- นายนอก ทำเนียบ -


แก้ได้ ถ้ารัฐบาล...?

การกีฬาทุกวันนี้มุ่งเน้นแต่ชัยชนะ เหรียญ รางวัล เงินตรา มากกว่าการออกกำลังกาย และการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
นักกีฬาจึงเจ้าอารมณ์ ขี้บ่น ขี้โวยวาย ไม่ค่อยมีสปิริต เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีของเยาวชนไปโดยปริยาย
ต่อไปการกีฬาคงเป็นสาเหตุแห่งการทะเลาะวิวาทบาดหมางและสงครามในที่สุด

ผมรู้สึกประทับใจที่ท่านนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันพุธที่ ๓๐ พ.ย. ๒๕๔๘ ว่า

เดี๋ยวนี้ กีฬาน่าเบื่อ เพราะมุ่งเน้นในชัยชนะ เหรียญรางวัล จนขาดสปิริต ดังนั้นนักกีฬาที่ดี พึงเน้นสปิริตมากว่าชัยชนะ หรือ เหรียญรางวัล

ผมรู้สึกประทับใจในความห่วงใยของท่านนายกฯ ทักษิณ เกี่ยวกับการกีฬาที่มุ่งเน้นชัยชนะจนเกินไป

แต่ผมรู้สึกว่าปัญหานี้คงแก้ไขยาก ตราบใดที่เราสร้างค่านิยมให้เงินรางวัลมากมายแก่ผู้ได้รับชัยชนะมากกว่าผู้มีสปิริต

ก็คงไม่ต่างจากเรื่องหวยบนดิน ที่ท่านนายกฯ บอกว่าไม่อยากให้ประชาชนซื้อหวย แต่สำนักสลากกินแบ่ง ก็รู้สึกผิดหวัง ถ้ารายได้ แต่ละงวดน้อย จนต้องหาวิธีเพิ่มรางวัลต่างๆ ให้สูงขึ้น

ก็คงไม่ต่างจากเรื่องเด็กวัยรุ่นฟุ่มเฟือย ใจแตก หลงแฟชั่น ในขณะที่รัฐบาลส่งเสริมแฟชั่น นุ่งน้อยห่มน้อยไปในที่สาธารณะ

ก็คงไม่ต่างจากเรื่องเศรษฐกิจทุนนิยม ที่ท่านนายกฯ เป็นห่วงว่าจะทำให้คนไม่สนใจศีลธรรม ในขณะที่รัฐบาลพูดเรื่องเงิน เน้นเรื่อง ความร่ำรวยเงินทองเกือบตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสสื่อสู่ประชาชน

หลวงปู่พุทธทาสกล่าวว่า "ศีลธรรมไม่กลับมาโลกาจะวินาศ" ผมและเพื่อนจึงอยากให้ รัฐบาลเน้นเรื่องศีลธรรม ให้มากว่า ชัยชนะ รางวัล เงินตรา ให้ยิ่งขึ้นครับ

อ้อ! เกือบลืมชื่นชมนายกฯ ทักษิณ อีกเรื่องที่น้อมเกล้าต่อพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในรัชกาลที่ ๙ ที่มีพระชนม พรรษา ๗๘ ชันษา ให้ทนายถอนฟ้องคนที่วิจารณ์ท่านนายกฯ นี่แหละครับวุฒิภาวะผู้นำ ต้องกล้าน้อมรับคำวิจารณ์ ทุกรูปแบบ และเชื่อฟังผู้ใหญ่ที่ทรงคุณธรรมตักเตือนหรือให้ข้อแนะนำ

พวกผมก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่เป็นมงคลยิ่ง ต่อประเทศชาติบ้านเมือง ที่หาได้ยากเพราะขนาดพวกผมไม่มียศ ตำแหน่งสูง ยังรู้สึกไม่ค่อยชอบฟังคำติคำวิจารณ์เลยครับ แล้วถ้าพวกผม มีตำแหน่ง เช่น ท่านนายกฯ ก็ยังไม่มั่นใจเลยว่า จะไม่เอาเรื่อง คนที่วิจารณ์ผม ในแง่ลบได้

- เราคิดอะไร ฉบับที่ ๑๘๖ มกราคม ๒๕๔๙ -