นัยปก
ไทยยุคมืด
 


 

      ไทยเอยยุคมืดนี้   เป็นจริง
หมากลับเห็นเป็นลิง   ประหลาดแท้
สูงยศแต่ใจลิง   นรกสัตว์
ประเทศล่มกลับชมแม้   แต่ขี้คือบุปผา
      ทำดีกลับถูกย้อน   เห็นเสีย
ชั่วกลับชูชื่นเชียร์   แซ่ซร้อง
โกหกเชี่ยวฉลาดเลีย   คือปราชญ์
โกงฉิบหายกลับป้อง   ปัดอุ้มคนจน

        (สไมย์ จำปาแพง ๗ ธ.ค.๕๑)

ในยุค พฤษภาทมิฬ ปี ๒๕๓๕ ประชาชนได้พากันออกมาต่อสู้กับ เผด็จการ รสช. พลต.จำลอง ศรีเมือง ได้บำเน็จรางวัล จากการเสี่ยงชีวิต ในครั้งนั้น คือข้อกล่าวหาที่ว่า “จำลอง พาคนไปตาย ” แต่ในปี ๒๕๕๑ ที่ต้องต่อสู้กับ ระบอบทุนสามานย์ ที่มุ่งคอรับชั่น - หมิ่นสถาบัน - สร้างความแตกแยก - และแทรกแซง องค์กรอิสระ ซึ่งสู้กันหนักหนา สาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่า ใช้เวลาชุมนุม ตลอด ๒๔ ชั่วโมง นานนับ ๖ เดือน

มีผู้คนหมุนเวียนออกมาต่อสู้ร่วมกันนับล้าน ๆ คน แต่ผลสุดท้าย กลายเป็นว่า คนเหล่านี้คือ “ผู้ก่อการร้าย” และจะถูกฟ้อง เรียกค่าเสียหาย หลายหมื่นล้าน ซึ่งทางลุงจำลอง ก็ยินดีเหมา จ่ายให้หมด เพราะเกือบทั้งชีวิต ที่ผ่านมา ก็ได้ทุ่มเท ให้กับสังคม และประเทศชาติ จนหมดเนื้อหมดตัว แม้แต่บ้านสักหลัง ก็ยังไม่มีเป็นกรรมสิทธิ์ ของตนเอง สมบัติที่ยังเหลืออยู่บ้าง ก็คงเป็น เจ้าของฉายา “มหา ๕-๑-๘” ซึ่งมาจากวัตรปฏิบัติ การอาบน้ำวันละ ๕ ขัน กินอาหารวันละ ๑ มื้อ และถือศีล ๘ ซึ่งสมบัติ ล้ำค่าเหล่านี้ ลุงจำลอง ย่อมยินดีให้มายึดมาฟ้องร้องเอาไปอยู่แล้ว

อำนาจของ “ทุนสามานย์” ที่ไปเล่นงานประเทศอิรัก จนไฟกลียุคลุกขึ้นทั่วแผ่นดิน ทำให้ประชาชน ออกมาเข่นฆ่ากันเอง สร้างความเจ็บแค้น ให้นักข่าวชาวอิรัก ถึงขั้นกล้าเอารองเท้า ขว้างใส่ ท่านมหาพินาศของโลก แต่ทางการอิรัก กลับออกมา ประนาม นักข่าว เดนตาย ผู้นี้ว่า เป็นสิ่งที่น่าละอายอย่างยิ่ง โดยมืดบอด จนไม่รู้ว่า ระหว่าง การขว้างรองเท้า กับการทำให้ ผู้คนต้องล้มตาย ไม่ว่าชาวอิรัก หรือ ชาวอเมริกันก็ตาม อย่างไหน น่าละอายใจ ยิ่งกว่ากัน? หรือ การปิดสนามบิน ของไทย กับการใช้อาวุธรุนแรง ปราบปราม ประชาชน ทั้งในที่แจ้ง และในที่ลับ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนเหล่านี้ ออกมาทำหน้าที่ พลเมืองดี จนบาดเจ็บ ล้มตาย หลายร้อยคน อย่างไหน เลวร้ายกว่ากัน?

ทางการไทยน่าจะออกจากยุคมืดได้ หากไม่ไปเจริญรอยตามทางการอิรัก คนไทยในยุค พระจันทร์ยิ้ม คนดี ๆ ต้องอยู่ได้ คนจัญไร ต้องเสื่อมสูญ ใช่ไหม? พี่น้องเอ๊ยยยยย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

จริงจัง ตามพ่อ

(นัยปก : เราคิดอะไร ฉบับที่ ๒๒๒ มกราคม ๒๕๕๒)