ฉบับนี้ ผู้เขียนได้ข้อมูลมาจากหนังสือ “เปิดโลก” ลำดับที่ ๔๘ ในคอลัมน์สารคดีมันส์ ก็ลองติดตามได้เลยค่ะ

“ฉี่” เชื่อกันว่าเป็นสิ่งขับถ่ายที่ไร้ประโยชน์จากร่างกาย!! แต่อันที่จริง “ฉี่” กลับมีประโยชน์ เหลือคณา!! ถ้าหากยังไม่เชื่อ เชิญอ่านดูก่อน!!!

ในขณะที่เราเชื่อกันว่า ฉี่เป็นของเสียที่ถูกขับออกมา จากร่างกายนั้น พวกอาบัง กลับเชื่อว่า มันคือยา ขนานวิเศษ ที่สามารถ รักษาโรคต่างๆ ได้สารพัดชนิด นับตั้งแต่ ปวดหัว ตัวร้อนธรรมดา ไปจนกระทั่ง โรคร้าย ที่แพทย์ปัจจุบัน รักษาไม่หาย อย่างมะเร็ง เป็นต้น ดีที่แขกไม่บอกว่า รักษาเอดส์ได้ด้วย!

ความพิสดารของฉี่นี้ เป็นที่ทราบกันมาช้านาน นับพันปีแล้ว โดยสมัยก่อนนี้ ชาวอินเดีย จะกินฉี่ตัวเอง เป็นประจำ เพื่อมิให้โรคร้าย กล้ำกรายสุขภาพได้

ในสมัยปัจจุบัน แม้วิทยาการด้านต่างๆ จะก้าวหน้าไปมากแล้ว แต่ชาวอินเดีย บางกลุ่ม ยังเชื่อว่า ถ้าจะรักษาโรคเฉียบขาด แล้วละก็ ต้องกินฉี่คะรับ นายจ๋า!

เคล็ดลับสุดยอด มีเพียงว่า ฉี่ที่นำมา รักษาโรคนั้น จะต้องเป็นฉี่ ของผู้ป่วยเอง ห้ามเอาฉี่แม่ยาย หรือญาติสนิท มิตรสหาย มาดื่มอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจาก จะไม่เกิดประโยชน์ อันใดแล้ว ยังพาลทำให้ ติดโรค จากเจ้าของฉี่ นั้นซะอีก

เหตุผลคือ ระดับสารเคมี ในร่างกาย ของแต่ละคน จะแตกต่าง กันออกไป ทำให้ไม่สามารถ ทดแทนการรักษา ซึ่งกันและกันได้ ดังนั้น ก่อนจะกินฉี่ เพื่อรักษาโรค จึงต้องท่องคาถา เอาไว้ในใจว่า... ฉี่ใครก็ฉี่มัน!

ฟังเผินๆ บางคนอาจคิดว่า เป็นเรื่องขำขัน มากกว่า เรื่องจริงจัง แต่จริงๆแล้ว ของแท้ครับ เรื่องนี้ มีหลักฐาน และการพิสูจน์ จนเห็นผล กับตามาแล้ว

แพทย์แผนปัจจุบัน บางท่าน ก็รับรองว่า ฉี่สามารถรักษาโรค ได้จริง ซึ่งเรื่องนี้ ผมเคยเล่าเอาไว้ ในตอนก่อนแล้ว

มาฉบับนี้ ก็เป็นตอน ที่จะแสดงหลักฐาน บุคคลเสียหน่อยว่า ที่พูดๆมาแล้วนั้น มิใช่เรื่องฝอยกันเล่น แต่หลักฐาน พยานบุคคล ในเรื่องนี้ มีตัวตนจริง

รายแรกก็เห็นจะเป็น คุณบาบูไบ (SHRI BABU BHAI)

คุณบาบูไบที่ว่านี้ แกมีนิวาสสถาน อยู่ที่บอมเบย์ เมืองฟ้าสวรรค์ ที่ คนอินเดีย อยากจะไปเที่ยวกันนั่นแหละครับ ซึ่งก็หมายความว่า แกเป็นคนในเมืองใหญ่ มีการศึกษาและทันสมัยมากๆ แต่ทว่าทุก เช้าบาบูไบจะตื่นตั้งแต่ตีห้า แล้วมาบรรจงฉี่ใส่แก้วสะอาด แล้วก็ดื่มอย่างหน้าตาเฉยเป็นประจำ

อา...รสมันนุ่ม ที่ตะแกดื่มฉี่ทุกๆเช้าอย่างนี้ ก็เนื่องจาก เคยป่วย ชนิดญาติๆ เตรียมตัวไปจอง ศาลาวัด เอาไว้แล้ว เนื่องจาก หมอที่โรงพยาบาล บอกว่า มีหวังได้สวด ค่อนข้างจะแน่นอน แต่สุดท้ายปรากฏว่า นอกจากแก จะไม่ตายแล้ว สุขภาพยังสมบูรณ์ แข็งแรง เป็นเยี่ยม ขนาดคาดหมายว่า หมอคนที่บอกว่า แกจะตายนั่นแหละ คงตายก่อน

ลองฟังคำบอกเล่าของอาบังแกดูครับ

“เรื่องกินฉี่เพื่อรักษาโรคนี้ ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ ต่อเมื่อมาประสบ เข้ากับตัวเอง นั่นแหละ ผมจึงยอมรับว่า มันรักษา โรคได้จริงๆ และ ชนิดร้อยเปอร์เซ็นต์ เสียด้วย “

หยุดบ้วนน้ำหมากแล้ว ก็เล่าต่อ “ผมเจ็บปวดทรมาน เพราะโรคลำไส้ใหญ่ บวมมา เป็นเวลา ช้านานแล้ว นานแค่ไหน คุณรู้รึ เปล่า?... ๑๑ ปี ครับ ความทรมาน ดังกล่าวนี้ เล่นเอาผม หมดอาลัยตายอยาก อยากจะฆ่าตัวตาย เสียวันละ หลายหน ทีเดียว”

“ผมพยายามรักษาโดยไปหาหมอ แทบทุกโรงพยาบาล พบผู้เชี่ยวชาญ เป็นจำนวน นับสิบคน ซึ่งแต่ละคน ก็ตั้งอกตั้งใจ รักษา เป็นอย่างดี แต่ทว่า ไม่มีผลใดๆเลย จนกระทั่ง วันนี้ ผมก็ไปเจอเพื่อนเก่า... หลังจากถาม ทุกข์สุขกันแล้ว เขาก็รู้ว่า ผมเจ็บป่วย ชนิดรักษาไม่หาย จึงแนะนำว่า ยาดีที่สุด ในการรักษาโรคต่างๆ ก็คือ ฉี่ของตัวเองไง”

“ผมไม่เชื่อหรอก” แต่มันไม่มีทางเลือก เนื่องจาก ผมเจ็บปวดมาก ดังนั้น ในที่สุด ผมก็ลองดื่มดู"

“คุณเชื่อมั้ยครับว่า ภายใน ๒ วันเท่านั้นอาการก็ทุเลาขึ้นทันตา! “
“ และภายในครึ่งเดือนต่อมา อาการอักเสบ ของลำไส้ใหญ่ ก็ดีวันดีคืน จนกระทั่ง ๒ เดือนต่อมา ทุกอย่าง ก็หายเป็นปกติ และ หลังจากนั้น เป็นต้นมา ผมก็บอกตัวเองว่า ได้พบยาแสน วิเศษเข้าแล้ว ด้วยเหตุนี้ ผมจึงกินฉี่ตัวเอง ตลอดมา เพื่อรักษาสุขภาพ ให้แข็งแรง”

นั่นเป็นความพิสดาร ของการรักษาโรค ด้วยฉี่ครับ

นอกจากนี้ คุณบาบูไบ แกยังให้คำแนะนำ เกี่ยวกับเทคนิค ในการดื่มฉี่ เพื่อรักษา สุขภาพว่า

“ถ้าจะให้ดี ต้องใช้ฉี่ตอนเช้าตรู่ เพราะปัสสาวะในเวลานี้ จะมีคุณค่า ทางยา มากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีฮอร์โมน และวิตามิน ที่จำเป็น ต่อร่างกาย อีกหลายอย่างด้วย ที่สำคัญ คือ รสชาติกลมกล่อม พอดิบพอดี และมีความอุ่น ชุ่มชื่นคอ อีกต่างหากด้วย “

นั่นไงครับ คำแนะนำของคุณบาบูไบ จากย่านถนนมารีนได้ฟ์ เมืองบอมเบย์ ทำให้ท่าน เกิดอารมณ์ อยากจะลอง ดื่มฉี่บ้างมั้ย?

(สารอโศก อันดับ ๒๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๓ หน้า ๑๑๕ - ๑๑๗ น้ำฉี่ดีจริงหรือ ?.)