ปลุกเสกฯ
บุญญาวุธหมายเลข ๓
เมื่อมรรคผลแห่งพุทธธรรมอุบัติ
ธรรมกายย่อมปรากฏ
ธรรมลีลาเริ่มเคลื่อนไหว
หยดธุลีปรับเปลี่ยนเป็นหยดใส...วาววับ
มีพลังแสงแห่งตน...เจิดจ้า
กิจตนขวนขวายมิรู้เบื่อ มิรู้พัก
ขยับเคลื่อนไหว ร่ายรำ
เข้าหาเผ่าพันธุ์เดียวกัน อย่างขวนขวาย
หยดใส แปรเปลี่ยน ผนึกกำลังเป็นกองทัพ
เป็นสายน้ำยิ่งใหญ่มหัศจรรย์
สร้างปาฏิหาริย์มากมายให้สังคม
ที่ใดมี กินอยู่ มีค้าขาย มีโรงเรียน
มีหลากหลายนานากิจกรรมในสังคม
ปรับเปลี่ยน เป็น บุญนิยม ถ้วนทั่ว
คนเมือง เน้น พาณิชย์ เน้นบริหาร เน้นจัดการ
คนชนบท เน้นเกษตรกรรม สร้างอาหารให้แก่โลก
ทำกสิกรรมไร้สารพิษให้พอกิน
ส่วนเหลือให้แบ่ง ปัน แจกจ่าย ค้าขาย
พึ่งตนจนสำเร็จ
ค่อยเด็ด แจกจ่าย ปล่อยขายให้สังคม
ทำให้มาก ทำให้แข็งแรง
ทำให้เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ให้สำเร็จ
นี้เป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท
วัฒนธรรมบุญนิยม
จะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะว่า
๑. ทำให้เกิดปัญญาที่ดี เป็น EQ โลกุตระ
๒. เป็นไปเพื่อความพากเพียรบากบั่น
๓. ต้องมาร่วมกันสร้าง เหตุปัจจัยที่ดี เช่น อยากให้ชุมชนเข้มแข็ง ก็ต้องหมั่นประชุม
๔. ได้ผลอาศัยที่ดี จากบุพเพกตบุญญตา (บุญที่ทำมาก่อนแล้ว)
๕. เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ไป ตามลำดับ การพรั่งพร้อมกันประชุม และพร้อมกัน
เลิกประชุม จึงจะเป็นอปริหานิยธรรม
๖. เป็นไปเพื่อความยั่งยืนยาวนาน (โอวาทพ่อท่าน สมณะสรณีโย นำมาเทศน์
ในการประชุม กลุ่มภูผาฟ้าน้ำ ครั้งที่ ๑/๒๕๔๔ [๒๑ ม.ค.๔๔] ณ พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ)
บุญนิยมในชีวิตส่วนตัว
(ปัจเจกชน)
อโศกกำลังฝึก ปฏิบัติธรรม โดยใช้ศัพท์เทคนิคนำร่อง นั่นก็คือ "บุญนิยม"
พ่อท่านสร้างเครือข่าย องค์กรมากมาย ทุกองค์กร ยืนอยู่บนฐาน บุญนิยม
ชีวิตญาติธรรมคนเดียว หรือครอบครัว เมื่อประกอบอาชีพ
ทำมาหากิน เลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ก็ต้องยืนอยู่บน "บุญนิยม"
เช่น เดียวกัน
ดังเช่น ญาติธรรม นงนุช โพธิ์บาย (อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย) "ดิฉันได้รับประโยชน์
จากการอ่าน และลูกๆทุกคน มากเลยทีเดียว และแถมยังให้ลูกค้า ที่มาซื้อของ
ในขณะที่นั่งรอ ถ่ายเอกสาร และถ่ายรูป ได้อ่านกัน และทำให้ดิฉัน เลิกขายของ
สิ่งที่ฟุ่มเฟือย ออกได้ โดยเลิกทีละอย่าง เช่น เหล้า บุหรี่ น้ำอัดลม
ซึ่งตอนแรก จะทำยากมาก เพราะกลัวจะไม่มีลูกค้า และตอนนี้ ก็เริ่มสบายใจได้แล้ว
ถึงจะมีรายได้ น้อยก็ตาม แต่ก็พอมีจะกินอยู่ค่ะ"
-
คำที่พูดกันบ่อย เอาเงิน หรือเอากล่อง? บางทีนะฮะ ปฏิบัติแล้ว รายได้อาจต้องลด
เพราะอาชีพ ที่พระพุทธองค์ทรงห้าม ก็ต้องหลีกเว้น เช่น มิจฉาวณิชชา
- เราจะไม่ทำร้าย ทำลายคนอื่น แม้ตัวเอง แม้อาชีพ (เช่น ขายบุหรี่- เหล้า)
- ความเป็นคน เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เราจะไม่ทำร้าย ทำลาย ลูกหลานของใคร
- แม้จะเป็นผู้ส่งเสริม ผู้สนับสนุนก็ตาม
- ถ้าชีวิต คือการเดินทาง ๑ ชาติของเรา ก็มีความหมายเพียง ๑ วินาทีของชีวิตเท่านั้น
- แต่เรากลับ ให้ความสำคัญ ๑ วินาที จนยอมสร้างบาปกรรม สารพัด!
- อาชีพ พึงหลีกเว้น
- การกินอยู่ หลับนอน ก็พึงหลีกเลี่ยง ไม่ก่อบาปสร้างเวร! จุ๊ย์ๆๆ
เกรงใจ
หรือ มาเฟีย
ร้านค้าชุมชนของชาวอโศก บางแห่ง ก็ยังดำเนินนโยบาย อิสระ ตามใจฉัน
ขายของที่ตัวเองอยากขาย เน้นสินค้าจากข้างนอก บางแห่งถึงกับไม่มีเวลาที่จะช่วยขายเท็ปและหนังสือของวัด
ถ้าจะขายต้องส่งคนมา! สมณะท่านก็เกรงใจ ไม่กล้าบอก กลัวจะเสียกำลังใจ
เกิดออกขึ้นมา ใครจะทำ! แต่ให้อยู่ต่อ ก็เอาแต่ส่งเสริมสินค้าต่างประเทศ!
(สินค้านอกชุมชน)
ก็อิหลักอิเหลื่อ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันต่อไป
สัจธรรมจะให้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยนะโยม! จุ๊ย์ๆๆ
ดอกอโศกร่วงหล่น
มี.ค.๒๕๔๔ ญาติธรรมอโศก ก็แสดงกฎไตรลักษณ์อีก ๑ ราย เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
ด้วยวัยยังไม่ถึงเวลา คนอยู่ก็ควรสังวร ระวัง อย่าประมาท ชีวิตนี้น้อยนัก
สั้นนัก จิ้งจก ขอเล่าเกร็ดชีวิต บางเรื่องดังนี้ ญาติธรรม สัมพันธ์
อังกาพย์ละออง หนุ่มใหญ่สงขลา ซื้อ EQ โลกุตระไปเก็บไว้ที่บ้าน แต่ยังไม่ทันอ่าน
ลูกสาวเห็น ก็เลย หยิบเอาไปอ่านจนจบ จบแล้วก็ไปกราบแม่ แล้วก็บอกคุณพ่อ
ให้รีบอ่านซะ วันนี้ไม่รู้คุณสัมพันธ์ ทันอ่าน หรือเปล่า นะฮะ จุ๊ย์ๆๆ
ธรรมะไม่จำกัดกาละ
ไม่จำกัดฐานะ
จากญาติธรรม ไพโรจน์ พงษ์อนันต์ (อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลฯ)
ท่านส่งมา ตรงกับช่วงที่ ผมเกี่ยวข้าว ก็เลยไม่ได้ตอบ แต่ตอนกลางคืน
ผมก็หยิบ มาอ่านทุกคืน อ่านแล้วได้รับ ประโยชน์มาก ข้อเขียนที่ท่านส่งมา
ให้เป็นกำลังอย่างดี เปรียบเหมือน ยาบำรุงจิตใจ ให้แข็งแรงขึ้น เพื่อต่อสู้อุปสรรค
ในชีวิตต่อไป บางครั้ง ผมก็คิดถึง ชาวอโศกทั้งหลาย ที่ทำงานหนัก และสู้กับ
ความลำบากนั้น หากเปรียบเทียบ ที่ผมทำอยู่ ผมก็ยังด้อยอยู่มากครับ ถึงงานที่ผมทำ
อยู่จะท่ามกลาง แสงแดดที่แผดเผา หรือสายฝน ที่หนาวเย็น ผมก็ไม่ท้อ เพราะหนังสือสารอโศก
ทำให้ผมสู้ มาถึงทุกวันนี้ ถึงบางครั้ง ผมจะรู้สึกว่า ผมปฏิบัติตามศีล
๕ ได้ไม่หมดทุกข้อ แต่ผมก็พยายาม จะไม่ทำให้ ชาวอโศกผิดหวัง...
ฮะ อยู่มุมไหนของโลก
(ที่ต้องมีคน) ก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ หลักการปฏิบัติ มีหัวใจอยู่ ๓
ข้อ
๑. เรียนรู้-ลดละ อกุศล ตัวหยาบ-กลาง-ละเอียด
๒. เรียนรู้-เพิ่มเสริม กุศล ตัวหยาบ-กลาง-ละเอียด
๓. เห็นประโยชน์จาก ผัสสาหาร ที่จะกระตุ้น-ขุดคุ้ย-ปลิวฟุ้ง ให้ข้อ ๑
และข้อ ๒ เจริญก้าวหน้า
บันได ๓ ขั้น ถ้าเข้าใจชัดอยู่แล้ว มีแต่การฝึกฝน พากเพียร อันยิ่งๆ
(สัมมาวายามะ) เท่านั้น ที่จะเดินทาง ถึงดวงดารา! จุ๊ย์ๆๆ
เคารพมิสู้ปฏิบัติตามคำสั่ง
อยากให้พ่อท่าน หายเร็วๆ และมีสุขภาพที่แข็งแรง
ดิฉันจะสวดมนต์ภาวนา ขอให้พ่อท่าน หายเร็ว และก็จะปฏิบัติ ตามที่พ่อท่านสอน...
ญาติธรรม สมศรี เจียมรัมย์ (หนองแขม กทม.) เล่าความตั้งใจมา
- ระยะนี้ (พ.ศ.๒๕๔๓)
พ่อท่านจะเน้นอายุตัวเองมากขึ้นนะ ฮะ ๖๖ ปีอีกแป๊บเดียว ก็ ๗๐ อีกนิดก็
๘๐... คิดแล้วก็น่าใจหาย
- ลูกๆ ถ้ายังไม่ตระหนักเรื่องนี้ ถึงวันนั้น ก็สายเกินไป
- พ่อท่านย้ำเสมอ ช่วยอาตมา ก็คือ ปฏิบัติลดละให้มากขึ้น
- ลดละทำอย่างไร จิ้งจกขยายดังนี้ ๑. หัดเป็นคนเอาภาระ อย่าลอยตัว ขยัน
เสียสละ ๒. มีปัญญาย่อยกิเลสเป็น (มองตน) ๓. ทำงานเป็นทีม (บริษัทเดียวกัน)
๔. ไม่เผด็จการ
ความคิด เคารพความคิดเห็น ของคนอื่น เคารพมติ ของหมู่คณะ (ปรโตโฆสะ)
- คติก่อนจาก อย่าหลงงานจนลืมใจ-อย่าหลงใจจนกลัวงาน
ตัวกู-ของกู(อบาย-กาม-โลกธรรม-
ปรมาตมัน)
จากญาติธรรม เกษมสรวล สุดสวาสดิ์(จ.บุรีรัมย์)
พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ หรือท่านสมณะโพธิรักษ์ ท่านสอนว่า อัตตา-มานะ
ทำให้พ่อท่านเหนื่อย และก็ไม่มีอัตตา ตัวไหนที่ ร้ายแรง และทำให้พ่อท่าน
เจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ได้เท่ากับ อัตตาร้าย ในตัวเราเองนั้น อัตตามานะคือ
ความเห็นแก่ตัว คือตัวกู ของกู ที่หลวงพ่อ พุทธทาสภิกขุ สอนนักสอนหนา
ให้ละเสีย อย่ายึดมั่นถือมั่น จะเป็นทุกข์ หรือที่ หลวงพ่อชา สอนว่า
'ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยืดเพราะอยาก ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหลุด
ทุกข์หยุดเพราะปล่อยวาง' นั่นเอง หลวงพ่อชา สุภัทโท แห่งวัด หนองป่าพง
อุบลราชธานีสอนไว้ แนวเดียวกันกับ หลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ และพ่อท่าน สมณะโพธิรักษ์
ก็แนวเดียวกัน...
และอีกรายของญาติธรรม
ทอง กุยแก้ว (อ.ศรีธาตุ จ.อุดรฯ)
การปฏิบัติธรรมของผม ไม่ดีขึ้นเลย เนื่องจากหลาน ซนเหลือเกิน บอกอะไรก็ไม่ฟัง
ชอบทำลาย สิ่งของให้เสียหาย ชอบรังแกคนอื่น ให้เดือดร้อนอยู่เสมอ ทำให้เรา
เกิดอารมณ์ร้าย ในบางครั้ง แต่ก็พยายามอดทน...
พอบอกปฏิบัติธรรม
ใครๆก็มองกันหลากหลายวิธีการ แต่จริงๆแล้ว ธรรมะก็มีขั้นตอน มีปฏิบัติเป็นลำดับ
จากง่ายไปหา ยาก จากหยาบไปหาละเอียด ใครมีบารมี ก็จะลดละได้เร็ว
ตัวกู-ของกู นั้น ถ้าเริ่มต้องเริ่มจาก ของกู ตัดวัตถุฟุ่มเฟือยต่างๆ
ที่ไม่จำเป็น สำหรับชีวิต (อบาย - กาม - โลกธรรม บางส่วน) ไม่แสวงหา
โดยไม่จำเป็น และเมื่อยามมี ก็ไม่หลงใหล
ตัวกู เป็นเรื่องที่ละเอียดขึ้น เป็นด้านโลกธรรม ส่วนกลางส่วนปลาย
และรวมถึง ปรมาตมัน
อารมณ์ที่โผล่มากที่สุด
ก็คือ "โทสะ" รวมไปถึงลูกหลานทั้งหลาย (ไม่พอใจ ขุ่นใจ อึดอัด
ฯลฯ) ขั้นตอนนี้ ถ้ามองตนไม่เป็น เอาขี้มาย่อย เป็นปุ๋ยไม่ได้ ก็ตีลังกา
หกคะเมน อยู่กับใคร ก็อยู่ไม่ได้
ขั้นตอนนี้
ต้องชัดเจน ในเสือหลับ จำเป็นต้องมี "ผัสสะ" มาเป็นตัวล่อ-ตัวช่วย
คนรอบข้างลดบทบาทจาก
ตัวการ เป็นแค่
เด็กแหย่เสือ
ชัดเจนว่า ทุกข์นั้นใครทำให้ ก็คือ ตัวเอง!
ปฏิบัติโจทย์ข้อนี้ ถ้ามัวแต่จับจด หลีกเลี่ยงงานหนัก ก็เหมือนนักเรียน
ไม่เข้าชั้น ไม่มีทาง เจริญในธรรม
เอกายนมัคโค ก็ สอบตก สติปัฏฐานก็ร่วงผล็อย!
ใครสงสัยตัวเองบ้างไหมว่า ทำไมไม่เจริญ เพราะอะไร ก)ใจร้อน ข)ไม่ปฏิบัติลำดับขั้น
ค)ปฏิบัติสติปัฏฐานไม่เป็น (ไม่ ประสาในกาย -เวทนา -จิต -ธรรม)? จุ๊ย์ๆๆ
คนจน-คนรวย
ใครมีโอกาสบรรลุธรรมมากกว่ากัน? "พยายามที่จะปฏิบัติตามเสมอได้บ้าง
ไม่ได้บ้าง ตามสภาวะ สภาพเศรษฐกิจ ของครอบครัว และภาระ ที่ต้องรับผิดชอบ
ในฐานะ ลูกสาวคนโต ของพ่อแม่ มีลูกน้อย ๒ เดือน ชีวิตผ่าตัดมาแล้ว ๑
ครั้ง จึงดำเนินชีวิต อยู่ด้วยความไม่ประมาท พยายามสร้าง ความดี และกตัญญู
ต่อผู้ให้กำเนิด... -วาสนา โกพลรัตน์ (เรณูนคร จ.นครพนม)
กระผมเองที่ไม่ได้ส่งตอบมานั้น
เพราะว่ากระผม ไม่มีเงิน และดินสอ ที่จะเขียนตอบมา ด้วยนะครับ และจะขอแม่
ก็แม่นั้นก็แย่มาก และพี่ชาย ก็คอยจะกิน แต่สุรา (เหล้า) และยาบ้า และคอยแต่โมโห
และว่าแม่ไม่ดี เช่นนี้อยู่เป็นประจำ ทุกๆวัน เวลามีงานที่ไหน ก็จะไปหา
แต่เพื่อนที่ไม่ดี ไปด้วยเช่นนี้ และจะเอาแต่ ไถเงินแม่ เป็นประจำ ทำให้แม่
และ กระผม ต้องคิดมาก... - ส. (อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์)
เคยเป็นผู้สูญเสียบุคคลสำคัญไปมาก
เช่น มารดา บิดา บุตร บุตรเขย ไปไม่เว้นแต่ละปี ทำให้จิตใจ ไขว้เขวเป็นอันมาก
แต่ก็ได้ธรรมนี้แหละ เป็นเครื่องเตือนสติ อยู่เสมอ และก็มิได้ประมาท
ในความตายจักมีมาถึง... -ประเสริฐ สมบูรณ์(อ.แม่จัน จ.เชียงราย)
อดีตเราแก้ไขไม่ได้
แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หมายความว่า ขึ้นกับ กรรมปัจจุบัน ทำดีวันนี้
วันหน้า ก็จะได้ดี หากเชื่อ ในเรื่องชะตากรรม หรือฟ้าลิขิต ก็ขอให้มีกำลังใจว่า
วันหน้า เป็นสิ่งแก้ไขได้
กรรมเก่า มีอิทธิพล ๓๐% กรรมใหม่ให้ไว้ ๗๐% !
วิบากหรือบารมีนั้น อยู่ที่ เจ้าของชีวิต เป็นผู้กำหนด จริงๆฮะ
คนจน ย่อมเห็นสัจธรรม เร็วกว่า คนรวย
คนทุกข์ ย่อมเห็นธรรม ชัดกว่า คนสุข
คนดีพร้อม เกิดมาทุกอย่างเยี่ยม เขาไปเกิด สมัยพุทธกาล หมดแล้วฮะ เพื่อเตรียมเป็น
สาวก พระโคดม
พวกเราดีไม่พร้อม ก็ต้องพากเพียร สู้ต่อไป
ดีต้องสั่งสม ชั่วต้องลดละ เพียรให้มากๆๆๆ เข้าไว้ จุ๊ย์ๆๆ
สถานที่ควรไปหมั่นเยี่ยมเยียน
ในช่วงที่ผ่านมา (วันที่ ๘ ต.ค.๔๓) ผมได้มีโอกาส เข้าไปสัมผัส ชุมชนชาวสันติอโศก
เป็นครั้งแรก ในชีวิต ที่ภูผาฟ้าน้ำ ร่วมกับ ญาติธรรม จากเชียงดาว -ไชยปราการ
-ฝาง -แม่อาย ถึงแม้ทางที่ไป จะแสนลำบากมาก ยิ่งทำให้ผมอยากรู้ อยากสัมผัส
มากขึ้น และ เป็นครั้งแรก ที่ผมได้สัมผัส กับสมณะ ของภูผาฟ้าน้ำ ได้สนทนาธรรม
กับสมณะ ได้ถาม ปัญหาต่างๆ อย่างเป็นกันเอง ทำให้ผม มีความซาบซึ้งมาก
และสัญญา กับตัวเองว่า จะพยายาม มาอีกบ่อยๆ คงจะทำให้ผมรู้ คุณค่าชีวิต
ของความเป็นคน มากขึ้น...
ญาติธรรม
สุทัศน์ ไชยวรรณะ (อ.ฝาง จ.เชียงใหม่) เปิดใจมา จิ้งจกก็อยากเสริม เพิ่มวิชาปฏิบัติธรรม
นำจุดเด่นที่เรามีนำมา อัดแรงเพิ่มพลัง
๑. นอกจาก การลดละกิเลสส่วนตัวแล้ว
๒. ควรเป็นสมาชิกเข้ากลุ่มญาติธรรม เพิ่มกิจกรรม
และสร้าง กัลยาณมิตร
๓. และ หมั่นหาโอกาสไปฟังธรรม ไปทำโน่นทำนี่ ในพุทธสถาน
ของพวกเรา
สังเกตชาวคริสต์ อิสลามซิฮะ เขาไปโบสถ์ไปสุเหร่า ทุกอาทิตย์เลย นี้คือ
วัฒนธรรม ของศาสนิกชน ทุกชาติ! จุ๊ย์ๆๆ
ไฟเผาขยะ
ตบะย่อมเผากิเลส
-ญาติธรรม จัด พลายชุม : จะปลูกผักไว้กินเอง, จะเข้าร่วมกิจกรรม กับหมู่กลุ่ม
ให้มากขึ้น
-ญาติธรรม ทรงยศ สงวนวงศ์ : จะมาประชุมกลุ่ม เดือนละ ๑ ครั้ง
-ญาติธรรม พเยาว์ คชสิทธิ์ : จะไม่ตบยุง, จะกินเจในวันพระ
-ญาติธรรม เลอ ดาษเสถียร : จะลดจิตที่เพ่งโทษผู้อื่น, จะช่วยให้แรงงาน
กับกลุ่ม มากขึ้น
-ญาติธรรม สำรวย ชูค้ำ : จะรักษาศีล ๕ ตลอดไป
-ญาติธรรม ด.ญ.สมทรัพย์ หันแถลง : จะกินเจ, จะตื่น ๖ โมงเช้า
-ญาติธรรม ไข ชมพันธ์ : จะรักษาคำดีงามตลอดไป คือ รักษาวาจา ให้คำพูด
ไม่เป็นอันเสียหาย ต่อหมู่กลุ่ม
จิ้งจกส์
คติประจำเดือนนี้
ปลุกเสกคนให้เป็นพระ(อาริยะ) อย่าปลุกเสกพระ
ให้เป็นปุถุชน (คนกิเลสหนา)