จดหมายจากญาติธรรม

-ขุมทรัพย์ถึง บ.ก.
วารสารสารอโศกเป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ แต่ทำไมเอารูปภาพโป๊ แวบๆแวมๆมาประกอบในเนื้อเรื่อง เห็นแล้วหมดศรัทธา ทางโลกเขาก็มีรูปพวกนี้ มากพออยู่แล้ว อย่าเพิ่มอีกเลย คนทางโลกเขาไม่ได้โง่มาก ถึงขนาดต้องเอารูปพวกนี้ มาประกอบ เพื่อให้เห็นธรรมหรอก เขียนมาแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ส่วนคุณจะแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ ก็แล้วแต่ แต่อย่ามัวหา เหตุผลมาอ้าง ก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร / ผู้ต้องการเห็นสิ่งที่ดีกว่า

ขอบคุณสมาชิกที่ช่วยให้คำแนะนำมา ซึ่งปกติแล้วบรรณาธิการ (บ.ก.) จะพิจารณาตรวจสอบทุกภาพ ที่ลงในหนังสือ ว่าไม่เป็นภาพโป๊ หรืออนาจาร จึงอยากขอความกรุณา ให้ช่วยแจ้งด้วยว่า ทางเราลงภาพโป๊ ที่สารอโศกเล่มใด? หน้าไหน? จะเป็นความกรุณาอย่างสูง หากผิดพลาดประการใด จะได้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น -บ.ก.


-วัยรุ่นสนใจธรรม
ได้รับวารสารสารอโศกมา เริ่มอ่านและทำความเข้าใจกับเนื้อหาและข้อความ ความคิดเห็นและคติจากผู้เขียน ความรู้ในวารสารฉบับนี้มีเยอะแยะมากมาย ถึงแม้ว่าจะเน้นไปในทางพุทธศาสนาเสียมากกว่า แต่ก็แฝงความรู้ คติสอนใจที่เข้าใจง่าย
          ซึ่งบางครั้ง ในเรื่องทางศาสนานั้น หรือแม้แต่ศาสนาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักและพิธีกรรมต่างๆนั้น วัยรุ่นสมัยใหม่ จะไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญนัก ก็เพราะเห็นเป็นเรื่องที่ล้าสมัย ไม่ทันยุคทันเหตุการณ์ แต่ในสารอโศก ดอกบัวน้อย มีสิ่งที่โน้มน้าวจิตใจ ให้วัยรุ่นหันมาสนใจ ทางศาสนามากขึ้น ดั่งเช่น ผมเองเป็นวัยรุ่น ที่ไม่ค่อยที่จะได้สนใจ เกี่ยวกับศาสนามากนัก มีชีวิตการยึดถือ สิ่งที่ไม่ค่อยมั่นคง ปัจจุบันนี้ ก็เริ่มที่จะสนใจ ในศาสนามากขึ้น
          มาพูดถึงเรื่องของการถือศีลกินเจ เริ่มแรกตั้งแต่ได้ข้อคิดจากการอ่านวารสาร ก็ตั้งใจที่จะกินเจ ในครอบครัว มีแต่ผม คนเดียวเท่านั้น ที่จะสนใจกินเจ ก็ทำให้ลำบาก แก่ความตั้งใจ ที่จะกินเจ แต่ก็พยายาม
          ปัจจุบันนี้ ผมได้ย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำกึ่งทหาร มีแต่ผู้ชายล้วน การที่จะกินเจนั้น ดูจะยากลำบากมาก ก็เพราะเวลากิน ก็ต้องกินเหมือนกัน หากจะขอแยกกินเจ อาจจะทำให้ถูกลงโทษได้ง่าย ทำให้การกินเจ ต้องยกเลิกไป แต่ก็ตั้งใจว่า เรียนจบแล้ว จะเริ่มกินเจใหม่
          ศีล 5 ก็ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน ก็เพราะวารสาร สารอโศก ดอกบัวน้อย และดอกหญ้านี่แหละครับ ทำให้ผมรู้จักศีล ๕ มากขึ้น / เปียว แซ่เจียว

คิดดีและตั้งใจดีไว้ให้ต่อเนื่องมั่นคง เมื่อเหตุปัจจัยลงตัวพอเป็นไป คุณเปียวจะกินมังสวิรัติได้ทันที ถ้าวัยรุ่น เห็นความสำคัญ ของศาสนามากขึ้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็จะสบายใจ คลายกังวลไปหลายเปลาะ อย่างน้อยก็เรื่องยาอี ยาบ้า ที่ผู้ปกครองมากมาย หายใจไม่ทั่วท้อง กลัวว่าลูกหลาน จะไปลองเสพ แล้วปัญหาจะตามมาอีกมาก รวมไปถึง การเรียนรู้เรื่องเพศ ก่อนวัยอันควร ที่เป็นปัญหาใหญ่ ในสังคมไทย และทั่วโลก -บ.ก.


-ยาเสพติดและสารเคมี
ปัจจุบันนี้ กระผมเข้ามารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๔ จะถึง ๒ ปีแล้ว ๑๑ พ.ค.๒๕๔๐ ได้รับเลือกเป็น อบต.อยู่ได้ ๒ ปี ชาวบ้านก็เรียกร้อง ให้มารับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน
         
ทุกวันนี้ผลการอ่านหนังสือดีทุกอย่าง ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะมันทวนกระแสสังคมมาก ส่วนตัวของกระผมนั้น ถือว่าทรงตัวเท่านั้น ในการปฏิบัติธรรม ศีลข้อ ๓ ยังปฏิบัติยากกว่าทุกข้อ ยังชอบของสวยๆ งามๆอยู่ ในทางจิตใจ ส่วนข้ออื่นๆ แม้จะไม่ได้ ๑๐๐% ก็ยังดีกว่าข้อ ๓ มาก
         
ทุกวันนี้กำลังต่อสู้กับเรื่องยาเสพติดอยู่ กับเรื่องต่อต้านสารเคมีต่างๆ ที่ชาวบ้านหลงติดอยู่ ในปัจจุบันนี้ ทำให้สิ่งแวดล้อม เป็นพิษมาก แต่ประชาชน ก็ยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเก่าๆ ที่เขาติดยึดมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๓๐-๔๐ ปี ไม่คำนึงถึงผลเสีย จึงทำให้ผลผลิตทางการเกษตร ราคาตกต่ำลง ถ้าใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ เขาก็บอกว่า มันเห็นผลช้า แต่ก็มีผู้ปฏิบัติตามแล้ว ปีนี้ประมาณ ๑๐ กว่าคน ปีต่อไป ถ้าเขาเห็นผลผลิตเพิ่มขึ้น ก็คงจะมีผู้ปฏิบัติตาม ปีนี้เป็นปีทดลองดู ถ้าดีก็จะมีสมาชิกเพิ่ม โดยไม่ต้องโฆษณายาก
         
เรื่องที่ ๒ เรื่องยาเสพติดทั้งยาบ้าและกัญชา ส่วนกัญชา จะมีมากกว่ายาบ้า มีทั้งวัยรุ่นวัยแก่ ยากที่จะแก้ ทางราชการ ไม่สามารถจะป้องกันได้ ต้องอาศัยชุมชนช่วยกันแก้ แต่ผู้ปกครอง มักจะปกป้องลูกตัวเอง ในฐานะเป็นผู้นำ เขาน่าจะพยายาม ทำสิ่งที่ดีๆ เป็นตัวอย่าง ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ไม่ท้อแท้ต่อปัญหาที่มีอยู่ จะต้องต่อสู้ต่อไป เอากฎของหมู่บ้าน เข้ามาช่วย โดยมีการประชุม ประชาคมหมู่บ้าน / เกียรติภูมิ

ชอบใจที่ผู้ใหญ่บ้านเกียรติภูมิบอกว่า ไม่ท้อแท้ต่อปัญหา เพียงมีกำลังใจที่จะสู้ ปัญหายาเสพติด และการใช้สารเคมี ปุ๋ยเคมีต่างๆ ก็จะได้รับการพูดถึงมากขึ้น และนำไปสู่การปฏิบัติ เป็นลำดับต่อมา ถ้าคิดแต่ว่า ไม่มีทางแก้ได้หรอก ทำไปก็เท่านั้น ตกลงก็เลยไม่มีอะไร ขยับขับเคลื่อน ปัญหายิ่งสะสม หมักหมมก่อทุกข์ ในวงกว้างมากขึ้น พ่อท่านโพธิรักษ์ เคยกล่าวว่า มีผู้สนใจปฏิบัติธรรม ๑ คน ก็ได้ผล ๑ คน สนใจ ๒ คน ก็ได้ผล ๒ คน เพราะฉะนั้น ท่านจึงทำงาน ได้ผลเสมอ (เพราะอย่างน้อย ก็มีตัวท่านเองแล้ว ๑ คน) จะได้ผลมากหรือน้อย ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย การช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสังคม ไม่มีอะไรง่าย แต่แม้จะยากเพียงไร ก็ควรก้าวไป อย่างมุ่งมั่น กล้าหาญ -บ.ก.


-ติดสุขติดสบายอย่างใหญ่หลวง
คอลัมน์ที่ชอบมากๆในปีที่ผ่านมา ก็เป็นปัจฉาสมณะกับเรื่องเกี่ยวกับกสิกรรมธรรมชาติ แต่ในตอนนี้ อ่านทุกหน้า แทบจะบอกว่า อ่านรวดเดียวจบ จนไม่อยากจะทำอะไร มีความสุขมาก เวลาอ่านสารอโศก เหมือนได้พูดคุย กับเพื่อนที่รู้ใจ แต่ทางมูลนิธิฯ ไม่ได้ส่งหนังสือ ให้ผมมาเป็นปีๆแล้ว เนื่องจากย้ายที่อยู่ และไม่ติดต่อ กับทางชมรม ก็เป็นได้ แต่ก็ได้ยืมญาติธรรมอ่านอยู่
         
อ่านหนังสือมานานหลายปี ก็ได้รับการหล่อหลอมในทางที่ดี ได้พบได้อ่านในคุณความดีของคนอื่น ทำให้ตน ไม่ตกลงไป ในที่ชั่วมากนัก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ชั่ว ก็ยังมีชั่วอยู่ตามสภาพของบุคคล ก็ยังพอรู้ว่าดี เขาทำกันอย่างไร เพียงยังทำ ไม่ได้มากนัก ก็พยายามที่จะกระทำให้มาก ตามรู้ให้มากขึ้น
         
อ่านเรื่องกสิกรรมธรรมชาติแล้ว ก็ให้มีแรงทำเกษตรแบบไร้สารพิษมากขึ้น เวลาท้อแท้หมดหวัง ในการทำ กสิกรรมธรรมชาติ ก็จะอ่านหนังสือสารอโศก ในกลุ่มที่เขาทำประสบความสำเร็จ เคยทำแปลงผัก สวนครัว จากดินเหนียวมากๆ แล้วประสบความสำเร็จ ได้ต้นผักที่อวบอ้วน เหมือนเกษตรเคมี จึงมีความคิด ที่โลภมากขึ้น อยากรวย โดยไม่ต้องลงทุนมากนัก ไว้ใจพื้นดิน จึงคิดริอ่านทำสวนขนาดใหญ่ ประมาณ ๙ ไร่ ทำแล้ว ก็ยังไม่ประสบ ความสำเร็จ ชนิดมีผลผลิตมากมาย แต่ก็สุขใจที่ได้ทำ เพราะดินยังไม่อุดมสมบูรณ์ pH ดินประมาณ ๓-๔ เป็นกรด อย่างมาก เนื่องจากใช้สารเคมี มาอย่างหนัก แต่ก็ไม่ท้อเท่าไหร่หรอก ยังคิดว่าธรรมชาติในบัดนี้ ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเรามีความอดทนพอ ธรรมชาติคงจะจัดสรร ให้ลงตัวได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ทำให้เรารู้ตัวเราว่า เรายังมีความขี้เกียจ ความโลภ ความยึดมั่นหลงใหล ในตัวตนอยู่เป็นอันมาก ที่สำคัญ ติดสุขติดสบาย อย่างใหญ่หลวง ก็พยายาม ขัดเกลา ไปในทางที่เป็นสิ่งที่ถูก ที่ทวนกระแส ความรู้สึกของสังคม ที่แวดล้อมเราอยู่ / พิเชฐ เชื้อวีระชน

ประเทศชิลี ดินแดนที่แห้งแล้งที่สุดในโลก บางส่วนของประเทศเป็นทะเลทราย ที่ไม่เคยมีรายงานฝนตก นักวิทยาศาสตร์ ต้องคิดวิธีทำอุปกรณ์ ดักจับหมอก กว่าจะสำเร็จใช้เวลาหลายปี โดยใช้ละอองหมอก นับสิบล้านเม็ด จึงจะรวมกันได้ เป็นหยดน้ำหนึ่งหยด ขนาดเท่าหัวไม้ขีดไฟ ดังนั้น น้ำทุกหยด จึงมีความหมายมาก สำหรับชาวบ้าน เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก็เริ่มปลูกพืชผักได้ โดยใช้น้ำที่ได้มา จากการดักจับหมอก เมืองไทย มีน้ำ มีดิน อุดมสมบูรณ์กว่า ประเทศแถบทะเลทราย อย่างเทียบกันไม่ติด ที่จริงเราน่าจะมีพืชผัก ผลไม้ ไร้สารพิษกินกัน ทุกครัวเรือน และแจกจ่ายพี่น้อง ร่วมโลกได้ด้วย ถ้าคนไทยตระหนักอย่างจริงจังว่า เราโชคดีแค่ไหน ที่อยู่ในแถบถิ่นแหลมทองนี้ -บ.ก.


-คู่คนละขั้ว
สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ก็คือ ทานมังสวิรัติมาเป็นเวลา ๗ ปีแล้ว และไปร่วมงานปลุกเสกฯทุกปี ปีละ ๑ วัน กับอีก ๑ คืน และไปร่วมงานปีใหม่ ที่ราชธานีอโศก ดิฉันมีโอกาสไปราชธานีอโศกบ่อย เพราะบ้านดิฉันอยู่ใกล้ ระยะทางแค่ ๓๖ กิโลเมตร สิ่งที่ทำไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าดีสักทีก็คือ เรื่องของอารมณ์โกรธ และความใจร้อนจนผิดปกติ ในเวลาทำงาน คือทำร่วมกับสามี สามีจะเป็นคนใจเย็น จนบางครั้ง ดิฉันมองเขาเป็นเฉื่อยชา เมื่อไหร่ที่ดิฉัน มองเขาเป็นเฉื่อยชา นี่แหละเมื่อนั้น ดิฉันก็จะโกรธเขาใหญ่เลย เป็นอารมณ์ที่ไม่ดีเลย เวลาทำงาน ก็จะไม่ได้ผลดี ดิฉันต้องนึกอยู่บ่อยๆว่า "ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนโง่" ก็พอบรรเทาไปได้บ้าง ก็ถือว่าดีที่เบรกได้นะคะ
         
อาชีพของดิฉันก็ทำนา ทำสวนหอมและพริก เลิกใช้สารเคมี และยาฆ่าแมลงทุกอย่าง แต่มีอย่างหนึ่ง ที่สามีเขา ยังไม่เชื่อดิฉัน ก็คือการใช้ยา ฆ่าหญ้าอยู่ อันนี้ดิฉัน ก็จะพยายามทำ ให้เขาเห็นประโยชน์ ของหญ้าอยู่นะคะ / สุภาพร พละศักดิ์

มองในมุมดีว่า สามีช่วยถ่วงดุลความใจร้อนของเรา ใจเย็นลงบางทีจะทำงานได้เร็วขึ้นก็ได้นะ ถ้าคิดว่าสามีเรื่อยๆเฉื่อยๆ ก็ใจเย็นๆ บอกสามีช่วยปรับตัว อีกหน่อยได้ไหม ไม่ต้องใช้อารมณ์รุนแรง ปะทะใส่ งานการอาจจะเสียไปบ้าง นิดๆหน่อยๆ แต่การเสียอารมณ์ ถือว่าเสียมากกว่า
         
ใช้ยาฆ่าหญ้า จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งผู้ใช้และคนรอบข้าง รวมทั้งสิ่งแวดล้อม ควรเลิกใช้ โดยเร็วที่สุด จริงๆ นั่นแหละ - บ.ก.


-ชีวิตแสนสั้น
ดิฉันได้อ่านดอกหญ้าและสารอโศกฉบับเก่าๆ ดีมากค่ะ ทำให้ได้ข้อคิดว่า เราเกิดมาทำไม และ ชีวิตคนเรา แสนสั้น ดิฉันทำงาน ที่โรงพยาบาล ยิ่งเห็นการแก่-เจ็บ-ตาย ไม่เว้นวันค่ะ เราก็ได้เฝ้ามองว่า เมื่อไหร่ จะถึงวันของเราบ้าง ดิฉันพยายาม ถือศีลให้ครบ ๕ ข้อ และกินมังสวิรัติค่ะ
          
ดิฉันได้พบญาติธรรมและชื่นชมมากค่ะ ที่คนหมู่เหล่านี้ ละกิเลสได้ โดยทำเป็น Activity Diary Life (ADL) / จิตต์ลัดดา สุภานันท์

ได้ทำงานพบปะสื่อสารกับเทวทูต ๓ เป็นประจำ นับเป็นการย้ำเตือน ให้ระลึกถึงความหมาย ของการเกิด ความหมาย ของชีวิต อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ชีวิตที่ยังไม่หมดกิเลส ก็โบกมือลาจากโลก ด้วยความทุกข์ทรมาน มากบ้างน้อยบ้าง เพื่อจะกลับมา เวียนว่ายอีกครั้ง และอีกครั้ง และต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่ถึงจุด สูงสุดหลุดพ้นทุกข์
         
ศีล ๕ คือหลักประกันที่ปลอดภัย ประกันชีวิตไว้กับศีล ๕ 'เหนือกว่าบริษัทประกันชีวิตทุกแห่ง' อุ่นใจได้ว่า การได้ร่างมนุษย์ เป็นอันหวังได้ -บ.ก.


-เกือบแล้วเชียว
ได้อ่านหนังสือรู้สึกให้ปัญญา เป็นเกราะป้องกันตัวได้เยอะทีเดียว ปีนี้เจอมรสุมเกือบเอาตัวไม่รอด ปีนี้ตกหลุมรัก เข้าหน้ามืด เกือบจะแต่งงานไปแล้ว มานึกขึ้นได้ เอ๊ะ!เรารักษาความเป็นโสดมาได้ ๓๐ กว่าปี แล้วจะให้อวิชชา ครอบงำได้ไง คิดหาอุบาย จะตีตัวออกห่างได้ไง ก็เลยตั้งข้อแม้ขึ้นมา ๔ ข้อ ถ้าเขารับได้ จึงจะแต่งงานกับเขา
         ๑ .ค่าสินสอดไม่แพง      ๒.ไม่มีลูก      ๓.ไม่รวย      ๔.เข้าวัดในอนาคต
         ผลออกมามีเพียงข้อเดียว เขารับไม่ได้ คือไม่มีลูก ผู้หญิงถ้าแต่งงานต้องมีลูก ถ้างั้นเขาถือว่า ผู้ชายไม่รักจริง เราก็รอดไป ไม่ได้แต่งงานเป็นครั้งที่ ๒ ครั้งแรก ก็ตอนเป็นวัยรุ่น ก็ว่าบรรลุนิติภาวะก่อน จึงรอดมาได้ถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา
         
ผมยึดคำปราชญ์ กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ครองความเป็นโสด หรือประพฤติพรหมจรรย์ ถือว่าเป็นบัณฑิต ที่รอดมาได้ก็เพราะ ได้รับสื่อธรรมะ จากชาวอโศก ได้อ่านประสบการณ์ จากญาติธรรมหลายคน ก็เอามาใช้ กับชีวิตประจำวัน พอประคองตัวไปได้ แต่จิตลึกๆ มันก็เสียดาย แต่จะไม่ทำตาม อารมณ์อยาก จะทนอด จนอดทนได้ / ปัก เพชรดี

พระพุทธเจ้ากล่าวว่า มาตุคามไม่เบื่อในการคลอดบุตร คุณรอดได้เพราะเงื่อนไขข้อนี้ รวมอยู่ด้วยแท้ๆ สาธุ ที่ยังครอง ความเป็นโสดได้ จะต้องเสียดาย อะไรอีกเล่า น่ายินดีต่างหาก -บ.ก.


-มหาโดดข้ามรั้ววัด!
กระผมศรัทธาและเห็นด้วยกับแนวปฏิบัติ หรือแนวทางนี้มานานแล้ว แต่ก็ต้องขออ้างเหตุผลแก้ตัว ออกตัวเหมือน อย่างหลายๆท่าน ที่ปฏิบัติได้ไม่ดีเท่าที่ควรเช่นกัน คือ ความไม่พร้อม ความมีบุญบารมีน้อย จึงปฏิบัติได้ไม่ดี ไม่ก้าวหน้า เมื่ออ่านคอลัมน์ จากโลกีย์ถึงโลกุตระ (ชอบอ่านมาก นิตยสารที่ได้รับอ่าน ทุกคำความอยู่แล้ว แม้บางความหมาย บางเรื่อง จะไม่เข้าใจ หรือเข้าใจไม่ถึงพอ) ก็สาธุด้วยทุกครั้งไป
          
และที่กระผมนำมาปฏิบัติจากการอ่าน ซึ่งเคยอ่านมานานแล้วก่อนสมัครเป็นสมาชิก (เคยเรียนให้ทราบ ในส่วนหนึ่ง ตอนสมัคร เป็นสมาชิกฯ) คือเคยตั้งจิต (อธิษฐาน) งดดื่มสุรา ๑ เดือนบ้าง ๓ เดือนบ้าง (หมายถึง ช่วงเข้าพรรษา ปฏิบัติทุกปี จนถึงปัจจุบัน) ๑ ปีบ้าง นานที่สุด ๒ ปี แต่ก็กลับมาดื่มเช่นเดิม ตอนงดดื่ม ก็ไม่ทาน เนื้อสัตว์ใหญ่ และ ทานอาหารมังสวิรัติบ้าง (ซื้อจากร้าน ศรีสว่าง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของร้าน ท่านเคยชวนไป ศีรษะอโศก)
         
ตอนงดดื่ม คนเขาเรียกมหา พอกลับมาดื่ม เขาเรียกมหาโดดข้ามรั้ววัดแล้ว ก็ละอายใจตัวเอง มากเหมือนกัน กระผมขอ จบเท่านี้ก่อน และขอเป็นกำลังใจ (แม้เป็นกำลังใจ อันอ่อนแอมากๆ) ขอกราบขอบพระคุณ ทุกท่าน ทุกอณูเนื้อ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประสาน ผลักดันให้เกิดกิจกรรม ที่เป็นประโยชน์ อันทรงคุณค่า ต่อมวลมนุษยโลกนี้ อีกครั้งหนึ่ง / มงกุฏ ปราสาร

รีบกระโดดข้ามรั้วกลับคืนสู่ในเขตวัดโดยเร็วเถิดนะ ที่ผ่านมาอภัยให้หมดแล้ว -บ.ก.


-ไม่เคยถูกสักงวดเดียว
สังคมนับวันมีแต่คนที่เห็นแก่พวกพ้อง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่ค่อยจะมองเห็น ประโยชน์ส่วนรวม โดยเฉพาะ ที่สำคัญ จิตใจผู้คน ไม่ว่าจะตามชนบท หรือสังคมเมือง ที่เขาว่าเจริญแล้ว ส่วนมากจิตใจคน จะเสื่อมจากศีลธรรม ทั้งนั้นเลย ถึงวัตถุสิ่งของ อำนวยความสะดวก ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สำหรับจิตใจผู้คน ก็ห่างเหินจากธรรมะ
         
หนังสือสารอโศก จึงเป็นหนังสือสุดยอดจริงๆ สำหรับตัวผม ทำให้ผมเห็นอริยสัจ ความจริงที่ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เราเป็นผู้มาอาศัย ในโลกใบนี้เท่านั้นเอง ไม่ควรไปติดยึดอะไร ให้มันมากนัก
         
อานิสงส์จากการอ่านหนังสือสารอโศก หนังสือดอกหญ้า ทำให้ผมปฏิวัติตัวเอง และ นำเอาประสบการณ์ ปฏิบัติธรรม ของญาติธรรม แต่ละท่าน เป็นแนวทางการศึกษาธรรมะ เอามาปฏิบัติกับตัวเองด้วย ผมตั้งอธิษฐาน กับตัวเองว่า จะขอกินอาหารมังสวิรัติ ตลอดชีวิต อบายมุข ผมละได้หลายอย่างแล้ว เช่น เหล้า บุหรี่ การพนันทุกอย่างไม่มี
         
แต่ก่อนที่ผมยังไม่ได้ศึกษาธรรมะนั้น ผมติดหวยใต้ดินมากเลย (หวยเถื่อน) ต้องซื้อทุกงวด ขาดไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยถูก สักงวดเลย แต่ก็หวังทุกงวด สมัยทำงานนั้น เงินไม่ค่อยเหลือ แต่ปัจจุบันนี้ ตั้งแต่ได้รับแนวทาง การปฏิบัติธรรม จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พ่อท่านนำมาถ่ายทอด ให้ญาติธรรม พี่น้องชาวอโศกทุกท่าน ผมอีกคนหนึ่ง ที่นำเอามาปฏิบัติจริง ก็ได้ผลจริงๆ ผมสามารถจับต้อง สัมผัสกับจิตตัวเอง รู้ได้เลยว่า จิตที่จะยินดี อยากเที่ยวก็ไม่มี เพื่อนในบ้าน ชวนกินเหล้าทุกวัน เวลาเขาเมามา แต่ผมก็เข้าใจพวกเขาดี ก็พยายามอ่านจิตตัวเองว่า มีอารมณ์ โกรธเขาไหม เราก็รู้ว่าเราไม่มี เพราะเราเข้าใจพวกเขา ตอนนี้เราลดมาได้ขาดแล้ว แล้วก็มั่นใจด้วยว่า จะไม่กลับไปหา พวกอบาย อีกเด็ดขาด
         
ทุกวันนี้ ตื่นนอนบางวันก็ตีสาม บางวันก็ตีสี่ เพื่อลุกขึ้นมาทำความเพียร สวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตาให้ตนเอง และผู้อื่น เพื่อให้ทุกท่าน มีแต่ความสุข ความเจริญ ทุกวันนี้ ตั้งจิตอธิษฐาน ปฏิบัติ เพื่อทางพ้นทุกข์อย่างเดียว / สุขเนตร

ถ้าถูกหวยจะทำให้ติดใจ อยากเล่นไปเรื่อย จะเลิกได้ยาก ไม่ถูกสักงวดเลย นับว่าบุญช่วย ไม่ต้องสัมผัส รสชาติ อารมณ์ยินดี ที่ทำให้ขาดทุน จิตวิญญาณเปล่าๆ เลิกเล่นหวยได้ ใจจะคลายกังวล ไม่ต้องใจจดใจจ่อ รอฟังข่าวว่า จะออกเลขอะไร -บ.ก.


-ได้ดมกลิ่นนิดหน่อย
ผมอ่านทุกเล่มทุกเรื่องอย่างจริงใจ แต่การปฏิบัติไม่ได้ดีเท่าที่ควร ผมลดละได้เพียงไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า และ การมาร่วมกิจกรรม กับหมู่กลุ่มไม่ได้ เหมือนสมาชิกอื่นๆ เพราะสุขภาพไม่ค่อยดี อายุก็มากเข้า ๗๑ ปีนี้ ปลายปี ๔๓ กับต้นปี ๔๔ ก็ไม่สบายอย่างหนัก เข้าโรงพยาบาล ๒ ครั้ง ประมาณครึ่งเดือน ตั้งแต่ตอนนั้นมาค่อยดีขึ้น
         
ผมขอย้อนหลังเมื่อปี ๒๕๔๐ ผมได้ไปราชธานีอโศก ในงานปีใหม่ ต้อนรับปี ๒๕๔๑ ครั้งเดียว คราวนั้น เหมือนพ่อท่านพูดว่า "ได้ดมกลิ่นนิดหน่อย ก็กลับบ้านไป"
         
ผมรู้ข่าวคราวบ้าง ก็เนื่องจากได้รับหนังสือสารอโศก ดอกหญ้า เราคิดอะไร ที่ทางอโศก และ บ.ก.ให้ไปนั้นเองครับ ที่ว่าหนังสือ เราคิดอะไร ผมชื้อจาก สมาชิกรับไปขาย ที่ประโคนชัย (คุณบุญเลิศ ชาวสวน) ครับผม / ศุภลักษณ์ ทองศรี

ได้กลิ่นแห่งธรรม แต่ยังจำประทับใจไม่ลืม นำธรรมะนั้นไปฝึกฝนปฏิบัติ เลิกบุหรี่ เลิกเหล้าได้ นับว่ากลิ่นธรรมะ หอมเข้มข้นจริงๆ -บ.ก.


-มังสวิรัติในงานศพ
หนังสือธรรมะสารอโศกได้รับแล้วทุกๆฉบับ พร้อมทั้งนิตยสารดอกหญ้า จึงขอขอบคุณ ที่ให้หนังสือเป็นทาน เพื่อให้กระผม มีแนวคิดปฏิบัติ ตามพ่อท่านที่ได้บรรยายไว้ ในหนังสือทุกๆ สาระถ้อยคำของพ่อท่านมีสาระ และให้การ ปลุกจิตสำนึก ในสถานการณ์อย่างปัจจุบัน ต้องประหยัด กระผมก็ได้ทำ ตามแนวทางนี้มาตลอด คือยึดหลัก แบบเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงด้วย คือบ้านผมผักปลูกเอง เกือบทุกชนิด ในผืนดินที่คับแคบ และก็ไม่สุรุ่ยสุร่ายด้วย ทำให้ชีวิตและครอบครัวผม ไม่ค่อยเดือนร้อนเท่าไหร่ ตรงกันข้าม กับคนบางพวก ที่ยังไม่สำนึก ต่อคุณค่าของเงิน บางคนขาย ที่นาที่ไร่ ก็ไปถลุงการพนัน เกือบหมดตัวไปก็มี แต่ผมก็นับว่าโชคดี ที่ไม่เป็นอย่างเขา
          มีเรื่องเล่าให้ฟังอีกเรื่องหนึ่งคือ เมื่อปี ๒๕๔๓ ประมาณเดือนพฤศจิกายน ได้มีครอบครัวหนึ่ง ซึ่งลูกแก ได้ถึงแก่กรรมไป ทางพ่อแม่ของแก ได้ใช้อาหารเจเลี้ยงแขก ที่มาช่วยงาน ปรากฏว่า ชาวบ้านที่มาช่วยงาน ในวันนั้น เดือดร้อน ถึงกับจะตัดขาดจากกัน โดยจะไม่เอาเป็นพี่ เป็นน้องกันเลย มีทั้งผู้นำในหมู่บ้านด้วย โดยพากันผละจากไป บ้านใครบ้านมันเสีย ไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือเท่าไร มีแต่บุคคลที่เข้าใจเท่านั้น ช่วยกันทำศพ
         
ปัจจุบันนี้ ทางบ้านเขาถ้ามีงานศพ จะต้องล้มวัวควายหมู เหล้า การพนันจิปาถะ เหมือนกับมี งานฉลองกันเลย นี่แหละครับ สังคม ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ เพราะครอบครัวที่ตายนั้น เขากินเจ มาหลายปีแล้ว เขาจึงเลี้ยง ตามมีตามเกิด เพราะเขาก็ไม่ใช่ คนร่ำรวยอะไร ก็หาเช้ากินค่ำ อย่างเรานี้แหละ จะมีวิธีแก้ไข อย่างไรบ้างหนอ ที่จะให้บุคคลเหล่านั้น ได้รู้คุณค่า ของการกินเจ และประหยัด ทั้งไม่ต้องเบียดเบียน เพื่อนร่วมโลกเดียวกัน / ประเสริฐ สมบูรณ์

ถ้าผู้ใด มั่นใจในทิศทางมังสวิรัติ เราก็ทำของเราไป เพื่อนบ้านยังไม่เข้าใจ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่า มีตัวอย่างการจัดงานศพ โดยไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ต้องเลี้ยงเหล้า ได้เกิดขึ้นแล้ว ใครทำดีก็สบายใจได้ การทำดีให้ดู คือการบอกแบบเงียบๆ ถ้ากาละเอื้ออวยให้ จึงค่อยเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ -บ.ก.


จดหมายจากญาติธรรม หนังสือสารอโศก อันดับที่ ๒๓๙ สิงหาคม ๒๕๔๔ หน้า ๒๙ - ๓๘