" หากจะตีความว่า "แต่งตัว" คนก็มีค่า
ระดับเดียวกับไก่อมโรคแถวสนามหลวง คนจะตกต่ำขนาดนั้นเชียวหรือครับ เอาละ
ไก่จะงาม เพราะขนก็ช่างไก่เถอะ แต่คนต้องงามเพราะแต่ง (ปรับเปลี่ยน พัฒนา)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ให้เพียบพร้อมด้วยศีลด้วยธรรม สมกับเป็นคน มีปัญญากว่าไก่
ถ้าคิดว่า ส.ส.หญิง มีค่าแค่แม่ไก่ก็สุดแท้แต่เหอะ
ฝันร้าย - กรรมสั่ง
ได้เขียนบทความมา ๒ เรื่อง คือเรื่อง "คืนฝันร้าย" และ "กรรมสั่ง"
ส่งมาพร้อมกับสมัครเป็นสมาชิก หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ๔ เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับ
หนังสือตอบรับ...ทั้งๆ ที่ใบปะหน้าบทความ ก็ขอให้ตอบรับด้วย โดยทั่วไปถือว่าผิดมารยาท...
บทความของข้าพเจ้า หากไม่ได้รับ การต้อนรับ... หรือ ด้วยเหตุผลใด ก็ขออภัย
โปรดส่งคืนด้วย เพื่อจะได้เผยแพร่ ยังที่อื่นต่อไป แต่หากไม่ได้รับคืน ด้วยสาเหตุ
ทำลายทิ้งไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร จะปล่อยวาง ไม่ถือสา
อำนวย ตาเย็น นครสวรรค์
- ได้รับเรื่อง "คืนฝันร้าย" และ "คนไม่ได้บ้า"
ไว้แล้วครับ เมื่อ ๑๖ พ.ย. ๔๗ เวลา ๑๐.๔๕ น. และส่งให้กอง บ.ก. รับไว้พิจารณา
ลงตามลำดับ ตามปกติ เราไม่ได้ตอบรับ ผมเคยเขียนบทความส่งไปในที่ต่างๆ ต่อเนื่องกันมานาน
ก็ไม่เคย ได้รับตอบ และไม่เคยขอให้ตอบ เพราะถือว่าตนเองมีหน้าที่เขียน ส่งไปแล้ว
ก็เป็นอันจบกิจ ส่วนผู้รับเรื่อง มีหน้าที่พิจารณา จะลงหรือไม่ลง ก็เป็นเรื่องของผู้รับ
ไม่ใช่เรื่องของผู้เขียน ผมคิดอย่างนี้ครับ แต่กรณีนี้เห็นว่า ผู้เขียนขอให้ตอบ
กอง บ.ก.จึงโทรศัพท์แจ้งตอบรับ ผู้หญิงรับสาย จึงฝากความไว้ พอได้รับจดหมายฉบับล่าก็
พอดีเรื่องอยู่ที่ โต๊ะพิมพ์ต้นฉบับ จึงถอดออก และส่งคืน เพื่อยืนยันว่ามิได้ทำลายทิ้ง
และใคร่ขอชี้แจงว่า สำนักพิมพ์มีอาสาสมัคร ประจำสำนักงาน ๒-๓ คน ทั้งมีภารกิจบุญนิยม
(ไม่มีเงินค่าจ้าง) อีกหลายด้าน การปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกจึงไม่สมบูรณ์ หากถือสา
ว่าผิดมารยาท ก็ขอน้อมรับ และขอได้โปรดอภัยด้วยขอรับ
- บรรณาธิการ -
-เราคิดอะไร
ฉบับที่ ๑๗๗ เมษายน ๒๕๔๗ -
|