สมัยโบราณประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา ทำสวน
เป็นอาชีพหลักของ ประชาชนในประเทศ เมื่อยุคสมัย เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำเกษตร
หรือกสิกรรมลดจำนวนลง เมื่อประชาชน ทำกสิกรรมน้อยลง
แต่ต้องการ ผลผลิตมากขึ้น จึงหันไปใช้ สารเคมีมากขึ้น ต้นทุนก็สูงขึ้น
สุขภาพก็แย่ลง
"การทำกสิกรรมไร้สารพิษ"
เป็นแนวทางในการลดต้นทุน และสามารถทำให้สุขภาพของผู้ผลิต มีสุขภาพที่ดีขึ้น
ห่างไกล จากสารพิษ ที่เข้าสู่ร่างกาย ดินก็จะกลับมา อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
ฉบับนี้จะพาท่านผู้อ่านไปพบกับ... ผู้ที่ประสบผลสำเร็จเบื้องต้น
จากการทำกสิกรรมไร้สารพิษ ที่หมู่บ้านยางออม อ.ขุนตาล จ.เชียงราย คือ พ่อหน่อ
เจริญการ ซึ่งทำสวนส้มโอ แบบผสมผสาน เกือบ ๒๐ ไร่ พ่อหน่อ มีอุดมการณ์
ในการทำ กสิกรรมไร้สารพิษ อันดับแรก ที่พ่อหน่อให้ความสำคัญ คือ สุขภาพ
ถาม: มีแนวคิดอย่างไรคะ จึงทำสวนส้มโอไร้สารพิษ?
ตอบ: คิดว่ามันดีต่อสุขภาพ ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา
และอีกอย่างก็ลดต้นทุน ในการซื้อปุ๋ยเคมี ซึ่งเมื่อก่อนโน้น เราก็ซื้อปุ๋ยเคมีมาใส่
ผลผลิตก็น้อย สุขภาพเราก็แย่ลง พอได้ไปศึกษา เกี่ยวกับการทำกสิกรรม แบบไร้สารเคมี
มันดี เราก็เลยมาทำ แบบไร้สารพิษ
ถาม : พอเปลี่ยนมาทำกสิกรรมแบบไร้สารเคมียากไหมคะ?
ตอบ: ยากมาก เพราะมันจะไม่เติบโตเลย
ช่วงแรกๆที่เรายังไม่รู้วิธี เราก็ใส่ปุ๋ยชีวภาพ เดือนละ ๒ ครั้ง เมื่อก่อนใส่สารเคมี
บ่อยกว่านี้อีก พอระยะหลัง เริ่มรู้ว่า ดินมันยังปรับตัวไม่ได้ ทุกวันนี้รู้แล้วว่า
การใส่ปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งเป็นปุ๋ย ที่เราสามารถ ผลิตเอง ทำเอง ใส่ไปเถอะ ๕
วัน ๑๐ วัน ใส่บำรุงดินไปเถอะ แล้วพืชหรือต้นไม้ของเรา ก็จะเติบโต ช่วงแรก
ที่เปลี่ยนแปลง ควรใส่ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ให้บ่อยๆ ในการปรับสภาพของดิน
ถาม:เมื่อเปลี่ยนวิธีปลูก ประสบปัญหาด้านผลผลิตหรือไม่คะ?
ตอบ: ประสบปัญหาแน่นอน แต่ถ้าคิดอยากจะเลิกใช้สารเคมี
เพื่อสุขภาพของเราเอง ก็ไม่ต้องไปกังวล กับผลผลิตว่า จะได้มาก ได้น้อย
เท่าเดิม กว่าเดิมหรือไม่ ควรทำแบบพออยู่ พอกินไปก่อน เมื่อผ่านไปสักระยะ
๑-๒ ปี ก็จะได้ผลผลิต ดีขึ้นมาเอง แต่ทั้งนี้ ควรจะปรับปรุงดิน ด้วยน้ำหมักชีวภาพ
ที่เราผลิตเองได้ และควรทำใจอดทน รอคอย อย่าคาดหวังว่า ผลผลิตของเรา ต้องเยอะทันที
หรือเยอะเหมือนเมื่อก่อน
ถาม: เมื่อหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพ
ได้ผลอย่างไรคะ?
ตอบ: ผลจำได้คือ ผลของส้มโอก็จะติดผลมากขึ้น
รสชาติก็จะเปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งเมื่อก่อนเราหลงเชื่อ ตามเขาโฆษณาว่า ใช้สารเคมี
หากจะเอารสชาติ ต้องเป็นสารเคมีสูตร ๑๓-๑๓-๒๑ พอเราซึ้อมาใส่ก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่
แต่พอเราหันมา ใช้น้ำหมักชีวภาพ หรือน้ำจุลินทรีย์ สูตรเข้มข้น ฉีดแค่
๑๐ วันครั้ง หรือ ๒๐ วันครั้ง กลับได้ผลดีกว่า และส้มโอไม่ร่วงมาก เหมือนสมัยที่ใช้สารเคมี
สมัยใช้สารเคมี แมลงก็เยอะ ส่วนน้ำหมัก ที่เรานำมาฉีด เพื่อกันแมลง ก็จะเป็นสะเดา
กับ หางไหล นำมาหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ
ถาม: ประหยัดต้นทุนอย่างไรคะ
กับการหันมาทำสวนไร้สารพิษ?
ตอบ: ประหยัดได้มากทีเดียว เพราะปุ๋ยที่เราใส่บำรุงต้นไม้ บำรุงดิน
เป็นปุ๋ยชีวภาพที่เรา ผลิตเอง ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาผลิตก็คือ วัชพืช พืช
ผัก ผลไม้ และเราสามารถใส่ปุ๋ยชีวภาพ ให้กับต้นไม้ของเรา มากเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นอันตราย
เมื่อเราปรับปรุงดิน ให้มีสภาพดีขึ้น ต่อไปเราก็ไม่ต้องทำอะไรมาก ต้นไม้ของเรา
ก็จะออกผลผลิต ตลอดฤดูกาลเลย เราก็มีเวลา เหลือมากขึ้นในการทำปุ๋ย ตัดกิ่ง
ตัดชำ ปักชำ นี่คือสิ่งที่ได้ เมื่อหันมาทำแบบไร้สารพิษ
ถาม: น้ำหมักชีวภาพมีสูตรอะไรบ้าง
และใช้อะไรคะ?
ตอบ: ก็มีสูตรเร่งต้น เราก็นำวัชพืชมาหมัก
สูตรเร่งผล ก็นำผลไม้ ผลอะไรก็ได้นำมาหมัก ส่วนสูตรเร่งใบ เร่งดอก นำต้นกล้วยหรือหน่อไม้ก็ได้
ผักบุ้งก็ดี นำมาหมัก แล้วนำไปฉีดให้กับต้นไม้ที่เราปลูก น้ำหมักชีวภาพ
สามารถใช้ได้ กับสวนที่ปลูกทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะส้มโอ อย่างเดียวนะ แต่ยกเว้นสวนผัก
ห้ามใช้สูตรเร่งผล เร่งดอก เพราะจะทำให้ผัก ที่เราปลูกแคระแกร็น
ถาม: ปัจจุบันเผยแพร่ปุ๋ยที่ทำไว้บ้างไหมคะ?
ตอบ: ก็มีบ้าง ทำปุ๋ยชีวภาพจำหน่าย ซึ่งสวนข้างๆเขาเห็นว่า
ทำไมสวนเราไม่มีแมลงมารบกวน แถมได้ผลผลิตดี เขาก็มาถาม เราก็แนะนำ แล้วเขาก็ซื้อปุ๋ยจากเราไปใช้
เขาก็บอกได้ผลดี ทำให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคาถูก บางทีก็มีแจกบ้าง ต่อไปคิดจะทำแบบครบวงจร
ทั้งตัดกิ่งเพาะพันธุ์เอง ทำปุ๋ยชีวภาพ ที่คิดจะทำแบบครบวงจร เพราะว่า
อยากให้คนที่ทำสวนทำไร่ มีสุขภาพที่ดีขึ้น และคนที่รับประทานก็ปลอดภัย
ทำมาเพียงแค่ ๔-๕ ปี ยังเห็นผลดีขนาดนี้ ต่อไปดินของเราก็จะกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อีก
สุขภาพทีดี แข็งแรง ปลอดภัยจากสารพิษ
หาซื้อไม่ได้ แต่ตัวเราเองสามารถทำตัวเรา ให้ปลอดจากสารพิษได้ เมื่อประชาชนสุขภาพดี
ประเทศชาติก็ย่อมแข็งแรงมั่นคง เศรษฐกิจ ก็ย่อมจะดีขึ้นแน่นอน
*มะเหมี่ยว
|