ไร้บุญนิยมสังคมอันตราย ป.ปรีดา
ตอน : สำนักงานหลอก(อีกแล้ว)
หนังสือพิมพ์สารอโศก
อันดับที่ 234 มีนาคม 2544

วันนี้ขอนำจดหมายจากพระคุณเจ้ารูปหนึ่ง ที่กรุณาเขียนถึงคอลัมน์นี้ ดังนี้

อาตมาได้อ่านหนังสือสารอโศก อันดับที่ ๒๒๕ ฉบับมิถุนายน ๒๕๔๓ คอลัมน์ไร้บุญนิยม สังคมอันตราย ตอน : สำนักงานหลอก ก็เลยเขียนจดหมายเล่าประสบการณ์ก่อนที่จะมาบวช เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง

พอเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ก็ได้ไปหางานที่กรุงเทพฯ แถววงเวียน ๒๒ เขตหัวลำโพง ทำเกี่ยวกับป้ายโฆษณา

วันหนึ่งก็ไปเจอใบประกาศรับสมัครงานที่ติดอยู่เสาไฟฟ้า เงินเดือนสูงพอสมควร มีสวัสดิการประกันสังคม มีทำงาน ล่วงเวลา ก็เลยอยากจะเปลี่ยนงาน เพราะเห็นว่ารายได้ดี แต่ก็กลัวถูกหลอกเหมือนกัน แต่ด้วยความอยากจะมีรายได้ดีขึ้น เลยตัดสินใจไปสมัคร แต่ก็ตกลงกับเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่เดิมว่า ไปแล้ว ๗ วันไม่โทรศัพท์มาหาหรือติดต่อมา ให้ไปแจ้งตำรวจ ตามเบอร์โทรที่อยู่ในใบประกาศ

ตอนแรกโทร.ไปที่สมัครงาน เขาให้ขึ้นรถเมล์ไปลงสนามหลวง แล้วต่อรถเมล์สาย ๒๐๓ ไปลง ซอยจรัญสนิทวงศ์ แล้วเขาให้พนักงานใส่เสื้อฟอร์มเหมือนพนักงาน มารับที่หน้าปากซอย พอถึงสำนักงานที่เป็นห้องแถว เขาก็ถามประวัติ ขอ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน บอกรายละเอียดเกี่ยวกับโรงงาน เหมือนกับการรับสมัครงานทั่วไป

ขอเล่าลัดเกี่ยวกับคนมาสมัครงานรายอื่นๆ ก่อน แล้วจะเล่าเรื่องอาตมาต่อ คือ เมื่อเขาขอเอกสารต่างๆแล้ว เขาก็จะ ขอเงินค่าสมัคร ตอนที่ผู้มาสมัครล้วงเงินออกมาให้ เขาจะสังเกตว่ามีเงินเยอะหรือเปล่า ถ้ามีเยอะเขาก็จะเรียกค่าประกัน ก่อนเข้าทำงาน ค่าทำบัตรประกันสังคม จนกว่าเงินจะหมดหรือเหลือให้ติดกระเป๋านิดหน่อย เขาจะมีไหวพริบ เฉลียวฉลาด ในเรื่องนี้มาก แต่ละรายจะถูกเรียกต่างกัน แล้วแต่ว่าผู้สมัครจะฉลาดหรือไม่ค่อยฉลาด จะรู้ทันเกมของเขาไหม เมื่อเรียก เงินเสร็จแล้ว เขาก็จะให้พนักงานพาขึ้นรถเมล์ ไปส่งสำนักงานจัดหางานแถววงเวียนใหญ่อีกที

การพาไปส่งสำนักงานจัดหางานนั้น ก็จะได้ค่าหัวอีก คือ หญิงหัวละ ๑,๐๐๐ บาท ชายหัวละ ๕๐๐ บาท เขาจะเรียก กันเป็นหัว และอาตมาเคยสอบถามดูว่า คนที่ถูกนำมาส่งที่สำนักงานจัดหางานแถววงเวียนใหญ่ ได้ทำงานกันไหม จึงรู้ว่าก็ ได้ แต่ไม่ใช่งานที่บอกไว้หรือโฆษณาไว้ และค่าแรงก็ไม่เป็นไปตามนั้น จะมีคนมารับอีกที เช่น ผู้หญิงอาจจะไปเป็นแม่บ้าน บ้าง คนรับใช้บ้าง หรือพนักงานตามโรงงาน ผู้ชายอาจจะไปลงเรือประมงบ้าง หรือพนักงานอย่างอื่น และสำนักงานจัดหา งานก็จะเรียกเงินค่าหัว จากคนที่มารับไปทำงานด้วยเหมือนกัน

บางคนพอมาถึงก็รู้ว่า ถูกหลอก ไม่ได้ให้ทำงานอย่างที่ว่าไว้ก็ไม่ทำ จะมาเอาเงินคืนที่สำนักงาน ตอนแรกก็ไม่ได้เงิน คืน แต่มีไม่กี่ราย ส่วนมากจะยอมจำใจทำงานเพราะไม่มีเงิน ถ้าไม่ได้งานทำ ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร

มาถึงเรื่องของอาตมา ที่รู้เรื่องพวกนี้เพราะเมื่อเขาดูประวัติอาตมาแล้ว เขาไม่ได้เรียกเงินค่าอะไร ได้แต่ถามว่าน้อง มาทำงานกับพี่ที่นี่ไหม ไม่ต้องไปทำงานที่โรงงาน อาตมาก็รับว่าทำ หน้าที่คือไปรับผู้สมัครที่ปากซอยมาที่สำนักงาน พาผู้ สมัครไปส่งที่วงเวียน ๒๒ อีกที โดยผู้สมัครบางรายเคยมีประสบการณ์มาแล้ว พอเห็นสำนักงานก็รีบกลับทันที

หน้าที่ของอาตมาตอนนั้น กลางคืนต้องไปติดใบประกาศรับสมัครตามเสาไฟฟ้า ในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล วันเสาร์-อาทิตย์แจกใบปลิวประกาศรับสมัครตามห้างสรรพสินค้าหรือสะพานลอยที่มีผู้คนสัญจรไปมามากๆ เช่น แถว ตลาดหมอชิต โดยชื่อโรงงานที่ปรากฏอยู่ในใบสมัครจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สุดแต่โรงงานใดมีผู้คนมาสมัครมาก ก็จะ ใช้ชื่อโรงงานนั้นนานพอสมควร ถ้าชื่อโรงงานใดไม่ค่อยมีใครมาสมัคร ก็จะตั้งชื่อโรงงานใหม่ โดยมีหลายสำนักงาน หลายที่ ทำการ ตลอดจนหลายหมายเลขโทรศัพท์ปรากฏในใบประกาศนั้น ซึ่งล้วนเป็นเครือข่ายเดียวกัน

ส่วนสำนักงานที่อาตมาทำอยู่ล้วนเป็นญาติพี่น้อง แต่อยู่กันคนละตรอกซอย คนละเขต ชื่อโรงงานที่อยู่ในใบประกาศ และใบปลิว คือมีโรงงานขนมปัง โรงงานพลาสติก โรงงานเยลลี โรงงานตุ๊กตา ซึ่งไปจ้างพิมพ์แถวเขตคลองสาน อาตมาทำ อยู่ระยะหนึ่ง พ่อแม่พี่น้องทราบข่าวจึงบอกให้ออก

อาตมาสังเกตเห็นที่สำนักงานที่ทำอยู่นั้น มีใบอนุญาตให้ประกอบการของกรมอะไร ที่เกี่ยวกับแรงงานใส่กรอบติดไว้ อย่างดี ช่วงที่ทำงานอยู่ ตรงกับช่วงที่โรงงานเคเดอร์(ตุ๊กตา) ถูกไฟไหม้พอดี

และมีอยู่ช่วงหนึ่ง ช่วงนั้นอาตมาบวชแล้วได้ไปกราบครูบาอาจารย์ที่จังหวัดศรีสะเกษ และเล่าเรื่องนี้ให้พระ-เณรฟัง มีพระภิกษุรูปหนึ่ง อายุพรรษามากกว่าอาตมา บอกว่าท่านเคยถูกหลอกในลักษณะนี้เหมือนกัน โดยสิ่งที่ท่านเจอครั้งนั้น คือผู้จ้างให้ไปลงเรือประมง ท่านก็หนีกลับ

อาตมาเขียนมาเพียงสังเขป เอาแต่สิ่งที่สำคัญ ขอฝากข้อคิดให้ผู้ที่คิดหางานทำ และไปพบประกาศก็ให้ไตร่ตรองให้ รอบคอบก่อน หรือปรึกษาผู้ที่มีความรู้


ผลสะท้อนจากพระคุณเจ้ารูปหนึ่ง...ที่ฝากข้อคิดด้วยความเป็นห่วง สำหรับผู้ที่กำลังหางานทำ ก็คงต้องระมัดระวัง อย่างที่ท่านได้เล่าประสบการณ์มาข้างต้น เพราะปัจจุบันป้ายประกาศที่ติดตามเสาไฟฟ้า โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ มีเกลื่อน เมือง คนตกงาน นอกจากตกงานแล้ว ยังอาจถูกหลอกอีกด้วย

สุดท้าย ผู้เขียนขอฝากอีกเรื่อง ที่พระคุณเจ้าอีกรูปหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีโยมผู้หญิงรูปร่างเตี้ยเล็ก เที่ยวขอความเห็นใจ จากผู้ใจบุญ โดยเฉพาะพระ ซึ่งพระคุณเจ้ารูปนี้ก็ถูกโยมผู้หญิงนี้หลอก ไปงวดแรก ๓,๐๐๐ บาท ค่าเครื่องบินต่างหาก ท่านเล่าว่าเหตุเกิดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โยมมาบอกอาตมาว่า โยมเป็นโรคลูคิเมีย (leukemia*) ต้องใช้เงินจำนวน มากในการรักษา อาตมาสงสารก็จ่ายให้ไป และอำนวยความสะดวก ถึงขั้นซื้อตั๋วเครื่องบินให้ โยมผู้หญิงคนนี้กลับมาอีก ขอพระรูปอื่นๆ ในวัดก็ไม่มีท่านใดให้ อาตมา ก็สงสัยว่า อุตส่าห์ซื้อตั๋ว เครื่องบินให้กลับ แล้วยังบินกลับมาอีกทำไม

วันหนึ่งอาตมาไปพบด้วยตนเองว่า โยมผู้หญิงคนนี้พูดภาษาต่างชาติได้อย่างช่ำชอง และคล่องตัวในการเดินทาง ดู อากัปกิริยาแล้วไม่ได้เจ็บป่วยอย่างที่เคยเล่าให้ฟัง จากนั้นก็รู้ว่าที่โยมเล่าให้ฟังล้วนเป็นเรื่องแต่งทั้งสิ้น ต่อมาทราบว่า มี พระหลายรูปที่มีจิตใจเมตตาอย่างอาตมา ก็จ่ายให้โยมผู้หญิงคนนี้ไปไม่น้อยเหมือนกัน

จึงขอฝากข่าวให้พระคุณเจ้าได้ระวังตัวเผื่อจะไม่ถูกโยมหลอกเช่นอาตมา อาตมาคิดว่าโยมผู้หญิงคนนี้คงเที่ยวเดิน ทางไปหลอกพระจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ พระภิกษุรูปใดมีใจเมตตาก็จะถูกหลอกอย่างที่อาตมาเจอ

ปัจจุบันนี้ ชาวบ้านเดือดร้อน ฆราวาสต่างก็เดือดร้อน โยมฉลาดถึงขั้นไปหากินและหลอกพระ เช่นเรื่องที่ผู้เขียนฟัง มา หากเป็นไปได้ พระคุณเจ้าคงจะช่วยด้วยการแนะนำสั่งสอน ดีกว่าการช่วยด้วยวัตถุเงินทอง ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว เงินทองนั้นก็เป็นวัตถุอนามาส พระพุทธเจ้าเปรียบเงินเช่นอสรพิษ ดังนี้เป็นต้น

ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าผู้ไม่ประสงค์จะออกนามทั้งสองรูป ที่ให้ประสบการณ์เป็นวิทยาทาน ผ่านมายัง คอลัมน์นี้

หากท่านผู้ใดมีประสบการณ์จริงจากชีวิต สามารถส่งมายังคอลัมน์นี้ หรือส่งมาทาง email ข้างต้น
* leukemia โรคโลหิตชนิดหนึ่งที่มีเม็ดโลหิตขาวผิดปกติ และมาก อาการอาจเฉียบพลันหรือเรื้อรังและถึงตายเสมอ (จากหนังสือ สารอโศก อันดับ ๒๓๔ ไร้บุญนิยม สังคมอันตราย ป.ปรีดา E_mail [email protected])

     

(สารอโศก อันดับ ๒๓๔ มีนาคม ๒๕๔๔ หน้า ๓๔ - ๓๗ ไร้บุญนิยมสังคมอันตราย)