ธรรมดาของโลก จะได้ไม่ต้องโศกสลด สมพงษ์ ฟังเจริญจิตต์

มิตรแท้ : มิตรเทียม : มิตรเสียสละ

 

หนังสือพิมพ์ เราคิดอะไร ฉบับที่ 129

เดือน เมษายน 2544


นักธุรกิจยืนยัน หนทางสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสำคัญ ก็คือเพื่อนฝูง จึงช่วยเหลือ จึงอุ้มชู เลี้ยงดูปูเสื่อ สุดท้ายเมากันทั้งคู่ ก็มีจริง!

"พ่อจ๋า กลับบ้าน" เสียงลูกๆ อาจจะคร่ำครวญ ถวิลหา ชะตามนุษย์เราได้ดี เพราะเพื่อนมากมายมหาศาล เรื่องความสามารถ ยังตกเป็นรอง ส่วนชะตาฟ้าดิน เราไม่รู้ ได้แต่บุกบั่นฟันฝ่า ทำให้เต็มที่ พระเจ้าอาจเมตตา!

ศิลปะแห่งดำรงชีวิตสร้างสรรค์ คือมงคล สูตร ๓๘ พฤติกรรมในข้อแรก เปิดเข่ง ท่าน บัญญัติ "การไม่คบคนพาล ไม่เสวนากับคนพาล" ก่อนเพื่อน มีเพื่อนเลว ไม่จริงใจ ก็เหมือนสร้างบ้านไม่มีเสา ได้แต่รอวันล้มครืน

มงคลสูตรข้อ ๒ บัญญัติต่อเนื่อง "ให้คบบัณฑิต" ชีวิตจะใฝ่ฝันจะเดินทาง หากขาดคู่คิด-คู่อ่าน ไม่ต้องถึงขนาดคู่รัก-คู่รส ก็คงไปไม่ถึง ดวงดาว เพราะโลกนี้กว้างใหญ่ไพศาล เพราะการทำงานสังคมเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพียงแค่หาบขนมขาย จึงต้องอาศัยพลังจากคนข้างเคียง ที่พร้อมร่วมเป็นร่วมตาย

องค์จักรพรรดิราชันต้องมีขุนศึก ผู้แกล้วกล้า เก่งฉกาจ จะเป็นนักบริหารจัดการ ไร้ฝีมือผู้ช่วยที่แข็งขัน ก็ไปได้ แต่เหมือนคนพิการ ยิ่งทำงานระดับประเทศชาติ "ทีมทำงาน" นับว่าสำคัญอย่างยิ่ง กลุ่มนี้เรียกว่า บุ๊ฟเฟ่ต์-คาบิเนต ! แปลไทยเป็นไทย เขาว่า ร่วมกันเขมือบ ส่วนภาษาพ่อขุนราม กรุณาใส่เอาเอง

มิตรดีสหายดี เป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ การก้าวสู่เส้นทางแห่งดวงดารา เพื่อน เป็นเรื่องสำคัญ ทีมงานจึงมิใช่กิ๊กก๊อก ประเภทพรรคโน้นส่งมา บริษัทนี้ส่งมา มีโควต้ามากๆ ร่วมกลุ่มทำงาน เป็นได้ก็แค่ ฝูงปิรันย่า คนไทยจะเหลืออะไร!

เป็นประธานดี เป็นนายกดี นิสัยสมถะ ไม่โกงไม่กิน แต่เหล่ามิตรสหายที่ยืนขนาบข้าง เป็นขุนศึกยอดนักรบชอบซกเล็ก ชอบลาบน้ำตก ชอบกินใต้โต๊ะ ชอบกินตามน้ำ ชอบตั้งด่านไถกันซึ่งๆ หน้า ก็ยากจะบริหารประเทศชาติ ให้รอดปลอดภัย

"ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด..." ยุคต่อสู้กับชาติอื่น ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับ การจับตัว ไส้ศึก ที่ฝักใฝ่ผลประโยชน์ แสวงหาลาภสักการะ และเสียงเยินยอ

ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ดูให้แน่ ต้องไปดูถึงยาย! เทือกเถาเหล่ากอ ก็น่าสนใจ แต่ที่สำคัญกว่าเพื่อน ต้องดู "ภูมิหลัง"

หลายวันก่อน แกยังเป็นเถ้าแก่ เป็นอาเสี่ย ของจะขึ้นราคา แกก็กักเก็บตุนไว้ ของนี้ขายให้ราชการ แกก็แอบเอาเกรด C ให้แทนเกรด A ของที่ขาย ก็แอบลดคุณภาพ ลดส่วนผสมลงไป เพื่อจะได้กำไรมากขึ้น หรือใช้ภาษาทันสมัยก็เรียก ลดต้นทุน แกพลิกแพลงสารพัด หากำไรให้มากเข้าไว้

วันก่อน แกเป็นนักเลง เที่ยวตีหัวชาวบ้าน ทะเลาะกับบ๋อย ชกกับยามเฝ้ารถ วันโน้น แกแย่งที่นั่งเด็กบนรถเมล์ ขณะไปบางแค แล้วก็ที่ดินแดง เติบโตขึ้นมา ก็ไม่เคยเสียสละอะไรกับเขา จะให้ใครก็ดีดลูกคิด คิดแล้วคิดอีก แค่ซื้อของ ต่อราคาแล้ว ต่อราคาอีก ลดอีกสลึงหนึ่งได้มั้ย ของแม่ค้าข้างถนน เพื่อนไม่ยอมเสียเปรียบ... เดี๋ยวมันได้ใจ! แค่รถเฉี่ยวรถชน ยืนโต้เป็นชั่วโมง ไม่มีถอย

คนเสียสละ อยู่ที่ไหนเขาก็มักจะเสียสละ ไม่ว่าที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ถนน ที่รถเมล์ ที่ไหนๆ เขาก็เสียสละ เขามักจะให้โอกาสตัวเอง ได้เสียสละเสมอ คนอย่างนี้แหละ ที่ประชาชนต้องการ อยากให้เข้ามาบริหารบ้านเมือง

สายธารผ่านมาก็ผ่านเลย แต่พฤติกรรมของคนเราในอดีต ก็เป็นดรรชนีชี้วัด ถึงคุณภาพของเขาได้ในวันนี้ อดีตชอบเสียสละ ปัจจุบันก็น่าจะเสียสละ อดีตไม่เคยให้ใคร ปัจจุบันจะทำเป็นคนมีแก่ใจให้ ก็ไม่น่าเชื่อ! ทำงานระดับชาติ คงไม่ต้องพูดถึง มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข ยามเราทุกข์ก็ทุกข์ ยามเราสุขก็ยินดี แค่นี้ก็ยังไม่รอด

จะมองถึงมิตรแท้-มิตรเทียม ให้ทะลุมีความหมายดีสุดๆ แต่กลัวว่าคนเราทุกวันนี้ ตีความซะจนตื้นเขิน มิตรเทียม คือมิตรปอกลอก ดีแต่พูด คอยกัดแทะหาผลประโยชน์ มิตรแท้ คือมิตรที่จริงใจ มีความหวังดี เวลาลำบากเดือดร้อน ก็เต็มใจช่วยเหลือ เวลาเตลิดเปิดเปิง ก็ช่วยเตือนสติสตัง เวลาจะร้อนก็ช่วยทำให้เย็น สรรพคุณมิตรแท้มีมหาศาล แต่บางคนเขาตีความไม่ถึง

เมื่อเป็นมนุษย์เดินดิน ความหมายของมิตรแท้ ก็เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แต่พอเป็น เทวดา หมายถึง เริ่มมีอำนาจ เป็นผู้นำประเทศชาติ ให้มิตรแท้สูตร ๑ มา บางทีก็ยังไร้ผล เพราะมันดีกับเราก็จริง แต่ไม่หวังดีกับคนอื่น! มิตรแท้จึงต้องติดเทอร์โบ เพิ่มพลังงานเป็นสูตร ๒ "ต้องเป็นผู้เสียสละ" เสียสละไม่ใช่เพื่อกันและกัน ไม่ใช่เพื่อเพื่อนรัก แต่เสียสละเพื่อประโยชน์ของประชาชน

มาวันนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๔ มีคนทำงานช่วยเหลือ ช่วยคิดนับร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีอดีตผู้นำนักศึกษา นับสิบคน ที่เข้ามา ร่วมเป็นร่วมตาย กับการบริหารแผ่นดิน บุคคลเหล่านี้ ได้พิสูจน์ทำงาน เพื่อประชาชน มาตั้งแต่วัยเรียนหนังสือ เป็นผู้เสียสละ มีสำนึกเพื่อส่วนรวมมาตลอด หลายๆ คน อาจจะเปลี่ยนไป แต่หลายๆ คน ก็ยังคงเหมือนเดิม ยอดหญ้าอาจจะพลิ้วโอนเอน ล้อตามลม แต่กอรากไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เป็นความหวังส่วนตัว ที่ดับมอดมานานในรัฐบาลทุกยุค วันนี้ไฟปะทุ! งานประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงใด เรามิใช่ต้องการคนเก่ง มีมันสมองเลอเลิศ เก่งเอาเข้าตัว เข้าพกเข้าห่อ เก็บไปฝากลูกฝากหลาน จนประสิทธิภาพของรัฐบาลตกต่ำ ยิ่งกว่าโจร ปล้นฆ่าข่มขืนแกล้งเด็กเสียอีก

หากเป็นวัด คงได้ฉายา วัดสิ้นศรัทธาธรรม! คิดตื้นก็ติดกึก คิดลึกก็ติดกัก! มันคิดแต่จะหาอะไรฝากบ้าน ทำแล้วได้ผลประโยชน์อะไร

โธ่เอ๋ย! เพียงแค่ซื่อสัตย์สุจริต งบประมาณแผ่นดิน จะประหยัดครึ่งหนึ่ง! ยิ่งมาช่วยกันเสียสละ อย่าเล่นแร่แปรธาตุ กับงานบริหารแผ่นดิน เอาประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง ประเทศชาติก็จะได้ ติดเครื่องเทอร์โบเสียที!

ไม่ไหวแล้วนะ แจวเรือข้ามฟาก มันไม่ทันประเทศอื่นเขา เป็นนักการเมืองที่ดี แต่เอางบประมาณแผ่นดินไปไล่แจก หรือบริการชาวบ้าน มันก็ธรรมดา ยังไม่ใช่ "นักเสียสละ" ยังไม่ใช่ "คนของประชาชน" แต่คนที่เคยชักเนื้อของตัวเอง ให้คนอื่นบ่อยๆ คนเหล่านี้ต่างหาก ที่จะพาประเทศชาติรุ่งโรจน์

ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย... ใบปริญญาอาจเป็นแค่กระดาษธรรมดา ๑ ใบ แต่ชีวิตในช่วงนั้น ได้หล่อหลอมให้นักศึกษาหลายๆ คนฝึกเป็นผู้เสียสละ ฝึกชักเนื้อตัวเอง เห็นประโยชน์ส่วนรวม สำคัญกว่าประโยชน์ ส่วนตัว

มาวันนี้ดอกไม้บาน อาจจะยังไม่เต็มที่ แต่เราก็เริ่มมีความหวัง กับคนที่มีภูมิหลัง แห่งการเสียสละ

 

 

อ่านฉบับ 128   อ่านฉบับ 130

(เราคิดอะไร ฉบับ ๑๒๙ เม.ย. ๔๔ หน้า ๖๙ - ๗๑)