|
||||
หอมดอกพุทธา ...แม่น้ำ
ลักขิตะ |
สารอโศก |
|||
|
||||
เราสัมผัสได้ถึงความร้อนเร่าภายในใจ เมื่อไฟแห่งพยาบาทประทุอยู่ในอก... ผู้มีใจมากพยาบาท มิอาจเข้าถึงดินแดนแห่งความสงบสุข มีแต่จมอยู่กับความทุกข์ ร้อนเร่า ไฟนรก ประตูแห่งความสุขจะเปิดอ้า ถ้าเราหยุดพยาบาท อาฆาตแค้น คนที่ทำร้ายเรา.. ศาสนาคริสต์ สอนว่า เมื่อเขาตบแก้มซ้าย จงเอียงแก้มขวาให้อีกที เป็นการสลายอัตตา แนวอหิงสาธรรม ยอมเขาได้ ทั้งใจและกาย แม้กายจะเจ็บ แต่ใจไม่ทุกข์ ส่วนพุทธปรัชญาสอนว่า... เราจะเข้าถึงความสุขสงบ หากไม่ผูกพยาบาท คนผู้ให้ร้ายป้ายสีเรา.. เมื่อพระเจ้า ไม่สามารถ ทำคนเลว ให้หมดไปจากโลกนี้ คนดีจึงต้องถูกใส่ร้าย เป็นธรรมดา บัวยังต้อง เกิดใต้ตม คนดีไม่ผ่านชะตาอันเลวร้าย ไม่ฟันฝ่าอุปสรรค ไม่ถูกบีทา จากคนชั่ว มีหรือสังคมจะยอมรับว่า เป็นคนดีที่เก่งจริง คนดีทุกยุคทุกสมัย ล้วนผ่านกระบวนการให้ร้ายมาแล้วทั้งนั้น ทองแท้มิแปรเป็นอื่น แม้ถูกจับโยนลงสู่โคลนตม... คนดีก็เฉกนั้น แม้อยู่ท่ามกลางคนชั่ว ก็ไม่ชั่วไปกับเขา การที่เราจะดีหรือเลว มิได้ขึ้นอยู่กับลมปากผู้ใด เขามีสิทธิ์พูดว่าเราเสียหาย แต่เราจะ เป็นอย่างที่เขากล่าวหาหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่อง ที่เราต้องพิจารณาเอาเอง หากจริง ก็รับไปแก้ไข ถ้าไม่จริง ก็เป็นบาป วจีทุจริตของเขาเอง อย่าให้ใจเรา สัมผัสบาป ด้วยการ ผูกพยาบาท เจ็บแค้น ลมปากไม่สามารถทำให้คนเจ็บใจ แต่เพราะคนเอาใจเข้าไปยึดคำพูดนั้น ก่ออารมณ์ทุกข์ ใส่ตัวเอง อภัยให้กับศัตรู เมตตาสงสารคนผิด ที่คิดว่าตนถูก เพราะเขาไม่รู้... ปล่อยวาง อย่างเข้าใจ ในสัจจะ แล้วเราจะมีชีวิตอยู่ อย่างผาสุก ไม่ทุกข์ร้อน ด้วยไฟพยาบาท |
||||
|
||||
หอมดอกพุทธา หนังสือสารอโศก อันดับที่ ๒๔๑ เดือนตุลาคม ๒๕๔๔ หน้า ๑๔๓ |
||||