ชีวิตไร้สารพิษ - ล้อเกวียน
- มนุษย์เราเกิดมาอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ต้องขึ้นอยู่ที่ "กรรม" กับ "กาละ" ผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร มากเท่าใด อาหารก็จะต้องใช้เครื่องเทศ และความเผ็ดร้อน มากขึ้นเท่านั้น ถ้าอาศัยอยู่ห่างจาก เส้นศูนย์สูตร ออกไป เครื่องเทศและความเผ็ดร้อนของอาหาร ก็จะลดลงตาม ผู้คนเมืองหนาวกระเพาะอาหารและม้าม จะแข็งแรง จึงย่อยแครอทได้ดี ส่วนผู้คนเมืองร้อน เช่น พวกอาฟริกันหรือพวกเมกซิกัน จะกินข้าวโพดโดยใช้พริกและเครื่องเทศเป็นกำๆ สำหรับ ช่วยย่อย ดังนั้นอาหารพื้นบ้านของคนไทยในแต่ละภาคจึงไม่เหมือนกัน เช่น - ภาคเหนือ มีน้ำพริกหนุ่มกับแกงแค (ที่มีสะค้านช่วย) ซึ่งมีรสเปรี้ยวและเผ็ดนิดหน่อย - ภาคอีสาน มีส้มตำ ไม่ต้องใส่พริกมากกินกับข้าวเหนียวกล้องจะดี มีสุกี้ลาวเป็นแจ่วฮ้อน (แกงจืด ใส่น้ำพริก) - ภาคใต้ มีแกงเหลือง จะใช้ขมิ้นกับพริกแก้ไม่ให้ลำไส้อักเสบ และแกงเขียวหวาน จะใช้กระชาย และ พริกไทยเม็ด ช่วยทำให้กะทิไม่มีปัญหา # # # เมี่ยงคำ - เครื่องประกอบมี ขิง ถั่วลิสงคั่ว มะพร้าวคั่ว หอมแดง มะนาว - น้ำราดใช้น้ำมะขามเปียกกับน้ำตาลทรายแดง(เคี่ยว) [ถั่วลิสงคั่วทั้งเปลือกใน (สีแดง) ที่หุ้มเมล็ด โดยใช้น้ำเกลือพรม เกลือจะช่วยไม่ให้น้ำซึมเข้าเนื้อ ป้องกัน ความชื้น ไม่ให้เกิดเชื้อรา และจะช่วยรักษาความกรอบเอาไว้ได้นาน] # # # เมี่ยงญวน - ส่วนประกอบใช้ผักแพว และผักใบเขียวต่างๆ พร้อมทั้งผักตระกูลมิ้นท์ (ให้ความเย็นอบอุ่น ชำระเมือกได้) - น้ำราด ใช้กระเทียม+หอมแดง+พริกคั่วตำแล้วใส่ลงไปในน้ำมะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาลทรายแดง [พยายามใช้ผักหมุนเวียนหลายๆ ชนิดตามฤดูกาล] # # # ถ้าร่างกายของเรามีปัญหาที่... ...ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเป็นธาตุน้ำ ควรจะเพิ่มอาหารสีดำ เช่นลูกหม่อน มันต่อเผือก ...ลำไส้เล็กหรือหัวใจ ซึ่งเป็นธาตุไฟ ควรจะเพิ่มอาหารสีแดง เช่น มะเขือเทศ หัวปลี ...ปอดหรือลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นธาตุลมควรจะเพิ่มอาหารสีขาวเช่นผักกาดขาว เห็ดหูหนูขาว ...ตับหรือถุงน้ำดี ซึ่งเป็นธาตุไม้ ควรจะเพิ่มอาหารสีเขียว เช่น ผักใบเขียวต่างๆ ฉะนั้นการปรับร่างกายด้วยอาหารจึงจำเป็นจะต้องเอาปัจจุบันเป็นหลัก อาหารที่เป็นกลาง จะต้องดูที่ภูมิประเทศ และดูเวลา ตอนเช้าตื่นนอนควรจะดื่มน้ำอุ่นๆ หรือของร้อนๆ เป็นการเผาหัวเครื่องยนตร์ก่อน จะสตาร์ทเครื่อง ช่วงเวลา ๑๑ โมงเช้า ถึง ๔ โมงเย็น จึงจะดื่มของเย็นได้ และที่สำคัญ "อาหารที่เป็นกลาง" จะต้องครอบคลุมทั้ง ๕ ระบบ อันได้แก่ # # # ชาล้างพิษในลำไส้ ช่วยลดไขมันในลำไส้ ๑. กะเพรา ๒. โหระพา ๓. สะระแหน่ ๔. ตะไคร้ (ทั้งต้น) ๕. ใบมะกรูด ต้มอย่างละ ๑ กำมือ ในน้ำ ๑๐ แก้ว เริ่มจับเวลาจากน้ำเดือดไป ๑๐ นาที ยกลงจากเตา ปิดฝาเอาไว้ก่อน สัก ๒-๓ นาที เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยนอนตัว จึงจะเปิดฝากรองเอากากออก ดื่มแต่เช้า ให้หมด น้ำนี้ จะช่วย กระจัดมูกเมือก ในระบบทางเดินอาหารทั้งหมด และช่วยปรับให้ลิ้น รับรสชาติที่แท้จริง เพื่อนำไปสู่ ความเป็นกลาง เข้าสู่ภาวะปกติ จะทำให้อาหารที่คุณกิน แม้ไม่มีน้ำตาล ก็หวานได้ แม้ไม่มีเกลือ ก็เค็มได้ ตามธรรมชาติ # # # ซุปผัก ช่วยฟื้นฟูอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย - ใช้พืชผักสีแดง ๑ ส่วน ได้แก่ มะเขือเทศ ทุกชนิด - ใช้พืชผักสีขาว ๑ ส่วน ได้แก่ หอมแขก ต้นหอม หัวไช้เท้า ใส่น้ำขลุกขลิกต้มพอเดือด (อบ) ยกลงจากเตาเพิ่มน้ำธรรมดา เพื่อลดอุณหภูมิ กะพอกิน นำไปปั่น แล้วตั้งไฟ ไม่แรง พอเดือดนิดหน่อย ก็ยกลงได้ (การเดือดปุดแรก = ๘๐ํ, ๒-๓ ปุด = ๙๐ํ , หลายๆ ปุด = ๑๐๐ํ) ปรุงรสด้วยพริกไทยดำป่นได้เล็กน้อย กินตอนเช้าก่อนอาหารอื่นทั้งหมด เพื่อมิให้ร่างกาย ต้องทำงาน หนักเกินไป จึงกินแป้งตามทีหลัง # # # น้ำปั่นผัก - ผักกาดหอม ๒ ใบใหญ่ (จะใช้ผักบุ้งนาเขียวแทนก็ได้) จะมีสีเหลืองบำรุงม้าม สีเขียวบำรุงตับ สีขาว (ยาง) บำรุงปอด บางทีมีรสขมบำรุงลำไส้เล็กและหัวใจ - ขึ้นฉ่าย ๒ ก้านใหญ่ (จะใช้ผักชีล้อมก็ได้) ก้านอวบยาวเหมือนเส้นเลือดทำให้หลอดเลือด แข็งแรง - หอมใหญ่ ๑/๔ หัว (จะใช้หอมแขก ต้นหอม หัวไช้เท้าแทนได้) ช่วยทำให้ปอดและหัวใจแข็งแรง - มะเขือเทศ ๑ ผลใหญ่ มะเขือเทศสีดา ๕-๖ ผล ช่วยทำให้เม็ดเลือดแดงแข็งแรง - เสาวรส ๑ ผล (หรือน้ำมะนาว ๒ ช้อนโต๊ะ) ฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน รสเปรี้ยวช่วยขับสารพิษที่ม้ามและตับ - น้ำมะพร้าวอ่อนพร้อมเนื้ออ่อน ๒ แก้วช่วยบำรุงเส้นเอ็น มีฮอร์โมนธรรมชาติมากมาย และช่วยบำรุง กล้ามเนื้อ นำมาปั่นรวมกัน ควรจะดื่มทันที หรือไม่เกินครึ่งชั่วโมง # # # นมธัญพืช ประกอบด้วย :- ข้าวกล้อง + เม็ดบัว(แห้ง หรือสด) + ลูกเดือย วิธีทำ : แช่เม็ดบัว+ลูกเดือยด้วยน้ำเกลือ (๒๐ นาที) แล้วล้างน้ำสะอาด ใส่น้ำปริมาณท่วมพอดี ต้มด้วย ไฟแรงให้เดือด ปิดไฟ ทิ้งแช่เอาไว้ ๑ ชั่วโมง แล้วจึงต้มต่อไป ด้วยไฟกลางจนสุก ค่อยๆเจือน้ำธรรมดาลงไป เพื่อลดอุณหภูมิ แล้วจึงนำไปปั่นกับข้าวกล้อง (ที่หุงสุกแล้ว) ปั่นพรืดแรกหยุด ปั่นอีกพรืดก็หยุดได้ ต้มน้ำให้เดือดรอไว้และเทของที่ปั่นเอาไว้ลงไป จะไม่ติดก้นหม้อ แล้วคนไปเรื่อยๆ จนเดือด จึงยกลงได้ # # # หัวน้ำผลไม้เข้มข้นเอ็นไซม์(น้ำหมักชีวภาพเพื่อบริโภค) ประกอบด้วย : ผลไม้ต่างๆ /น้ำผึ้ง/น้ำ หมักให้ได้ ๖ ปี ขึ้นไปถึงจะกินได้ ขบวนการหมัก จะเริ่มเป็นน้ำส้มก่อน แล้วจึงเป็นแอลกอฮอล์ เมื่อผสม กับน้ำผึ้ง ขั้นตอนสุดท้าย จึงจะเป็นเอ็นไซม์ เราจะหยุดขบวนการทั้งหมด ด้วยการใส่น้ำผึ้ง ๑ ต่อ ๑ จึงเป็น หัวน้ำผลไม้ เข้มข้น เมื่อเราต้องการจะนำไปสกัดสมุนไพรต่างๆ ก็ต้องใช้ หัวเชื้อ / น้ำผึ้ง / น้ำ / สมุนไพร (๓ ส่วน) / (๑ ส่วน) / (๓๐ ส่วน)/ (๒ ส่วน) # # # ชาชะล้างของเสียในเลือด # # # ยาแก้อักเสบ ข้อควรระมัดระวังในการหุงต้มปรุงอาหารผ่านความร้อนไม่ควรใช้ภาชนะอะลูมิเนียม เป็นอันขาด สารพิษ จะทำลายสมองให้ฝ่อ ใช้ภาชนะดิน หรือทองเหลือง จะดีที่สุด (สเตนเลสพอหุงข้าวได้) (สูตรต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากสมัยจักรพรรดิจีน เมื่อ ๒ พันกว่าปีมาแล้ว) -เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๐ กรกฎาคม ๒๕๔๘ - |